(0)
@ พระบ้าน เคาะเดียวครับ***พระผง รุ่นนาร์กีส ครบสามสีขาวแดงดำจัดสร้างโดย ท่าน สรรเพชญ ธรรมาธิกุล ( ชุดที่ 4 )








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต





ชื่อพระเครื่อง @ พระบ้าน เคาะเดียวครับ***พระผง รุ่นนาร์กีส ครบสามสีขาวแดงดำจัดสร้างโดย ท่าน สรรเพชญ ธรรมาธิกุล ( ชุดที่ 4 )
รายละเอียด จัดส่ง EMS ให้ฟรีทั่วไทย ทุกรายการทุกราคา
( ส่งทางไปรษณีย์ไทยอย่างเดียวเท่านั้น

*** หยุดวันเสาร์ และ วันอาทิตย์ ***

พระผง รุ่นนาร์กีส สีขาวพิธีปลุกเสก ณ เทวาลัยจตุคามรามเทพ เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ขนาด 5 ซม พระคัดสวยๆ
ตำนานการสร้างวัตถุมงคลอันมีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจายไปทั่วแผ่นดินไทยและทั่วโลก ซึ่ง “องค์จตุคามรามเทพ” ร่วมกับ พล.ต.ท. สรรเพชญ ธรรมาธิกุล สร้างขึ้นในปี “พระราหูอวตาร” ครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ จนกระทั่งถึงปี “พระราหูอวตาร” ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ วัตถุมงคลซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดของความศักดิ์สิทธิ์ ผ่านการพิสูจน์จากเหตุการณ์สำคัญยิ่งใหญ่ที่สุด ก็คือ “พระผงจตุคามรามเทพ”
เหตุที่กล่าวเช่นนี้เพราะว่าในการสร้าง “วัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” ที่สร้างขึ้นในปี “พระราหูอวตาร” เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘ จนกระทั่งถึงปี “พระราหูอวตาร” อีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ล้วนแต่มีชื่อเรียกไปให้สอดคล้องกับปรากฏการณ์ของดวงดาวในจักรวาลและตามวัตถุประสงค์ในวาระที่สร้างขึ้น
แต่ “พระผงจตุคามรามเทพ” ที่สร้างขึ้นในปี “พระราหูอวตาร” พ.ศ. ๒๕๔๙ เกิดจากความประสงค์ของ “องค์จตุคามรามเทพ” ต้องการพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง เมื่อล่วงรู้ว่าในช่วงเวลา “พระราหูอวตาร” ดวงชะตาของบ้านเมืองกำลังตกอยู่ในข่ายเคราะห์ร้ายแรงมาก
เนื่องจาก “ดาวพระเสาร์” จะโคจรเข้าทับ “ดาวพระจันทร์” ของดวงเมือง ในขณะเดียวกัน “ดาวพระราหู” ซึ่งเป็นเพื่อนเกลอคู่หูว่าอะไรว่าตามกัน โคจรส่งเสริมให้แสงอยู่ในราศีธาตุน้ำ ดาวบาปเคราะห์ร้ายที่มีอำนาจแข็งแกร่งที่สุดกำลังจะทำลายดวงเมือง “ดาวพฤหัสบดี” ซึ่งถือว่าเป็นดาวธงชัย โคจรอยู่ในภพมรณะ ไม่มีฤทธาอานุภาพแม้กระทั่งจะช่วยเหลือตัวเอง ผู้ที่มีความรู้ในวิชาโหราศาสตร์ ย่อมรู้ว่าปรากฏการณ์ของดวงดาวเช่นนี้ บ้านเมืองของเราจะต้องประสบกับเคราะห์ร้ายอย่างแสนสาหัส อันเกิดมาจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง แตกแยกออกเป็นฝักเป็นฝ่ายรบพุ่งฆ่าฟันกันเป็นจลาจล แผ่นดินลุกเป็นไฟเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เศรษฐกิจของชาติจะพังพินาศย่อยยับ ทั้งยังเกิดมหันตภัยธรรมชาติเบียดเบียนซ้ำเติมให้แหลกลาน หากไม่ช่วยแก้ไขไว้ล่วงหน้าแล้ว ยากที่จะกลับฟื้นคืนดีขึ้นมาได้ในเร็ววัน
“องค์จตุคามรามเทพ” เห็นว่ามีอยู่เพียงหนทางเดียวที่จะช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติผ่อนหนักเป็นเบาได้ก็คือ การสร้าง “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ขึ้นจากอำนาจจิตของ “เทพศักดิ์สิทธิ์” เป็นวัตถุมงคลและทำพิธีปลุกเสกใน “ฤกษ์และยามศักดิ์สิทธิ์” ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อต่อต้านคลื่นพลังรังสีของดาวบาปพระเคราะห์ร้ายให้บรรเทาเบาบางได้ ไปตามกระบวนการ “ทำดินให้เป็นดาว”
กรรมวิธีในการสร้างสรรค์วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์ในแบบ “ทำดินให้เป็นดาว” ด้วยพลังอำนาจ “จิตศักดิ์สิทธิ์” ดังกล่าว “องค์จตุคามรามเทพ” จึงขอให้ พล.ต.ท. สรรเพชญ ธรรมาธิกุล เป็นผู้จินตนาการภาพของ “องค์จตุคามรามเทพ” ในท่าประทับนั่งประทานพรเหนือบัลลังก์บัวบาน แต่งองค์ทรงเครื่องให้มีความวิจิตสง่างาม ประดิษฐานกลางดวงตราพระราหู ให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๕ เซนติเมตร เท่ากับกำลังตัวเลขของ “ดาวพฤหัสบดี” ซึ่งเป็นดาวประธานของฝ่ายดาวศุภเคราะห์ ผู้มีฤทธาอานุภาพบันดาลให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองมั่นคงแก่มวลชีวิตส่งเสริมให้การประกอบกิจการงานสำเร็จราบรื่น ด้านหลังทำเป็นสูตรย่ออธิบายให้เห็นถึงการกำเนิดสรรพสิ่งในจักรวาลว่ามีรากฐานมาจาก “ระบบแสง” และ “ระบบธาตุ” โดยจำลองเป็นรูปแบบวัตถุมงคล ให้ช่างผู้มีฝีมือแกะสลักแม่พิมพ์เป็นศิลปกรรมแบบนูนต่ำที่มีความคมชัดสวยงาม แล้วให้ตั้งชื่อวัตถุมงคลรุ่นนี้ตามชื่อของ “องค์พ่อ” เป็นครั้งแรกว่า “พระผงจตุคามรามเทพ”
เหตุที่ “องค์จตุคามรามเทพ” ให้ตั้งชื่อเช่นนี้เพราะรู้ว่า ภัยพิบัติร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นไม่มีใครจะต้านทานให้หยุดยั้งได้ นอกจาก “องค์พ่อ” ดังนั้น กระบวนการสร้างทุกขั้นตอนจึงเป็นไปตามที่”องค์พ่อ” เป็นผู้กำหนด เริ่มต้นจากให้นำหัวเชื้อ “เนื้อผง” มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ “องค์จตุคามรามเทพ” เคยสร้างวัตถุมงคลในอดีต มอบหมายให้ พล.ต.ท. สรรเพชญ ธรรมาธิกุล เป็นผู้เก็บรักษามานานกว่า ๒๐ ปี มาเป็นส่วนผสมวัตถุมงคล “พระผงจตุคามรามเทพ”
นอกจากนั้น “องค์จตุคามรามเทพ” ยังได้มอบหมายให้ พล.ต.ท. สรรเพชญ ธรรมาธิกุล เดินทางไปยังอินเดีย จีน และจากประเทศทั่วโลก นำเอา “ดิน” และ “น้ำ” จากแหล่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาเป็นส่วนผสมเพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาเป็นส่วนผสมเพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นสากล
การกำหนดรูปแบบและกระบวนการสร้างเนื้อผงของ “พระผงจตุคามรามเทพ” ตามที่กล่าวมา “องค์จตุคามรามเทพ” เป็นผู้กำหนดแล้ว ยังกำหนดให้สร้าง “พระผงจตุคามรามเทพ” ขึ้นตามแสงที่แท้จริงของ “พระสุริยเทพ” เมื่อเริ่มต้นทอแสงเงินแสงทองจับขอบฟ้าในยามรุ่งอรุณ แล้วโคจรขึ้นไปฉายแสงอันร้อนแรงโชติช่วงอยู่กลางเวลา หลังจากนั้นก็เคลื่อนคล้อยลอยต่ำตกดินในยามสายัณห์ แสงและสีของ “พระสุริยเทพ” ซึ่งถือว่าเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกมีอยู่ ๓ สี คือ สีขาว สีแดง สีดำ
ตำนานการสร้าง “พระผงจตุคามรามเทพ” นอกจากให้สร้างเป็น “พระผงเนื้อ ๓ สี” ดังกล่าวมาแล้ว “องค์จตุคามรามเทพ” ยังให้สร้าง “ผ้ายันตร์” เป็นรูปหนุมานนำพล ซึ่งเปรียบดังสัญลักษณ์แทนความหมายของ “ธาตุลม” เป็นอุบายเพื่อเสริมความเข้มขลังในการต่อต้านลม
เนื่องจาก “ขุนพลหนุมาน” ทหารอาสาผู้แกล้วกล้าสามารถยิ่งของเทพผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวาล ซึ่งอวตารมาเป็น “พระราม” ในวรรณคดีรามเกียรติ์ “หนุมาน” เป็นลูกของ “พระพาย” หาวเป็นดาวเป็นเดือน ร่ายรำเทพอาวุธสถิตอยู่กลางดวงตราพระราหู แสดงนัยความหมายให้รู้ว่าเป็นผู้รับอาสาต่อสู้กับลมพายุร้ายที่จะเกิดขึ้น และช่วยคุ้มครองป้องกันภัยพิบัติให้แก่แผ่นดิน “องค์จตุคามรามเทพ” กำหนดให้ “ผ้ายันตร์หนุมานนำพล” มี ๓ สี คือ สีขาว สีแดง สีดำ เพื่อนำไปใช้คู่กับ “พระผงจตุคามรามเทพ” ให้บังเกิดผลสมบูรณ์ที่สุด
“พระผงจตุคามรามเทพ” สร้างเสร็จสิ้นสมบูรณ์ “องค์จตุคามรามเทพ” ได้ทำพิธีปลุกเสก ณ อาศรมจตุคามรามเทพ เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตรงกับวันพฤหัสบดีขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีกุน ภายหลังจาก “พิธีปลุกเสก” ผ่านไปได้เพียง ๒๑วัน ได้เกิดลมพายุหมุนขึ้นในมหาสมุทรอินเดียมีชื่อว่า “ลมพายุนาร์กีส” พัดมาดุจดังจักรผันด้วยความเร็วกว่า ๒๐๐ กิโลเมตร ต่อ ๑ ชั่วโมง คาดหมายว่าจะพัดมาขึ้นฝั่งในแถบชายทะเลฝั่งตะวันตกทางภาคใต้ของ
ประเทศไทย บริเวณภูเก็ต พังงา ระนอง ทางราชการได้ประกาศเตือนให้ประชาชนในแถบนั้น เตรียมการรับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น แต่แล้วจู่ ๆ ลมพายุร้ายดังกล่าวพัดเฉขึ้นไปทางเหนือ แล้วม้วนตัวกลับหลังไปขึ้นฝั่งบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดี ทางตอนใต้ของพม่า ได้คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ ๒ แสนคน บ้านเรือน ทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยง ไร่นา พังพินาศเสียหายยับเยินที่สุดในรอบ ๑๐๐ ปี ประเทศไทยรอดพ้นมหันตภัยธรรมชาติมาได้อย่างหวุดหวิด
นับตั้งแต่เกิดปรากฏการณ์ “พระราหูอวตาร” ได้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรงเริ่มต้นจาก “ขบวนการเสื้อเหลือง” ภายใต้การนำของ “นายสนธิ ลิ้มทองกุล” หรือ “โกลิ้ม” ร่วมกับผู้นำ “ขบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” เดินขบวนขับไล่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหาว่าทุจริตคอรัปชั่นนานาประการ และคิดล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ก่อกวนสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายไปทั่วแผ่นดิน ผู้นำฝ่ายทหารได้ฉวยโอกาสกระทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จนต้องหลบลี้หนีภัยไปอยู่ในต่างแดน ผู้นำทางทหารได้สมคบกับพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม จัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดขึ้นมาปกครองบ้านเมือง จนสื่อมวลชนตั้งฉายาเชิงเย้ยหยันว่าเป็น รัฐบาลประชาธิปไตยภายใต้รองเท้าท๊อปบู๊ตของเผด็จการทหาร
แต่ปรากฏการณ์ “พระราหูอวตาร” ในครั้งนี้ ได้บันดาลให้เกิด “ขบวนการคนเสื้อแดง” ประกาศต่อสู้ในแบบเผชิญหน้ากับฝ่ายเผด็จการทหารอย่างไม่หวาดหวั่น รบพุ่งฆ่าฟันบาดเจ็บล้มตายเป็นสงครามกลางเมือง แผ่นดินลุกเป็นไฟลุกลามไปทุกหย่อมหญ้า เหมือนดังว่าบ้านเมืองจะแตกแยกออกเป็น ๒ แผ่นดิน เศรษฐกิจของชาติพิกลพิการเหมือนคนง่อยเปลี้ยเสียขา เป็นปัญหาของชาติที่ไม่สามารถแก้ไขได้มาจนถึงทุกวันนี้
“พระผงจตุคามรามเทพ” ได้แสดงปรากฏการณ์มหัศจรรย์ให้เห็นประจักษ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ นายตำรวจคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกน้องใกล้ชิดของ พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุลได้รับ “พระผงจตุคามรามเทพ” ไปสักการบูชา เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา
บังเอิญในช่วงนั้นเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก จนน้ำเจิ่งนองไปทั่ว ทราบข่าวว่าตลาดหาดใหญ่น้ำท่วมจมอยู่ใต้บาดาล ทรัพย์สินเสียหายจำนวนมหาศาลที่สุดในรอบ ๕๐ ปี คืนหนึ่งในขณะที่อยู่บ้านพัก เกิดลมพายุพัดจัดและฝนตกหนักมาก แรงลมที่กระโชกแต่ละครั้งและสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนบ้านเรือนสั่นสะเทือนเหมือนว่าจะแตกออกเป็นเสี่ยง ลมพายุพัดต้นไม้หักโค่นล้มระเนระนาด ไฟฟ้าดับมืดมิดไปทั่ว
ด้วยความตกใจกลัวว่าบ้านจะพังจึงไปอาราธนา “พระผงจตุคามรามเทพ” และ “ผ้ายันตร์หนุมานนำพล” มากราบไหว้บูชาชูขึ้นไว้เหนือหัว อธิษฐานจิตขอให้ “องค์พ่อ” แผ่ฤทธานุภาพช่วยคุ้มครองป้องกันภัยพิบัติจากลมพายุร้าย อย่าให้เกิดอันตรายใด ๆ เพียงชั่วเวลา ๕ นาที ลมพายุที่พัดกระโชกอย่างเกี้ยวกราดไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ก็ค่อยบรรเทาลงและระงับไปอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อออกไปสำรวจความเสียหาย พบว่าหลังคาบ้านชำรุดไปแต่เพียงเล็กน้อย แต่บ้านเรือนอื่น เรือประมง ถูกฉีกทำลายเสียหายไปมากมาย สวนยางพาราถูกลมพายุพัดโค่นล้มราบไปเป็นหน้ากลอง มีความยาวกว่า ๑๐ กิโลเมตร นับว่าเป็นความหายนะครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในภาคใต้
ปัญหาความขัดแย้งแตกแยกทางการเมืองสิ้นสุดลง เมื่อรัฐบาลหุ่นเชิดประกาศยุบสภาจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ปรากฏว่าประชาชนในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางบางส่วน เทใจให้แก่ “ขบวนการคนเสื้อแดง” จนได้รับชัยชนะอย่างถล่มทะลาย เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์เหลือเชื่อขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย คือมี “นายกรัฐมนตรีหญิง” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อาจเปรียบได้กับ “พระนางบูเช็กเทียน” ในพงศาวดารจีนสมัยราชวงศ์ถัง
แม้ว่าความร้อนแรงของปัญหาทางการเมืองจะบรรเทาเบาบางลงไปในช่วงนี้ เปิดโอกาสให้รัฐบาลใหม่บริหารประเทศ แต่ความแตกแยกภายในชาติ ความพยาบาทมาดร้ายที่ฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณของทั้ง ๒ฝ่าย รอคอยโอกาสที่จะแก้แค้นโค่นล้มซึ่งกันและกันให้ดับดิ้นกันไปข้างหนึ่ง สถานการณ์บ้านเมืองจึงยังคงคุกกรุ่นเป็นไฟสุมขอนอยู่ รอให้ถึงจุดสันดาปและเกิดลมพัดเป่าก็จะลุกโชติช่วงขึ้นมาอีก ค่อย ๆ เขม็งเกลียวมากขึ้น จนกระทั่งก่อนจะสิ้นปี พ.ศ.๒๕๕๔ “ดาวพระเสาร์” ซึ่งเป็นดาวประธานแห่งบาปเคราะห์ร้าย จะโคจรทำมุมเล็งลัคนาดวงเมือง โหรโบราณเรียกว่า “ดวงแตก” ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการทหาร ก็จะมาถึงจุดแตกหัก เตรียมพร้อมที่จะห้ำหั่นกันให้บรรลัย อาจเปรียบได้กับช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็แหลกลาญบ้านเมืองกำลังจะสลายเป็นดินแดนมิคสัญญีรุ่มร้อนไปตลอดปีกระต่ายตื่นตูม
แต่วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์ซึ่ง “องค์จตุคามรามเทพ” สร้างขึ้นในปี “พระราหูอวตาร” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พระผงจตุคามรามเทพ” ซึ่งผ่านการทดสอบจากมหันตภัยธรรมชาติมาครั้งแล้วครั้งเล่า ได้ช่วยคุ้มครองป้องกันภัยพิบัติในแบบปิดทองหลังพระมาตลอด แต่ไม่เคยอวดอ้างว่าวิเศษวิโสอะไร อาจช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง
ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ปรากฏการณ์ของดวงดาวสำคัญที่โคจรบนท้องฟ้าจะเปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปลายปี พ.ศ.๒๕๕๕ “ดาวพระราหู” ซึ่งเป็นเพื่อนรักเพื่อนเกลอร่วมเป็นร่วมตายกับ “ดาวพระเสาร์” จะโคจรเข้าไปร่วมกับ “ดาวพระเสาร์” ในราศีตุล ทำมุมเล็งลัคนาดวงเมือง เรียกว่า ดวงแตกซ้ำสอง ประเทศไทยก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ขอให้ผู้ที่สนใจติดตามสถานการณ์ เพราะว่าเมื่อถึงเวลานั้น “พระราหูอวตาร” ได้ล่วงเลยไปแล้ว หรือดวงชะตากรุงรัตนโกสินทร์ จะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ “ยุคชาวศิวิลัย” ตามคำพยากรณ์ของโหราจารย์ในอดีต
พลตำรวจโท สรรเพชญ ธรรมาธิกุล
(สรรเพชญ ธรรมาธิกุล)
ผู้สร้างเสาหลักเมือง และ ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช และออกแบบ เสาหลักเมือง ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์
ผู้เป็นประธานในการจัดสร้าง เทวาลัยจตุคามรามเทพ
๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๔
ราคาเปิดประมูล 130 บาท
ราคาปัจจุบัน 170 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ 20 บาท
วันเปิดประมูล ศ. - 30 พ.ค. 2568 - 06:53:25 น.
วันปิดประมูล อา. - 01 มิ.ย. 2568 - 17:43:50 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูล thanamat (948)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     170 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Rach2558 (225)

 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 ผู้เสนอราคาราคาเวลา
  ทับทิมโทน (2.3K) 150 บาท ส. - 31 พ.ค. 2568 - 17:43:50 น. (ถึงราคาขั้นต่ำแล้ว)
  Rach2558 (225) 170 บาท อา. - 01 มิ.ย. 2568 - 17:35:49 น.

Copyright ©G-PRA.COM
www1