(0)
*_*วัดใจ 100-.+บัตรG-PRA*_*พระปิดตา พิมพ์จิ๋วหลังยันต์นะ เนื้อทองแดง ปี2534 หลวงปู่ดี(พระผู้ทรงพุทธาคม เกจิดังกาญจนบุรี) วัดเทวสังฆารา จ.กาญจนบุรี สวยๆ พร้อมบัตรG-PRAครับ









ชื่อพระเครื่อง *_*วัดใจ 100-.+บัตรG-PRA*_*พระปิดตา พิมพ์จิ๋วหลังยันต์นะ เนื้อทองแดง ปี2534 หลวงปู่ดี(พระผู้ทรงพุทธาคม เกจิดังกาญจนบุรี) วัดเทวสังฆารา จ.กาญจนบุรี สวยๆ พร้อมบัตรG-PRAครับ
รายละเอียด พระอาจารย์สมเด็จพระญาณสังวรฯ
“หลวงปู่ดี พุทธโชติ” วัดเทวสังฆาราม
เกจิสายเมตตามหานิยม... “เจ้าชู้ต้องวัดเหนือ”

“พระเทพมงคลรังษี” หรือ “หลวงปู่ดี พุทธโชติ” อดีตเจ้าอาวาสวัดเหนือ (วัดเทวสังฆาราม) ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พระเกจิที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวเมืองกาญจน์ อีกทั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ของสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อครั้งที่พระองค์กลับมาอุปสมบทที่วัดเหนือและจำพรรษาอยู่ 1 พรรษา จากนั้นกลับสู่วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงอุปสมบทซ้ำเป็นธรรมยุตอีกครั้ง โดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์

ท่านเป็นศิษย์ผู้สืบทอดพุทธาคมจากหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว และหลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ (วัดไชยชุมพลชนะสงคราม) ท่านโดดเด่นทางด้านเมตตามหานิยมดังมีคำขวัญของชาวเมืองกาญจน์ว่า “ถ้าเจ้าชู้ต้องวัดเหนือ ถ้าเป็นอ้ายเสือต้องวัดใต้” ซึ่งวัดเหนือก็หมายถึงหลวงปู่ดี วัดเหนือ ส่วนวัดใต้ก็คือ หลวงปู่เปลี่ยน

หลวงปู่ดีเกิดที่บ้านทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2416 บิดา ชื่อ “นายเทศ” มารดาชื่อ “นางจันทร์” นามสกุล”เอกฉันท์” เมื่ออายุ 18 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดทุ่งสมอ มีพระอธิการรอด วัดทุ่งสมอ ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่เป็นพระอุปัชฌาย์

อยู่ได้ 6 เดือน ก็ลาสิกขาออกมางานครอบครัว จนอายุครบบวชจึงอุปสมบท ณ วัดทุ่งสมอ มี พระครูวิสุทธิรังษี (หลวงปู่ช้าง) วัดบ้านทวน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการรอด และ พระใบฏีกาเปลี่ยน (ต่อมาได้รับสมณศักดิ์ เป็น พระวิสุทธิรังษีเจ้าคณะ จ. กาญจนบุรี) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายา “พุทธโชติ”

ท่านอยู่จำพรรษาที่วัดทุ่งสมอ ใฝ่ใจศึกษาเล่าเรียนทั้งคันถธุระและวิปัสสนาธุระ โดยมีความชอบเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการสวดปาฏิโมกข์ จึงมีความมานะพยายาม จนที่สุด สามารถท่องปาฏิโมกข์ได้จบบริบูรณ์ในพรรษาที่ 2

ช่วงออกพรรษาท่านมักธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ ศึกษาวิปัสสนาและวิทยาคมเพิ่มเติมกับพระเกจิหลายรูป อาทิ พระอาจารย์เกิด วัดกกตาล จ.นครปฐม, หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจน บุรี, หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ฯลฯ

ต้นพรรษาที่ 4 หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ ชวนท่านมาเรียนบาลีที่วัด ท่านก็มาอยู่ที่วัดใต้ แต่ไม่ได้เรียนบาลี แต่มาท่องบทสวดมนต์แทน จากนั้นจึงไปอยู่กรุงเทพที่วัดรังษี ปัจจุบันรวมเข้าไว้ในวัดบวรนิเวศ ซึ่งขณะนั้นท่านเจ้าคุณธรรมกิจเป็นเจ้าอาวาส โดยได้ศึกษาภาษาบาลีกับท่านอาจารย์ลี แต่ศึกษาไปได้เพียงผูกเดียว อาจารย์ผู้สอนก็ลาสิกขาไป ท่านก็เลยกลับมาอยู่วัดทุ่งสมอตามเดิม

ในพรรษาที่ 12 ที่หลวงปู่ดีมาจำพรรษาที่วัดรังษี ครั้งที่ 2 นั้น ท่านพบพระครูสิงคิบุราคณาจารย์ (หลวงพ่อสุด) เจ้าอาวาสวัดเหนือ ซึ่งรู้จักกันมาก่อนในครั้งที่ญาติโยมนิมนต์ให้ไปสวดที่วัดใต้หลวงพ่อสุด ทำหนังสือเดินทางเพื่อไปนมัสการพระเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า หลวงปู่ดีจึงขออนุญาตเดินทางไปด้วย ตลอดทางทั้งไปและกลับ หลวงพ่อสุดเกิดอาพาธ ซึ่งหลวงปู่ดี คอยปรนนิบัติดูแลจนกลับถึงวัดเหนือ

หลวงพ่อสุด ยังปรารภว่า “ถ้าไม่ได้หลวงปู่ดีไปด้วยกัน ท่านก็คงมรณภาพเสียที่กลางทางเป็นแน่”

หลวงปู่ดีกลับมาอยู่กรุงเทพฯ แต่ก็มีจดหมายไต่ถามทุกข์สุขกันเสมอมา บางครั้งหลวงพ่อสุดลงมากรุงเทพฯจะมาแวะพักพูดคุย จนช่วงหลังๆ ท่านอาพาธหนัก เดินทางไปไหนไม่ได้ จึงมีจดหมายถึงหลวงปู่ดีขอให้ไปเยี่ยม ท่านจึงหาโอกาสขึ้นไปเยี่ยมที่วัดเหนือ หลวงพ่อสุด ให้ศิษย์นิมนต์หลวงปู่ดีอยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนี้ ท่านก็ไม่รับปาก แต่ได้ช่วยดูแลกิจการต่างๆ เช่น สวดปาฏิโมกข์ หรือเทศน์แทนท่าน เป็นต้น

คราหนึ่ง หลวงพ่อสุดให้หลายคนมาขอร้องให้เป็นสมภาร ท่านก็ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด จนเมื่อหลวงพ่อสุดมรณภาพลง กรรมการและศิษย์วัด รวมทั้งชาวบ้านจึงนิมนต์ขอให้ท่านเป็นสมภารอีกครั้ง ซึ่งท่านไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงต้องรับเป็นเจ้าอาวาสวัดเหนืออย่างเต็มตัว

หลวงปู่ดีเป็นพระเถราจารย์ผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาจิต ท่านปรับปรุงและพัฒนาทุกอย่างในวัด ทั้งขนบธรรมเนียม ระเบียบพิธีการ และถาวรวัตถุต่างๆภายในวัด พระสงฆ์ทุกรูปมีวัตรปฏิบัติเรียบร้อย เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นับได้ว่า วัดเหนือได้รับการพัฒนาในด้านต่างๆ จนเจริญรุ่งเรือง เป็นที่ชื่นชมศรัทธาของเหล่าสาธุชน แม้สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระวชิรญาณวโรรส ยังทรงยกย่องให้เป็นตัวอย่างของวัดทั้งหลาย

ท่านได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เรื่อยมา สมณศักดิ์สุดท้ายเป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ “พระเทพมงคลรังษ๊” และเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี วาระสุดท้ายท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2510 สิริอายุ 94 ปี พรรษา 73 และจัดงานพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดเทวสังฆาราม เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2511

วัตถุมงคลที่ท่านสร้างล้วนเป็นที่นิยมและเสาะแสวงหาอย่างสูง โดยวัตถุมงคลรุ่นแรกของท่าน สร้างในช่วงปี พ.ศ.2484 ซึ่งไทยได้เกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสและกลิ่นไอแห่งสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มประทุ ครั้งนั้น พลเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา ศิษย์ใกล้ชิดและเลื่อมใสศรัทธาในองค์ท่านมาก ได้ขออนุญาตสร้างวัตถุมงคลขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับทหารที่ไปราชการสงคราม รวมถึงประชาชนทั่วไป เพื่อไว้ปกปักษ์รักษาคุ้มครอง ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากสงครามในครั้งนั้น และผู้ได้รับแจกในตอนนั้น แคล้วคลาดปลอดภัยกลับมาทุกคนไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆเลย

วัตถุมงคลรุ่นนี้ประกอบด้วย พระกริ่งอุปคุตพุทธโชติ เป็นพระกริ่งศิลปะแบบกริ่งเขมร ฐานบัวฟันปลา พระหัตถ์ซ้ายอุ้มบาตร พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว ใต้ฐานก้นถ้วยมีเลขหนึ่งไทยและกากบาท อุดกริ่งแบบฝาเชื่อม มี 2 เนื้อ คือ ทองเหลือง และทองแดง(สัมฤทธิ์) อุดกริ่งแบบเจาะสะโพก และยังมีเนื้อดินเผา(ละเอียด) มีปีกหลังอูม ด้านหลังมียันต์สองแบบ เลขหนึ่งไทย และอุณาโลม กดจมลงในเนื้อพระ พุทธคุณเด่นทางด้าน แคล้วคลาดคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม โชคลาภ

นอกจากพระกริ่งยังมีพระพิมพ์อื่นๆอีกหลายพิมพ์ อาทิ 1.พระพุทธชินราช(ครึ่งซีก)หลังยันต์นะ เนื้อทองแดง(สัมฤทธิ์) และหลังเรียบ เนื้อทองผสม,พระขุนแผน เนื้อดินเผา พิมพ์ใหญ่ หลังยันต์เฑาะว์ พิมพ์กลาง หลังยันต์เฑาะว์ และพิมพ์เล็กหลังเรียบ ไม่มียันต์ มีเนื้อแดง และเนื้อดำผสมใบลาน,พระคงเนื้อดินเผา หลังยันต์อุณาโลม และเนื้อคลุกรักหลังเรียบ

พระลืออุดกริ่ง เนื้อดินเผา,พระสมเด็จเนื้อดินเผา,พระท่ากระดานหล่อโบราณ หลังยันต์นะเนื้อชิน (ได้นำพระที่แตกกรุออกมาที่แตกหักและเสียหายมาหล่อและผสม) พระท่ากระดาน(นิ้วชิด)พิมพ์เล็ก เป็นพระปั้ม เนื้อทองแดง ตอกโค้ด”ดี”ด้านหลัง ฯลฯ

เหรียญเสมาพระพุทธชินราช ปี2481,พระบูชา ภปร. กฐินต้น หน้าตัก 9 นิ้ว และหน้าตัก 5 นิ้ว สร้างปี 2506,เหรียญรุ่นแรก ปี 2507 เนื้ออัลปาก้า,รูปหล่อขนาดบูชา รุ่นแรก ปี 2510 และเครื่องรางของขลังต่างๆ

เหรียญเสมาพระพุทธชินราช ปี 2481 จัดสร้างขึ้นในวาระงานฉลองอุโบสถหลังใหม่ มี 2 เนื้อคือ เนื้อเงิน และเนื้อทองแดง เนื้อทองแดงแบ่งออกเป็น 2 แบบ ด้วยกันคือ กะไหล่ทอง(กรรมการ) และ ทองแดงผิวไฟ เป็นเหรียญทรงเสมา ได้จำลองรูปพระพุทธชินราช พระประธานในพระอุโบสถมาอยู่ที่ด้านหน้าเหรียญ

ด้านหลังเป็นยันต์ห้า เหรียญรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัดไม่ใหญ่ ขนาดความสูง 2.8 กว้าง 1.7 ซม. พุทธคุณเด่นด้าน เมตตามหานิยม โชคลาภ เจรจาค้าขาย เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดปลอดภัย

“เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี 2507” จัดสร้างโดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อเป็นที่ระลึกใน 2 วาระของพระอุปัชฌาย์คือ วาระที่หลวงปู่ดีได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นชั้นเทพที่พระเทพมงคลรังษี ในปี พ.ศ.2507 และฉลองอายุครบ 91 ปี ในวันที่ 29 ม.ค. 2508

ลักษณะเป็นเหรียญรูปอาร์ม จัดทำโดยกองกษาปณ์ และมีเพียงเนื้อเดียวคือ เนื้ออัลปาก้า ที่สำคัญ คือ นับเป็นเหรียญรุ่นแรกของท่าน ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ดีหน้าตรงครึ่งองค์ ด้านล่างใต้รูปเหมือน จารึกอักษรภาษาไทยว่า “พระเทพมงคลรังษี วัดเทวสังฆราม”

ด้านหลังเหรียญ ช่วงบนอักขระขอม 3 ตัว อ่านว่า อิสวาสุ ถัดมาเป็นอักษรภาษาไทย 4 แถว อ่านว่า อิสวาสุ ถัดมาเป็นอักษรภาษาไทย 4 แถว อ่านว่า “อนุสรณ์ชั้นเทพ, ๕ ธ.ค.๐๗, ฉลองอายุ ๙๑ ปี และ ๒๙ ม.ค.๐๘” ตามลำดับ

พระพุทธรูปปางประทานพร ภปร. กฐินต้น สร้างปี 2506 เป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง รัชกาลที่9 มีพระบราราชานุญาตให้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในงานเสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดเทวสังฆาราม และพระราชทานให้ประชาชนชาวไทยได้มีไว้สักการบูชา พระองค์เสด็จฯเททอง ณ พระอุโบสถวัดเทวสังฆาราม เมื่อวันที่ 26 ต.ค.. 2506 โดยมีพระเทพมงคลรังษี (หลวงปู่ดี) เจ้าอาวาสวัดในขณะนั้นเป็นประธาน และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นองค์ที่ปรึกษา

พระบูชา ภปร. กฐินต้นจัดสร้างด้วยกัน 4 ขนาด คือ 22 นิ้ว 12 นิ้ว 9 นิ้ว และ 5 นิ้ว พุทธศิลป์ปางประทานพรแบบสุโขทัยประยุกต์ ฐานผ้าทิพย์ด้านหน้าประดับพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. มีพุทธลักษณะที่งดงามมาก จัดเป็นพระบูชารุ่นแรกที่ในหลวงเสด็จพระราชดำเนินทรงเททอง

ทุกวันนี้พระพุทธรูป ภปร.ที่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 มีผู้เสาะหากันมาก จนสนนราคาเช่าหากันในองค์ที่สวยมากๆถึงเลข 6 หลัก ไม่เพียงเท่านั้น พระกริ่งพุทธโชติ ที่สร้างในสมัยหลวงปู่ดี ในปัจจุบันก็เป็นที่ต้องการของคนเมืองกาญจน์ ซึ่งในองค์ที่สวยๆก็มีผู้ให้ราคามากถึงหลักหมื่นมาแล้ว
ราคาเปิดประมูล 80 บาท
ราคาปัจจุบัน 160 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ 20 บาท
วันเปิดประมูล พฤ. - 11 ก.ย. 2568 - 18:57:55 น.
วันปิดประมูล ศ. - 12 ก.ย. 2568 - 21:22:39 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูล assawin (8.9K)(1)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 พฤ. - 11 ก.ย. 2568 - 18:58:15 น.



*****


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 พฤ. - 11 ก.ย. 2568 - 18:58:56 น.



<<<วัดใจ 100-.>>>หลายรายการ คลิ๊กตามลิ้งค์ได้เลยครับ

https://www3.g-pra.com/auction/searchuser.php?strsearch=assawin&type=0&cate=999


 
ราคาปัจจุบัน :     160 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    PHOOKIEW (1K)

 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 ผู้เสนอราคาราคาเวลา
  Kingofmod (454) 100 บาท พฤ. - 11 ก.ย. 2568 - 21:22:39 น. (ถึงราคาขั้นต่ำแล้ว)
  Resin2007 (1.3K) 120 บาท ศ. - 12 ก.ย. 2568 - 09:59:31 น.
  ศิษย์หลวงพ่อแดง (262)(2) 140 บาท ศ. - 12 ก.ย. 2568 - 12:11:10 น.
  PHOOKIEW (1K) 160 บาท ศ. - 12 ก.ย. 2568 - 14:00:16 น.

Copyright ©G-PRA.COM
www1