(0)(0)
สมเด็จรุ่นแรก พิมพ์เทวดา หลวงพ่อเต่า
รายการประมูลนี้ถูกยกเลิกโดยผู้ตั้งประมูล








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต


รายการประมูลนี้ถูกยกเลิกโดยผู้ตั้งประมูล



ชื่อพระเครื่อง สมเด็จรุ่นแรก พิมพ์เทวดา หลวงพ่อเต่า
รายละเอียด วัดน้ำพุ จ.อ่างทอง เนื้อผงผสมปรอท ปี 2495
พระครูธรรมพิริยคุณ (เต่า ธมฺมธโร) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 10 ค่ำ เดือนยี่ ปีจอ ตรงกับวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2441 ที่บ้านตำบลคลองขนาก อำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง เป็นบุตรของ นายเชย มณีโชติ และ นางจันทร์ มณีโชติ ในวัยเด็กได้ศึกษาขั้นต้นจากสำนักเรียนวัดนางชำ จนเมื่ออายุได้ 15 ปี บรรพชาเป็นสามเณร ปี พ.ศ.2461 อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดนางชำ โดยมีพระครูสุกิจวิชาญ เจ้าคณะอำเภอวิเศษไชยชาญ เจ้าอาวาสวัดข่อย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์จันทร์ วัดบางจักร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวิเศษชัยสิทธิ์ วัดอ่างทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อุปสมบทแล้วมาจำพรรษาที่วัดนางชำ ทำการสอนภาษาไทยได้ 1 พรรษา ก็ขอพักเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม ศึกษาอยู่ 3 ปี จึงย้ายไปศึกษาต่อยังวัดมหาธาตุฯ กรุงเทพมหานครในปี พ.ศ.2465 จนถึงปี พ.ศ.2471 ก็ย้ายมายังวัดอ่างทอง และเข้าสอบนักธรรมเอกและบาลีประโยค 3 ได้ในปีนั้น จากนั้นในปี พ.ศ.2474 เมื่อทางวัดน้ำพุว่างตำแหน่งเจ้าอาวาส ชาวบ้านได้พากันนิมนต์ให้ พระครูธรรมพิริยคุณ (เต่า ธมฺมธโร) มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ปี พ.ศ.2480 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น
พระครูชั้นสัญญาบัตรที่พระครูธรรมพิริยคุณ ปีรุ่งขึ้นก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอวิเศษไชยชาญในปีพ.ศ.2480 ท่านได้รับพระราช ทานสมณศักดิ์เป็นพระครูธรรมพิริยะคุณ และได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ในปีพ.ศ.2484 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอวิเศษชัยชาญ
หลวงพ่อท่านเป็นคนพูดน้อย ประกอบด้วยเมตตาธรรม และมีวาจาสิทธิ์ มีเรื่องเล่ากันมามากมาย หลวงพ่อเต่าท่านนอกจากจะเป็นพระนักพัฒนาและส่งเสริมด้านการศึกษาแล้วท่านยังเก่งทางด้านรักษาโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วย ที่วัดน้ำพุฯสมัยนั้นจะมีคนเจ็บไข้ได้ป่วยพากันมาให้หลวงพ่อช่วยรักษาให้จนแน่นวัดเลยทีเดียวครับ ท่านเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) วัดสุทัศน์ ท่านได้ผ่านมาทางวัดน้ำพุฯ โดยทางเรือ และได้เห็นเรือแพจอดที่หน้าวัดจนแน่นขนัด จึงได้สอบถามว่าเขามาทำอะไรกัน ก็ได้รับคำตอบว่า เขามาให้หลวงพ่อเต่ารักษาโรคให้ ท่านเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) ท่านยังได้เข้าไปหาหลวงพ่อเต่า และนิมนต์หลวงพ่อเต่าเข้ามารักษาคนที่กทม.ด้วย
หลวงพ่อเต่าท่านรักษาคนป่วยด้วยพลังจิต และน้ำมนต์ของท่านเท่านั้น แม้แต่รูปถ่ายของท่านมีคนมาขอไปบูชา และอธิษฐานขอให้หลวงพ่อช่วยรักษายังหายได้อย่างน่าอัศจรรย์ หลวงพ่อท่านได้เคยสร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง เช่น ผ้ายันต์ ตะกรุด ปลาตะเพียน และรูปของท่าน และเหรียญทุกรุ่นที่ท่านเสก และมรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ.2499 เหรียญหลวงพ่อเต่า ท่านจัดสร้างด้วยกัน สามแบบ สามครั้งในปีเดียวกัน เนื่องจากไม่พอต่อความต้องการของประชาชนและลูกศิษย์หลวงพ่อ ซึ่งจัดสร้างทั้งหมดสามครั้งหลวงพ่อเสกไว้อย่างทิ้งทวน จำนวน ทั้งหมด 1500 เหรียญซึ่งทำครั้งละ 500 เหรียญ ครั้งแรกเป็นพิมพ์ใหญ่ ออกให้ทำบุญที่วัดวันอุทิศให้ทำบุญเหรียญละ 20 บาทซึ่งสมัยนั้น แพงงงเอาเรื่อง ครั้งที่สองเป็นพิมพ์ใหญ่เช่นเดียวกันจำนวน 500 เหรียญแต่แก้แบบด้านหน้าและยันต์ด้านหลังเล็กน้อย และครั้งที่สามตรั้งสุดท้าย เป็นเหรียญพิมพ์เล็ก อีก 500 เหรียญเอาเป็นว่าให้ทราบคร่าวๆครับ เพราะไม่แยกเรื่องราคา พิมพ์ใหญ่ขอให้แท้ ราคาพอๆกัน ส่วนพิมพ์เล็กซึ่งสร้างครั้งสุดท้าย ราคาห่างกันนิดหน่อย ไม่มากนักซึ่งนอกจากเหรียญเนื้อเงินลงถมแล้วยังมีแหวนลงถมด้วยครับ จำนวนสร้างราวๆ 500 วงเช่นกัน
หลวงพ่อเต่าสมัยยังทรงสังขาร ท่านเป็นที่เคารพของบรรดาศิษย์และประชาชนทั่วไปอย่างมาก. เพราะท่านเปรียบเสมือน เป็นหมอยารักษาชาวบ้าน ได้รับการกล่าวขานว่า หมอเทวดา เป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้เป็นอย่างดีในการรักษาสารพัดโรคภัย วันหนึ่งๆมีผู้คนมารับการรักษาฟรีจากหลวงพ่อเป็นจำนวนมาก โดยท่านจะตั้งกระบุงไว้หนึ่งลูก หลังจากรักษาแล้วใครจะทำบุญก็ทำไม่ทำท่านก็ไม่ว่า ในแต่ละวันคนนับร้อยครับ บางวันเรือนพัน ท่านอ่านไม่ผิดครับ บางวันนับพันคน งานวัดย่อยๆเลยครับ และหลวงพ่อท่านมิได้รักษาทีละคนนะครับ ท่านรักษาทีละหนึ่งศาลา ใครจะรับการรักษาก็ขึ้นมาบนศาลามานั่งในวงสายสิญจน์ พอมานั่งในวงสายสิญจน์ที่หลวงพ่อท่านวนไว้จนเต็มแล้ว หลวงพ่อท่านจะขึ้นนั่งธรรมมาส และใช้นิ้วชี้ของท่านวนที่กระดานในการรักษา เรียกว่า วิชานิ้วเพชร ชี้เป็นชี้ตาย หรือวิชาเรียกโรค ซึ่งเป็นบารมีเฉพาะองค์ท่านที่ขนาดคนเป็นอัมพาต ท่านก็รักษาหายด้วยยาและอาคมท่าน คนถูกคุณไสยพอเข้ามาในวงสายสิญท่านถึงกับต้องอาเจียนออกมาทันที วิชานิ้วเพชรนี้เท่าที่ทราบในสมัยนั้น หลวงพ่อท่านเป็นองค์เดียวในวิเศษชัยขาญที่ทำได้และขลังนัก ซึ่งหลวงพ่อท่านได้รับถ่ายทอดจากหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ สุดยอดปรมาจารย์แห่งแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ ชาวบ้านวัดน้ำพุ ทราบกันดีว่านิ้วชี้หลวงพ่อนั้นศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะเมื่อมีเรื่องเดือดร้อนเกี่ยวกับโรคภัยอะไรอันหาสาเหตุไม่ได้ ก็จะไปหาหลวงพ่อ. หลวงพ่อท่านจะใช้นิ้วชี้ท่าน วนที่กระดานที่ท่านนั่ง อาการหรือโรคต่างๆเหล่านั้นที่ปรากฏก็จะหายไปทันที ผมเองเข้าพื้นที่ลงสืบประวัติมาหลายปีตามแต่เวลาจะอำนวย ทำให้ทราบและรู้ดีว่าชาวบ้านนับถือหลวงพ่อจากรุ่นสู่รุ่น และเอ่ยถึงหลวงพ่อว่าเป็นหมอเทวดา มีอยู่หลายเรื่องราวที่ได้รับถ่ายทอดไว้แต่เวลาไม่อำนวยมากนักผมจึงเขียนลงเพียงคร่าวๆ เกี่ยวกับประวัติหลวงพ่อท่าน และมีหนังสือบางเล่มเคยลงไว้คร่าวๆแต่ไม่ละเอียดนัก ขอกล่าวถึงวิธีการรักษาโรคขององค์หลวงพ่อท่านสักเล็กน้อย เนื่องด้วยว่าไม่เหมือนใครและจะหาพระคณาจารย์ใดเสมอได้ยาก คือการสั่งโรค หรือการสูญโรค การสั่งนี้ยกตัวอย่าง มีคนกระดูกหักมาให้หลวงพ่อรักษาและเดินไม่ได้ หลวงพ่อท่านดูอาการแล้วท่านก็นั่งเอานิ้วชี้วนกระดานสักครู่หนึ่ง และสั่งผู้ที่เดินไม่ได้ลุกขึ้น หลวงพ่อท่านจะสั่งให้นั่งก็นั่งได้ สั่งให้เดิน สามารถเดินได้จริงๆ เป็นอัศจรรย์ ข้อนี้เป็นที่ทราบกันดีของชาวบ้านน้ำพุยุคเก่า และยุคนี้ก็ยังเล่าสืบต่อกันมา นอกจากจะสั่งโรคได้ ท่านก็ยังมียาสมุนไพรต่างๆ เสกให้ไปกินกำกับด้วย เช่น เสกกล้วยให้กิน แก้อัมพฤก อัมพาต ซึ่งกินแล้วหายจริงๆอย่างอัศจรรย์ คนถูกคุณไสย ท่านจะเสกเกลือให้กิน เกลือเค็มๆนี่แหละครับ ถ้าคนถูกคุณกระทำ กินเกลือเข้าไปจะจืดสนิท และท่านก็จะทำการรักษา โดยการเรียกไปไว้ที่ตะปูและตอกไว้ตามเสาศาลา เต็มไปหมด
นอกจากการรักษาโรคดุจหมอเทวดาที่ผมได้กล่าวไปแล้วหลวงพ่อท่านยังมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง คือมีอยู่ครั้งหนึ่งมีพวกหมอลาว (พวกนี้เท่าที่ผมทราบ จะชอบลองวิชากับพระคณาจารย์เก่งๆ คือเหมือนตระเวนหากินไปด้วยและลองของไปด้วย อย่างหลวงพ่อแพ วัดกลางท่านก็เคยโดนหมอลาวนี่ลองของ หลวงพ่อจัน วัดบางจักก็ถุกพวกนี้ลองของ และอาจารย์อีกหลายท่านในวิเศษยุคเก่าเท่าที่ผมมีข้อมูล พวกหมอลาวนี่ลองมาหลายท่าน แต่ทำอะไรไม่ได้แถมโดนเล่นงานกลับซะอ่วม) มาหาหลวงพ่อ พอมาถึงหลวงพ่อท่านทราบล่วงหน้าอยู่แล้ว ท่านเลยขมวดผ้าจีวรผืนใหญ่และโยนให้ไปลองยิง พวกนั้นพอได้ไปก้ไปลอง ข้างกุฏิพระ ยิงกันเสียงดัง เช๊าะแช๊ะ แต่ไม่ออก ลูกศิษย์หลวงพ่อเห็นพวกนี้ถือปืนในวัดเลยเข้าไปสอบถามตักเตือน หลวงพ่อท่านเห็น ท่านเลยพุดขึ้นว่า อย่าไปยุ่งกับมันไอ้พวกหน้าเลือด อย่าไปยุ่งกับมัน ลูกศิษย์หลวงพ่อจึงเดินออกมา ต่างคนก็ต่างแยกย้าย แต่พอพวกหมอลาวเดินแยกย้ายออกไปนั้น เดินผ่านต้นมะพร้าวหลังกุฏิ ทันใดนั้นลูกมะพร้าวล่วงลงมาฟาดหัวแตกเลือดอาบหน้าตาแดงไปหมด เป็นดังคำที่หลวงพ่อพุดว่าไอ้พวกหน้าเลือด ทุกประการ ต่อมาขอกล่าวถึงการต่อกระดูกโดยวิชานิ้วเพชร มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลุงแถววัดนั่นหละครับ แกขึ้นไปสุมลอมฟาง หลายๆท่านที่อยู่บ้านนอกคงรู้จักดี มีแกนไม้ไผ่ตรงกลาง และสุมสูงขึ้นไปหลายเมตร วันนั้นโชคไม่ดี แกพลัดตกลงมาแขนหัก ก็นึกถึงหลวงพ่อทันที ลุงท่านนี้ก็มาหา และบอกว่าแขนหักครับหลวงพ่อร้องโอยๆ มาแต่ไกล หลวงพ่อท่านก้เลยถามว่ามึงไปทำอะไรมาถึงได้แขนหัก ลุงแกก้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า ตกจากลอมฟาง พอหลวงพ่อท่านได้ฟัง ท่านก็บอกให้ลุงแกหยิบกี่ยา มาวางแขน ที่หัก ระหว่างนั้นหลวงพ่อท่านก็ นั่งบริกรรมคาถาไป เอานิ้วชี้ท่านวนที่กระดาน และก้นั่งคุยไปด้วย พอคุยได้สักพัก หลวงพ่อท่านก้พูดขึ้นมาว่า เอาเฮ้ยคุยนานแล้วกูชักอยากดูดยา ยกกี่ยาให้กุที ลุงแกด้วยความลืมตัว ก้เลยเอาสองมือยกกี่ยาถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อบอกเอ้าเฮ้ย ไหนมึงบอกแขนหัก และมึงยกกี่ยาให้กูได้ยังไง ท่านก็หัวเราะ ลุงแกลืมตัวเผลอยกกี่ยาถวาย ลุงแปลกใจอย่างมาก ว่าแขนที่หักหายเป้นปลิดทิ้ง ก้มลงกราบหลวงพ่อ ด้วยความดีใจ อีกเรื่องเป็นเรื่อง ปวดท้องแทนเมีย เรื่องนี้ หลวงตาที่วัดน้ำพุเป็นคนประสบด้วยตนเอง คือ เมื่อสมัยที่โยมแม่ท่านตั้งท้องน้องชาย โยมพ่อก็มาหาหลวงพ่อเต่า ขอน้ำมนต์ไปให้โยมแม่หลวงตาท่านดื่ม ให้คลอดง่าย เมื่อก่อนจะเดินทางทางเรือ พอมาถึงวัดก้มกราบหลวงพ่อขอน้ำมนต์ ท่านก้ทำน้ำมนต์ให้ ก่อนจะกลับ หลวงพ่อท่านก็เรียก โยมพ่อของหลวงตามาไกล้ๆ และเอามือจับไปที่น่องของโยมพ่อหลวงตา และท่านก้กล่าวขึ้นว่า เฮ้ย น่องมึงสวยดีนี่หว่า และเอามือตบไปที่น่อง สองสามครั้ง หลังจากนั้นโยมพ่อหลวงตาก็ลากลับ หลวงตาท่านก้พายเรือกลับเอาน้ำมนต์ไปให้โยมแม่กินเพื่อคลอดน้องชาย ระหว่างทางโยมพ่อหลวงตาเริ่ม ปวดท้องน่อง พอเรือจอดท่าน้ำ หลวงตาได้ขึ้นเอาน้ำมนต์ไปให้โยมแม่ท่านคนเดียวเพราะโยมพ่อปวดท้องน่องนอนร้องโอดโอยอยู่ในเรือ หลวงตาท่านบอกว่า พอโยมแม่ท่านกินน้ำมนต์เข้าไป ระหว่างคลอดไม่มีเสียงร้องสักแอะ แถมยังคุยกับหมอตำแยได้ยังกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ที่ดิ้นทุรนทุรายคือพ่อหลวงตาที่อยู่ในเรื่อนั่นเอง หลวงพ่อท่านใช้วิชาทำให้โยมพ่อหลวงตาปวดท้องน่องแทนภรรยา ก็ตอนที่หลวงพ่อท่านจับน่องโยมพ่อหลวงตานั่นแลท่านลงคาถาช่วงนั้น เรื่องราวยังมีอีกมากครับ ไม่ได้มาโม้ให้ฟัง แต่เอาเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นมาเล่าให้ฟัง ว่างๆก็ไปกราบรุปปั้น บนบาน ท่านได้ที่วัดน้ำพุ วิเศษชัยชาญ เมืองแห่ง พระคณาจารยืผู้เรืองวิทยาคม ไม่แพ้ใคร
ราคาเปิดประมูล 100 บาท
ราคาปัจจุบัน -- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --
เพิ่มขึ้นครั้งละ 20 บาท
วันเปิดประมูล อา. - 24 ส.ค. 2568 - 19:07:02 น.
วันปิดประมูล อ. - 26 ส.ค. 2568 - 07:07:02 น. (เหลือเวลา 1 วัน 0 ชั่วโมง 32 นาที)
ผู้ตั้งประมูล เกื้อหนุน (2.7K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 อา. - 24 ส.ค. 2568 - 19:07:36 น.



1


 
ราคาปัจจุบัน :     100 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 
-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --


Copyright ©G-PRA.COM
www1