(0)
(0)
พระปิดตาจันทรคราส พิมพ์ใหญ่ เนื้อเหล็กเปียก หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ วัดป่าสีดาพระรามรัตนโคตร หนองคาย พระเหนือโลกสายพระโพธิสัตว์ ภูเขาควาย หลวงปู่เทพโลกอุดร
รายการประมูลนี้ถูกยกเลิกโดยผู้ตั้งประมูล
รายงานผลโหวต
จากรูปพระแท้
0%
[0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง
0%
[0]
จากรูปพระเก๊
0%
[0]
พระดูยากจากรูป
0%
[0]
จำนวน
โหวต
ไม่สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้ เนื่องจากรายการประมูลนี้ได้ถูกยกเลิกแล้ว
กรุณารอสักครู่...
รายการประมูลนี้ถูกยกเลิกโดยผู้ตั้งประมูล
ชื่อพระเครื่อง
พระปิดตาจันทรคราส พิมพ์ใหญ่ เนื้อเหล็กเปียก หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ วัดป่าสีดาพระรามรัตนโคตร หนองคาย พระเหนือโลกสายพระโพธิสัตว์ ภูเขาควาย หลวงปู่เทพโลกอุดร
รายละเอียด
พระปิดตาจันทรคราส พิมพ์ใหญ่ เนื้อเหล็กเปียก หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ วัดป่าสีดาพระรามรัตนโคตร หนองคาย พระเหนือโลกสายพระโพธิสัตว์ ภูเขาควาย หลวงปู่เทพโลกอุดร
ด้วยความอยากรู้ว่าข้างในเป็นอะไร ก็เริ่มเสาะแสวงหาคำตอบ ... จนกระทั้งเจอพี่ชายท่านหนึ่งซึ่งศรัทธาหลวงปู่ถามผมว่า
รู้จักหลวงป๋าไหม วัดหลวงพ่อสด ที่ราชบุรี
ไม่รู้จักครับ
้ท่านเป็นพระดี ท่านมีคดขนุนทองคำ มีเหล็กใหล ผมเอาพระไปขอบรรจุที่บนยอดเจดีย์ บนยอดหลวงป๋าท่านจะไว้เฉพาะพระพุทธเจ้า ผมถวายหลวงป๋าท่านจับดูก็แปลกใจ มีแสงฉัพรังสีออกมา และท่านบอกว่าข้างในเป็นเหล็กใหลจะนำไปบรรจุบนยอดเจดีย์ ให้ตามความปรารถนา
วันนั้นผมแขวนพระปิดตาจันทรคราส ไปในงานครูบาเหนือชัย มีชายท่านหนึ่งเดินเข้ามาหาผม ถามว่าพระอะไร พี่เห็นแสงสว่างออกจากองค์พระ ทันที่พี่ชายท่านนี้จับองค์พระ
ประสบการณ์ส่วนตัวผมเอง เพื่อนถูกตัวต่อต่อยเข้าที่กลางมือ ผมนำปิดตาจันทรคราสมาวางที่บนมือ เขาเล่าว่าเวลาที่เอาพระวางที่มือ เหมือนท่านดูดพิษให้เลย ไม่ถึงห้านาที หายปวด เหมือนมดกัด ซึ่งปกติแล้วอย่างน้อย ๆ ก็ต้องปวดหนึ่งวันเต็ม ๆ แต่นี้ไม่ถึงห้านาที
พระหลวงปู่เช่นกัน มีหลาย ๆ คนถามหลวงปู่ว่าหลวงปู่ใส่อะไรข้างใน หลวงปู่ตอบเสมอ ๆ ว่า ของดี ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นอะไรเพราะหลาย ๆ คนก็เห็นเป็นแท่ง ๆ บ้าง ก้อนดำ ๆ บ้าง เป็นไม้บ้าง จากองค์พระที่หลวงปู่ปิดไม่สนิท ก็มีบางองค์ที่หลุดออกมา พอนำมาบูชาก็มีพระธาตุเสด็จมาล้อมรอบ เป็นที่น่าชื่นใจว่าเป็นของดีจริง ๆ
หลวงป๋า วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ราชบุรี ท่านไปหาหลวงปู่ทองทิพย์ครั้งแรกนั้น หนึ่งในคณะที่ไปหลวงพี่ศักดา มองเข้าไปในกุฏิที่หลวงปู่ทองทิพย์นั่งนั้น เห็นเป็นหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ แปลกใจมาก เพราะหลวงพ่อสดท่านมรณะภาพนานแล้ว แต่เมื่อเดินไปใกล้ ๆ กลับกลายเป็นหลวงปู่ทองทิพย์
หลวงปู่ทองทิพย์ ทักหลวงป๋าคำแรก มาแล้วรึ สุมังคละ มาแล้วรึ สุมังคละ ซึ่งทำให้หลวงป๋าตกใจมาก
หลวงปู่ทองทิพย์ท่านทักอีกว่า ไหนเอาเหล็กใหลในอังสะมาให้ชมหน่อย ท้ายที่สุดแล้วเหล็กใหลที่หลวงป๋าติดตัวมาด้วยก็อยู่ที่หลวงปู่ทองทิพย์ จนกระทั้งหลวงปู่ละสังขาร หลวงป๋ากลับไปตามเหล็กใหลก็ไม่พบว่าผู้ใดเก็บไว้
สอบถามไปยังหลานหลวงปู่(ปัจจุบันบวชเป็นพระ) เรื่องการสร้างพระปิดตาจันทรคราส พระท่านเล่าว่า ช่วงแรกที่หลวงปู่สร้างจะสร้างประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๐ สร้างมาเรื่อย ๆ มีวัตถุดิบก็ทำ ซึ่งช่วงแรกจะมีคนช่วยแต่หลังจากนั้นหลวงปู่ท่านก็จะทำเอง และทุกครั้งที่ทำท่านจะให้นั่งหันหลังทำไม่ให้ใครเห็น และท่านจะเสกพระที่ละองค์ ทำเสร็จก็ใสกระป๋องไว้ รูปร่างขององค์พระก็จะแตกต่างกันไป ขนาดอ้วน ผอม สูง เต็ม เบี้ยว บิด ท่านจะเสกเล่นแร่แปรธาตุของท่าน บางองค์ก็ติดสีผึ้งซึ่งเป็นน้ำตาเทียนที่ท่านทำพิธี
ทำให้ผมคิดว่าขี้ผึ้งหรือน้ำตาเทียนที่อยู่องค์พระ จะคล้าย ๆ กับการตัดเหล็กใหล หรือทำให้เป็นทรงเป็นรูปแบบ ก็มิอาจจะทราบแต่คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกัน
พระท่านบอกว่าหลวงปู่จะใช้ตะเกียงเจ้าพายุกับเทียนในการสร้างพระ และหลวงปู่ก็ไม่อนุญาตให้ดู
ถามหลวงปู่ หลวงปู่บอกว่าเป็นของดี ซึ่งผู้ใหญ่ท่านหนึ่งตอนที่รับใช้หลวงปู่ดึกแล้วประมาณตีหนึ่งได้ยินเสียงเหมือนอะไรหล่นใส่ขันที่หัวนอนหลวงปู่ หลวงปู่บอกว่าเทวดานำของมาถวายเป็นเหล็กเปียกบ้างเป็น ของวิเศษอื่น ๆ ซึ่งหลวงปู่เคยเปรย ๆ ว่า
"เดินไปดวงจันทร์กี่ก้าว"
ทำให้คิดไปว่าน่าจะเป็นของที่มาจากดวงจันทรจึงชื่อว่าจันทรคราส
พระปิดตาจันทรคราสนั้น ถ้าเนื้อเหล็กเปียกเดิม ๆ จะมีคราบไขที่เหล็กทำปฏิกิริยากับอากาศจะมีคราบ ต่าง ๆ ตามซอกเคลือบไว้ แต่ถ้าเมื่อเอามือไปจับ ขัด ๆ ถูกจะเงากลับดำสวยงาม
ส่วนเนื้อเงินยวงนั้น จะมีคราบปรอทอยู่ที่ผิวองค์พระผู้ที่เคยขัดจะรู้ว่าเหมือนกับมีปรอทวิ่งเข้าสู่ร่างกาย และก็เหมือนกับว่าจะวิ่งไปทั่ว จึงไปขอความเมตตาพระอาจารย์ที่เคารพให้ช่วยเอาออกเพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายแต่พระอาจารย์ก็ตอบว่า จะเอาออกไปทำไม ของดีอย่างนั้นเป็นปรอทดี รักษาโรค ป้องกันภัย
ในช่วงแรก ๆ ที่หลวงปู่สร้างพระปิดตาจันทรคราสน้น หลวงปู่จะให้ลูกศิษย์เป็นคนทำอยู่ประมาณร่วมร้อยองค์ แต่หลังจากนั้นหลวงปู่จะทำเอง
จะมีพระร้อยองค์แรก ๆ ที่จะมีพิมพ์ชัดขนาดใกล้เคียงกัน แต่หลังจากนั้น หลวงปู่จะสร้างและบรรจุด้วยหลวงปู่เองทีละองค์
พระหลวงปู่ทองทิพย์ จะมีเสน่ห์ตรงเนื้อแท้ขององค์พระ พระที่เดิม ๆ จะมีคราบของการทำปฏิกิริยากับอากาศ แต่เมื่อขัดถูกจะดำสนิทสวยงามไปอีกแบบ พระชุดที่มีเทียนหยดติดองค์พระได้มาจากหลานหลวงปู่(ที่บวชเป็นพระ) บอกว่าอยู่ในย่ามท่าน จริงแท้อย่างไรก็เป็นเพียงคำบอกกล่าว แต่เชื่อว่าพระท่านไม่ได้โกหก
เรื่องเล่าของพระปิดตาจันทรคราส หลวงปู่ทองทิพย์
เรื่องราวที่ จ.ขอนแก่น
พี่ชายท่านหนึ่ง(สงวนนาม) เคยไปกราบหลวงปู่ที่วัด หลวงปู่มอบพระปิดตาจันทรคราสให้ติดตัว บอกของดีตัดตัวไว้ แถวภาคอีสานมักจะเล่นไฮโลเป็นปกติ พี่ชายท่านนี้ก็เล่นเป็นเจ้ามือ เล่น ๆ ไปถูกจับได้ว่าโกงเขา คนเล่นไม่พอใจล้วงกระเป่าเอาปืน .๓๘ ยิงกลางวง ระยะไม่ถึงเมตร แต่ไม่ยิงไม่โดน มือปืนตกใจหน้าถอดสี ยิงระยะเผาขนยังพลาด
ปัจจุบันพี่ชายท่านนี้อายุอานามก็ ๕๐ กว่า ๆ แล้ว ตั้งแต่นั้นมาจันทรคราสไม่เคยห่างกาย
มีคนกล่าวว่าพระปิดตาจันทรคราส หลวงปู่ทองทิพย์เป็นเพชรหลีก บ้างก็กว่าแคล้วคลาดปลอดภัย ตามประสบการณ์ของผู้ที่เชื่อและศรัทธาหลวงปู่ทองทิพย์ บางคนก็ว่าเป็นมหาอุตม์ บ้างก็ว่าเป็น คงพระพันชาตรี
เพชรหลีก ถ้าตามความเข้าใจของผมคือ แคล้วคลาดปลอดภัยแล้วปลอดภัยอีกหลาย ๆ หน คือแบบว่าที่สุดของแคล้วคลาด ดังเรื่องเล่าที่ขอนแก่น
เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องของ ชาตรี ชาตรีคือ ฟันแทงไม่เข้าและไม่รู้สึกเจ็บปวดร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ฃ
ถ้าวิชาคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า แต่จะเจ็บปวดกระดูกหัก ช้ำในตายได้
พี่ชายท่านนี้ปัจจุบันเป็น อบต. ที่จังหวัดหนองคาย บ้านโคก สมัยก่อนพี่ท่านนี้บวชเณรกับหลวงปู่ หลวงปู่ให้พระปิดตาจันทรคราส และเมื่อออกมาจากเณรด้วยความเป็นวัยรุ่นเรื่องตีรันฟันแทงอยู่ในสายเลือด กับหนุ่ม ๆ หมู่บ้านอื่น มีเรื่องมีราวเป็นประจำ แต่แก่ก็แคล้วคลาดปลอดภัยมาตลอด
มีวันหนึ่งขณะนั่งกินข้าวอยู่ วัยรุ่นอีกกลุ่มวิ่งมาเอามีดมาฟันลงไปที่หัวแก เพื่อน ๆ มองไม่รอดแน่ แต่แกลุกวิ่งเข้าไปต่อยตีจนคู่อริหนีกันไป เพื่อน ๆ เข้ามาดูว่าจะเป็นอะไรหรือไม่
ผลไม่มีแม้รอยเลือด หัวยังอยู่เหมือนเดิม เพื่อน ๆ ก็ถามเจ็บไหมรู้สึกอย่างไร
นาทีนั้นนึกว่าตายแน่แต่ เหมือนลมเย็น ๆ มากระทบที่หัว แค่นั้น
เรื่องเล่าของคนที่โดนมีดฟันหัว แต่ไม่มีแม้รอยข่วน เป็นประสบการณ์หนึ่งที่พี่เขาเจอมาแล้วประทับใจ
พระอาจารย์นรสิงห์ วัดจอมมณี อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู
ก่อนที่ท่านจะฝากตัวเป็นศิษย์ปู่ทองทิพย์ ท่านเล่าให้ผมฟังว่า วันนั้นได้มีโอกาศไปกับเพื่อนพระด้วยกันที่วัดป่าสีดาฯ พอเห็นหลวงปู่แค่นั้น ท่านบอกว่าไม่ศรัทธาเลยครับ นึกในใจว่าพระอะไรใส่แหวน พระอะไรมีแต่สายสินธ์เต็มมือ ท่านบอกว่าพอเห็นแล้ววันนั้นไม่ได้กราบหลวงปู่และก็กลับวัดเลย
พออาทิตย์ต่อมาท่านบอกว่า เหมือนมีเหตุให้อยากไปวัดปู่ทองทิพย์อีกครั้งหนึ่ง และก็มีโอกาสได้ไปจริงๆ แต่ครั้งที่สองนี้ ท่านเจอหลวงปู่นั่งอยู่ที่เตียงคนเดียว หลวงปู่เลยชิงพูดขึ้นว่า น้อยเอ้ย ถ้าเจ้าไม่กราบพ่อแล้วเจ้าจะกราบใคร อาจารย์นรสิงห์ตอบว่าถ้าอยากให้ผมกราบหลวงปู่ลองแสดงอะไรก็ได้ให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ พอพูดจบ หลวงปู่ทองทิพย์ท่านก็ลอยขึ้นจากเตียงเลยครับ และก็ลงมานั่งเหมือนเดิม พระอาจาร์นรสิงห์บอกว่าจากนั้นมา ท่านฝากตัวเป็นศิษย์และศรัทธาหลวงปู่ทองทิพย์อยากเต็มหัวใจเลยครับ
เรื่องเล่าของคุณก๋วยเจ๋ง
เรื่องราวมหาอุตม์ ในพระปิดตาจันทรคราส เป็นเรื่องราวแรก ๆ ก็ว่าได้พระตอนนั้นหลวงปู่ทองทิพย์ให้เฉพาะคนที่ทำหน้าที่เวรยามเฝ้าของ(สมบัติ) ที่วัด
ขณะเฝ่าเวรยาม ปวดเยี่ยวก็เลยไปยืนเยี่ยวอย่างสบายใจ สายน้ำกำลังพรั่งพรู แชะ แชะ แชะ เสียงของการรัวของเอ็มสิบหก ซ้อน ๆ กัน สามนัดยิงไม่ออก เวรยามหันมาอีกที พร้อมเยี่ยวที่สุดแบบไม่ตั้งใจ เห็นคนถือปืนเอ็มสิบหกมองดูปืนและเหมือนกับว่า จะถอดแม็กออกมาดูว่าปืนติดขัดอย่างไร พอได้สติโจรมันก็วิ่งป่าแลบไป เป็นที่กล่าวขวัญกันในหมู่ลูกศิษย์หลวงปู่กันมาก เรื่องราวมหาอุตม์ ถูกยิงขณะทวารเปิด ก็ยังไม่ออก
เรื่องเล่าเคล้านิทาน จากปราจีนบุรีอีกสักเรื่อง
ที่ปราจีนบุรี จะมีหมู่บ้านหนึ่งทีคนเขานับถือหลวงปู่ทองทิพย์มาก หนองคายกับปราจีนบุรีห่างกันหลายร้อยกิโล เพราะอะไร สอบถามไปทราบว่า จากประสบการณ์ที่เพือนโดนยิงแล้วยิงไม่ออกจากตะกรุดหลวงปู่ทองทิพย์ แค่เรื่องเล่าจากเพื่อน ๆ ที่เห็น แต่ที่ทำให้เชื่อศรัทธาทั้งหัวใจ เมื่อครั้งไปกราบหลวงปู่ทองทิพย์ที่วัด เขาเล่ากันว่า หลวงปู่ใช้มือ คว้ากลางอากาศทำมือขยุม ๆ พอแบมือออกมา เป็นพระปิดตาจันทรคราสเนื้อขี้ผึ้งข้างในมีวัตถุบางอย่าง องค์เดียวก็คงไม่แปลกอะไร แต่ครั้งนั้นไปกราบกันสิบคน และหลวงปู่ก็ คว้ากลางอากาศ เอาพระปิดตาจันทรคราสมาให้กันครบ องค์เล็กใหญ่แตกต่างกันไป แต่ไม่ต่างกันคือ พิมพ์พระปิดตาจันทรคราส
เรื่องเล่าปิดตาจันทรคราส ถูกโจรดักปล้น
พี่ชายท่านนี้เล่าในงานกฐิน แกคนนี้สุรินทร์ ไปกราบหลวงปู่เป็นประจำกับเพื่อน ๆ ขึ้น ๆ ลง ๆ หนองคาย สุรินทร์
มีวันหนึ่งแกขับรถไปแถวอำเภอช่องจอม มันก็ดึกแล้ว ขณะที่ขับไปมีคนโบกรถข้างทางแกจอดหวังจะช่วย แต่โชคร้ายของแก คนที่แกตั้งใจจะช่วยกลับกลายเป็นกลุ่มโจรวิ่งกรูเข้ามาทำร้าย แกจำได้ว่าเห็นคนหนึ่งฟันมีดมาที่คอแกหลายที ทั้งไม้ ทั้งมีด ทั้งตีน เล่นเอาแกสลบไป พอตื่นเช้ามามองเห็นตัวเองอยู่ในป่าลุกนั่งได้สำรวจตัวเอง ที่คอ แขน หน้าตา ไม่เจ็บไม่มีรอยช้ำใด ๆ เหมือนว่าเรื่องราวที่ถูกปล้นเมื่อคืนเป็นแค่ความฝัน เดินออกมาหลายสิบก้าวก็เห็นถนน
แกแปลกใจที่โดนฟันขนาดนั้น โดนตีหัวขนาดนี้ รอยแผลสักนิดไม่มี มีแต่พระปิดตาจันทรคราสของหลวงปู่ที่ติดตัว พี่แกเล่าไปน้ำตาคลอไป
ปัจจุบัน เป็น อบต. ท่าตูม
เมื่ออ่านเรื่องราวของจำปาสี่ต้น หลาย ๆ คนคงจะพอทราบประวัติหลวงปู่ทองทิพย์ ท่านจะมีนิ้วเพชรที่พระอินทร์ประทานให้ และอีกเรื่องที่เล่าจากคนที่ฟังจากหลวงปู่มาเรื่อง "ต้นชี้ตาย ปลายชี้เป็น" ท่านฉายภาพให้เห็น สี่ต้น ต้นที่ห้ามีรักษาไว้ ... ยังไม่ถึงเวลา
ในจำปาสี่ต้นก็มีนิ้วเพชร หลวงปู่ก็มีนิ้วเพชร อาจจะความบังเอิญของเรื่องราว หรืออาจจะเป็นคนเดียวกันแต่ต่างภพชาติ
ทำให้นึกขึ้นได้ว่าหลวงปู่ท่านจะเสก พระปิดตาจันทราคราสแล้วก็ให้นิ้วแตะไปที่องค์พระทีละองค์ และใช้นิ้วท่านแตะน้ำมันกายสิทธิ์ทาบนองค์พระจันทราคราส ท่านจะสวดคาถา น่าจะเป็นสวดยัญติ ปิดด้วยขี้ผึ้งปิดทาย
มีคนถามมาว่าพระปิดตาจันทรคราสป้องกันอะไรได้บ้าง หลวงปู่บอกเรื่องกันภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติ ภัยจากอาวุธต่าง ๆ นิวเคลียร์ อาวุธชีวภาพ เขาบอกว่าผมโม้หรือเปล่า
ผมก็ไม่ทราบนะครับเพราะไม่เคยลอง แต่ล่าสุด มีคนตามเช่าพระหลวงปู่ปิดตาจันทรคราส เมื่อได้ก็ยิงด้วยปืน .38 ยิงไปหนึ่งนัดปืนระเบิดพัง คนที่เห็นก็ตามพระหลวงปู่อีก เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อห้าวันก่อน
ส่วนเรื่องป้องกันภัยพิบัติหลวงปู่เคยเล่าไว้หลายเรื่อง โดยเฉพาะหลวงปู่สร้างพิทักษ์โลก มาเพื่อป้องกันโดยเฉพาะ
เมื่อวันที่ ๑๙ ธ.ค. ที่ผ่านมา ผมได้แวะเวียนไปที่วัดถ้ำเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ผมได้เจอพี่ชายท่านหนึ่งซึ่งสามารถรับรู้พลังงานต่าง ๆ ได้ดี ผมนำพระปิดตาจันทรคราสให้แกสัมผัส ... ปิดตาเล็ก พุทธกวัก แกบอกว่าพลังแรงมากจันทราคราส และเป็นแสงสว่างออกมาจากองค์พระ แทบไม่ต้องใช้กำลังในการดู ส่วนพระปิดตาเล็ก กับพุทธกวักสู้ไม่ได้เลยในเรื่องของการป้องกันภัย แต่จะออกในเรื่องของการเงิน เมตตา จะเด่นในทางนี้มากกว่า ป้องกันก็ดีแต่จะไม่ดุดันเท่าจันทรคราส ถ้าจะให้เปรียบ ขุนศึกกับขุนคลัง น่าจะชัดเจนสุด
แร่เหล็กไหลเปียก
เหล็กไหลเปียกเป็นเหล็กไหลอีกชนิดหนึ่งที่หายากและไม่ค่อยพบเห็น เหล็กไหลเปียกจะมีความใกล้เคียงกับเหล็กไหลเงินยวงหรือเหล็กไหลชีปะขาว คือมีผิวพรรณวรรณะเป็นสีเงินยวง แต่สามารถกลับกลอกสีผิวตัวเองได้จากขาวเป็นดำและจากดำเป็นขาว คล้ายโลหะจำพวกเงินที่เมื่อโดนอากาศแล้วจะทำให้สีผิวเปลี่ยน แต่เหล็กไหล เปียกยิ่งอัศจรรย์กว่านั้นเพราะโลหะจำพวกเงินเมื่อเปลี่ยนสีผิวจาก ขาวเงินยวงเป็นสีออกดำแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นสีเดิม ได้เอง ต่างกับเหล็กไหลเปียกที่สามารถเปลี่ยนสีผิวตนเองให้กลับไป กลับมาได้ เหล็กไหลเปียกหรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า เหล็กเปียก นี้มีอิทธิฤทธิ์เป็นที่น่าอัศจรรย์คือสามารถเรียกหยดน้ำในอากาศมารวมตัวกันได้ ไม่ว่าเหล็กเปียกจะอยู่ที่ไหนก็จะมีความชุ่มชื้นที่นั่นดุจเดียว กับเหล็กไหลน้ำ เหล็กเปียกมักพบเป็นก้อน มีสัณฐานดั่งก้อนแร่ใต้ดิน
เท่าที่บันทึกไว้ ครูบาโพนสะเม็กซึ่งเป็นพระอริยเจ้าทางฝังลาวเป็น ผู้ที่ค้นพบเหล็กไหลเปียกจากการนั่งทางในแล้วนิมิตเห็นแร่กายสิทธิ์ ประเภทนี้ ท่านจึงได้นำเอาแร่ชนิดนี้มาหลอมแล้วนำมาเคี่ยวด้วยวิชา อาคมและได้นำเหล็กเปียกมารีดเป็นแผ่น หลังจากนั้นนำไปบรรจุไว้ ที่ยอดฉัตรของพระธาตุพนม ด้วยเชื่อว่ามีอานุภาพทางป้องกันฟ้าผ่า อัคคีภัยและบันดาลความร่มเย็นเป็นสุขได้
ฤทธิ์อำนาจจากเหล็กไหลเปียกทำให้หัวไม้ขีดยุ่ย ดินปืนเปียก ไม่อาจจุดระเบิดหรือติดไฟขึ้นมาได้ ซึ่งคล้ายคลึงกับฤทธิ์อำนาจของ เหล็กไหลน้ำ และเหล็กไหลชีปะขาว เพียง แต่มีลักษณะรูปพรรณสัณฐาน ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ฤทธิ์ของเหล็กเปียกจะก่อให้เกิดความชื้น ขึ้นทุกครั้ง จะเห็นได้จากการที่พระพุทธรูปบางองค์มีนาออกจาก พระเคืยรซึ่งสันนิษฐานได้ว่าเกิดขึ้นจากการนำเอาแร่เหล็กเปียกชนิด นี้หล่อหลอมลงไปในเนื้อธาตุที่ใช้ในการสร้าง ทำให้สามารถเรียก ละอองนั้าในอากาศมารวมตัวกันจนกลายเป็นนาอยู่ภายในเคืยรของ พระพุทธรูป เช่น พระพุทธรูปที่วัดนาอู จังหวัดแม่ฮ่องสอน หรือ พระพุทธรูปที่วัดตูม จังหวัดอยุธยา เป็นต้น
ข้อมูลจากเว็บ เหล็กไหล: แร่เหล็กไหลเปียก
- เพื่อป้องกัน ความสับสน หากเปลี่ยนที่อยู่จัดส่ง กรุณาส่งข้อความแจ้งพร้อม การแจ้งโอนเงิน
- หากโอนแล้ว กรุณา แจ้ง
- พระมูลค่าปิด ต่ำกว่า 500 ขออนุญาติส่งแบบลงทะเบียน (ได้รับพระ 5-10 วันหลังส่ง)
- หากต้องการให้ส่งแบบอีเอ็มเอสเพิ่ม 30 บาท
กรุณาแจ้ง การโอนเงินทุกรายการ กรุณาแจ้งด้วยว่าจำนวนเท่าไหร่ พระอะไรครับเพื่อให้การจัดส่งรวดเร็วยิ่งขึ้น / ไม่แจ้งรายละเอียดส่งช้าครับ ++++ ผ่านMail Box ของทางเวปเท่านั้น
* สำคัญที่สุด **** ทุกยอดโอนกรุณาแจ้งทาง Mail Box G -Pra เท่านั้น ** ไม่รับแจ้งทาง SmS หรือ โทรศัพท์ ทุกกรณี**** /+ จะเปลี่ยนที่อยู่แจ้งตอนโอนเสร็จแล้ว **อย่าแจ้งก่อนกันสับสน+
ราคาเปิดประมูล
100 บาท
ราคาปัจจุบัน
-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --
เพิ่มขึ้นครั้งละ
50 บาท
วันเปิดประมูล
พฤ. - 25 ธ.ค. 2568 - 10:00:43 น.
วันปิดประมูล
อา. - 04 ม.ค. 2569 - 10:00:43 น. (เหลือเวลา 3 วัน 15 ชั่วโมง 40 นาที)
ผู้ตั้งประมูล
nop168
(
22K
)
(0)
ราคาปัจจุบัน :
100 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :
50 บาท
!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!
(0)
ประวัติการเสนอราคา
-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --
Copyright ©G-PRA.COM
www1