(0)
นาคปรก 7 ชั้นนิยม






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องนาคปรก 7 ชั้นนิยม
รายละเอียดพระนาคปรก 7 ชั้น ที่ลงในวันนี้เป็นพระที่สวย และเป็นพิมพ์นิยม ตำหนิติดครบ จัดสร้างโดยท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณ แกะพิมพ์โดยฝีมือนายช่างธีระศักดิ์ (นายช่างเล้ง) ธรรมธาตรี จ.ชลบุรี เนื้อจะละเอียด สีออกขาว และขาวอมเทา จำนวนการสร้าง 5,000 องค์ อธิษฐานจิตโดยท่านเจ้าคุณนรฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2513






พระนาคปรก 7 ชั้น ที่ลงในวันนี้เป็นพระที่สวย และเป็นพิมพ์นิยม ตำหนิติดครบ จัดสร้างโดยท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณ แกะพิมพ์โดยฝีมือนายช่างธีระศักดิ์ (นายช่างเล้ง) ธรรมธาตรี จ.ชลบุรี เนื้อจะละเอียด สีออกขาว และขาวอมเทา จำนวนการสร้าง 5,000 องค์ อธิษฐานจิตโดยท่านเจ้าคุณนรฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2513



พระนาคปรก 7 ชั้น ที่ลงในวันนี้เป็นพระที่สวย และเป็นพิมพ์นิยม ตำหนิติดครบ จัดสร้างโดยท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณ แกะพิมพ์โดยฝีมือนายช่างธีระศักดิ์ (นายช่างเล้ง) ธรรมธาตรี จ.ชลบุรี เนื้อจะละเอียด สีออกขาว และขาวอมเทา จำนวนการสร้าง 5,000 องค์ อธิษฐานจิตโดยท่านเจ้าคุณนรฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2513

พระเถระผู้ทรงคุณธรรมเป็นพิเศษในอดีตเป็นอันมาก เมื่อจะถือกำเนิดในครรภ์โยมมารดานั้น มักจะสำแดงนิมิตให้ปรากฏแก่โยมบิดาและโยมมารดาต่าง ๆ กัน เป็นต้นว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเถระ) อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสองค์สำคัญยิ่ง ซึ่งเป็นสมเด็จอุปัชฌาย์ของ "ท่านธมฺมวิตกฺโก" และเชื่อกันว่าท่านเป็นพระอริยบุคคลรูปหนึ่งนั้น เมื่อปีที่ท่านจะเกิดโยมบิดาก็ฝันไปว่ามีผู้นำช้างเผือกมาให้ หรือเมื่อตอนที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แต่ครั้งยังเป็นสามเณร จะย้ายเข้าไปอยู่วัดระฆังโฆสิตาราม เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมนั้น ก็เล่ากันว่าพระอาจารย์ของท่านฝันในคืนวันที่ท่านจะไปถึงว่ามีช้างเผือกเชือกหนึ่งเข้าไปกินคัมภีร์พระไตรปิฎกในตู้จนหมด ฯลฯ
โดยเหตุที่เคยมีเรื่องราวเล่ากันมาดังกล่าวนี้ จึงทำให้ผู้เขียนสนใจสืบถามนิมิตเมื่อตอนที่ท่านธมฺมวิตกฺโกจะถือกำเนิดอยู่เหมือนกัน เพื่อจะได้ "เกร็ด" ประวัติตอนสำคัญของท่านมาเผยแพร่ แต่ก็มิได้ความกระจ่างแต่อย่างไร
เคยมีผู้สนใจซักถามโยมบิดาของท่าน (พระนรราชภักดี-ตรอง จินตยานนท์) ว่าประพฤติตนเช่นไร สวดมนต์อย่างไร ท่องคาถาบทไหน ฯลฯ จึงได้มีบุตรที่ดี (หมายถึงท่านธมฺมวิตกฺโก) เช่นนี้ โยมบิดาของท่านก็ได้ตอบไปว่า เห็นจะเป็นด้วยเหตุที่ท่านได้ใส่ใจภาวนา สวดพระคาถามงคลสูตรอยู่เสมอนั่นเอง
อันพระคาถามงคลสูตรนี้ ตัวท่านธมฺมวิตกฺโกเองก็นิยมท่องบ่นเจริญภาวนาอยู่เสมอเช่นกัน ตลอดทั้งได้แนะนำผู้ใกล้ชิดบางคน เช่น คู่หมั้นของท่าน ให้หมั่นสวดภาวนาทุกวัน ทั้งเวลาเช้าตื่นนอน และเวลาค่ำก่อนเข้านอน
โดยท่านได้ให้อรรถาธิบายว่า
"มงคลคาถานี้ เป็นพระสูตรที่คัดมาจากพระไตรปิฎก ผู้ใดเล่าบ่นหรือสวดและปฏิบัติตาม ย่อมเป็นสิริมงคลอันประเสริฐ จึงเรียกว่าคาถามงคลสูตร"
ในตอนปีท้าย ๆ ก่อนที่จะถึงแก่มรณภาพนี้ รู้สึกว่าท่านธมฺมวิตกฺโกได้ตั้งใจอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาลงในพระเครื่องมากมายเป็นพิเศษ ยิ่งในปี 2513 ด้วยแล้ว ถึงกับมีพิธีสวดอธิษฐานจิตครั้งใหญ่ในวัดเทพศิรินทราวาสถึงสองครั้งสองหน คือเมื่อเสาร์ห้าตรงกับวันที่ 25 เมษายนครั้งหนึ่ง กับวันที่ 5 ธันวาคมอีกครั้งหนึ่ง เฉพาะวันที่ 5 ธันวาคมซึ่งเป็นพิธีสวดอธิษฐานจิตครั้งสุดท้ายของท่านนั้น ได้มีผู้นำพระเครื่องพระบูชา และวัตถุสิ่งของต่าง ๆ ไปให้ท่านอธิษฐานจิตให้อย่างมากมายเป็นประวัติการณ์ มงคลวัตถุเหล่านั้นวางเต็มอาสนะสงฆ์ในพระอุโบสถ จนดูแทบจะทานน้ำหนักไม่ไหว มีผู้กล่าวกันว่าน้ำหนักสิ่งของทั้งหมดที่นำไปให้ท่านอธิษฐานจิตในวันนั้น คะเนรวมแล้วเห็นจะไม่ต่ำกว่า 3 ตัน !
นอกจากนี้ยังมีการถวายให้อธิษฐานจิตและแผ่เมตตาย่อยครั้งละไม่กี่นาที ในพระอุโบสถบ้าง ข้างกุฏิท่านบ้างอีกนับครั้งไม่ถ้วน จนเกือบจะไม่มีการยกเว้นว่าบุคคลใดจะเป็นพระสงฆ์หรือฆราวาสก็แล้วแต่ หากมีประสงค์จะสร้างพระเพื่อหารายได้ไปใช้ในการกุศลแล้ว ท่านก็จะอนุโลมตามความปรารถนา อธิษฐานจิตให้ทุกรายไป
เป็นเรื่องที่บุคคลบางคนเห็นเป็นเรื่องแปลกประหลาด เพราะแต่ก่อนมานั้นท่านไม่ยอมอธิษฐานจิตสิ่งของให้แก่ใครได้ง่าย ๆ เป็นเรื่องนอกลู่นอกทาง มิใช่แนวของพระพุทธศาสนาโดยตรง
เชื่อกันว่าการที่ท่านยอมอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาลงในพระเครื่องอย่างมากมายในระยะหลัง ๆ นี้ก็เพื่อเป็นสิ่งของที่ระลึก เป็นเครื่องหมายแทนตัวท่านสืบต่อไปในอนาคตอีกนานแสนนาน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะดึงคนให้หันเข้ามาสู่ศาสนา เข้าสู่หลักธรรมคำสั่งสองของสมเด็จพระบรมศาสดา
เพราะคนที่นิยมสะสมพระหรือที่ชอบเรียกกันติดปากว่า "เล่นพระ" นั้นในที่สุดก็หันมาปฏิบัติธรรมด้วยกันทั้งสิ้น โดยมีพระเครื่องนั้นเป็นสื่อจูงใจในเบื้องต้น
นอกจากนี้ท่านยังเคยกล่าวว่า
"ให้เขาได้ทำบุญทำกุศลกันเสียบ้าง ดีกว่าเอาเงินไปสุรุ่ยสุร่าย เที่ยวตามบาร์ตามไนท์คลับกัน"
เพราะเงินรายได้ที่ได้จากการจำหน่ายพระเครื่องเหล่านี้ ท่านผู้สร้างก็นำไปใช้จ่ายในการกุศล สร้างโรงเรียน สร้างโบสถ์ เป็นทุนการศึกษาของพระภิกษุสงฆ์สามเณร ฯลฯ อันเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่การศึกษาและการศาสนาทั้งสิ้น
อีกประการหนึ่ง สถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกโดยรอบประเทศของเรา ในระยะนั้นก็มีแต่ความคับขันและอันตรายรอบด้าน ต้องส่งทหารไปร่วมรบในสมรภูมิสาธารณรัฐเวียดนาม สถานการณ์ในลาวและเขมร ประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศเรา กำลังผจญกับสงครามอย่างหนัก อันจะส่งผลกระทบกระเทือนมาถึงประเทศชาติของเราด้วย และการคุกคามของผู้ก่อการร้าย ซึ่งกำลังแผ่ขยายไปทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ฯลฯ บางครั้งก็รุนแรงน่าสะพึงกลัวเป็นอันมาก
ด้วยเหตุดังกล่าวมานี้ที่ทำให้ท่านธมฺมวิตกฺโก ยอมอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาลงในพระเครื่องให้แก่บุคคลต่าง ๆ เป็นอันมากในระยะหลัง ๆ นี้ จึงเกิดอภินิหารเป็นที่ปรากฏประจักษ์แก่มหาชนอย่างกว้างขวาง จนพระเครื่องที่ท่านอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาให้นั้นกลายเป็น "พระเครื่องยอดนิยม" เป็นที่กล่าวขวัญและแสวงหาของชาวพุทธทั่วเมืองไทยในยุคนี้
มีคนเป็นอันมากเชื่อว่าการที่ท่านอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาลงในพระเครื่องเป็นการใหญ่ในระยะหลัง ๆ นี้ แสดงว่าท่านจะต้อง "สำเร็จ" อย่างหนึ่งอย่างใดแล้วแน่นอน
หากการอธิษฐานจิตลงในพระเครื่องเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ ไม่สามารถประจุพลังศักดิ์สิทธิ์ลงสถิตในองค์พระปฏิมาขนาดเล็กนั้นได้จริง ท่านก็จะไม่ยอมแผ่เมตตาให้โดยเด็ดขาด
ท่านได้ทุ่มเทศึกษาทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ในเรื่องเกี่ยวกับอำนาจจิต การทำสมาธิทั้งวิชาฝ่ายโยคะและพระพุทธศาสนามาตั้งแต่วัยหนุ่มและกระทำมาตลอดชีวิตของท่าน ท่านได้เคยใช้พลังจิตผจญกับโรคร้าย ความเจ็บไข้ ตลอดจนอสรพิษ ได้ผลจนเป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็นหรือที่ทราบเรื่องมาแล้ว
ฉะนั้นท่านจึงยินยอมอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาลงในพระเครื่องให้
คราวหนึ่งเมื่อพิธีสวดอธิษฐานจิตในพระอุโบสถ วันเสาร์ห้า 25 เมษายน 2513ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ท่านได้หันไปหาพระมหาเสริม อนุจโย ซึ่งเป็นพระสวดพุทธาภิเษกในวันนั้นว่า
"เรื่องของขลังนี้ ท่านมหาเชื่อไหม ?"
"เกล้าเชื่อ" เป็นคำตอบจากพระมหาเสริม
อีกคราวหนึ่ง ท่านได้บอกกับนายสุวัฒน์ ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มเชื้อจีน อยู่ร้านตัดเสื้อแถวสี่แยกวัดตึกที่มีความเคารพท่านมาก เคยฝันเห็นท่านมาก่อนระหว่างเจ็บป่วย จึงได้เพียรพยายามมาดูตัวจริง จนได้พบท่านแล้วก็เกิดศรัทธาเคารพมั่นในองค์ท่านยิ่งขึ้น เมื่อทราบว่าเขามีการสร้างพระเครื่องถวายให้ท่านอธิษฐานจิตก็พยายามหาเช่าไว้บูชาเป็นอันมาก วันหนึ่งเมื่อได้มีโอกาสพบท่าน ท่านก็ได้กล่าวเป็นเชิงสั่งสอนว่า
"คุณ พระนี่ช่วยได้นะถ้าไม่จำเป็นอย่าไปปล่อย"
ที่ท่านว่า "อย่าไปปล่อย" ก็เพราะท่านคาดว่าจะเอาพระเครื่องนั้นไปให้คนอื่นเช่าต่อ หรือขายต่อให้คนอื่นไป
การที่ท่านกล่าวดังนี้ แสดงว่าท่านเชื่อมั่น ท่านทราบได้อย่างแน่ชัดปราศจากข้อสงสัยใด ๆ ว่าพระเครื่องต่าง ๆ ที่ท่านอธิษฐานจิตนั้น จะต้องมีความศักดิ์สิทธิ์จริง คุ้มครองให้แคล้วคลาดจากอุปัทวันตรายได้จริง สามารถเสริมส่งให้ผู้เคารพบูชาประสบความเจริญก้าวหน้าในชีวิตได้จริง
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า ท่านสั่งสอนให้คนหันมาลุ่มหลงงมงายอยู่กับเรื่องพระเครื่องของขลังต่าง ๆ คราวหนึ่งท่านได้เคยพูดกับนายอธึก สวัสดิมงคล นายกยุวพุทธิกสมาคมชลบุรี ภายหลังจากถวายของให้ท่านอธิษฐานจิตแล้ว เป็นคติน่าฟังมาก
"ทั้งหมดนี่" ท่านกล่าวขึ้น พร้อมกับชี้มือไปยังหีบพระเครื่องต่าง ๆ ที่ท่านอธิษฐานจิตแล้ว "สู้ธรรมะไม่ได้"
แสดงว่าท่านยกย่องการประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมของสมเด็จพระบรมศาสดานั้นว่า มีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด สำคัญยิ่งกว่าการมีพระเครื่องไว้ประจำตัว
อีกคราวหนึ่งในปี 2513 หลังจากพิธีสวดอธิษฐานจิตเมื่อวันเสาร์ห้าผ่านไปเพียงเล็กน้อย นายแพทย์สุพจน์ ศิริรัตน์ ได้นำพระเครื่องพิมพ์นาคปรกเนื้อนวโลหะที่ท่านเจ้าคุณอุดมฯ สร้างเพื่อจำหน่ายหารายได้สมทบทุนสร้างโรงเรียนนวมราชานุสรณ์ นครนายกนั้น ราว 4-5 องค์ไปถวายให้ท่านอธิษฐานจิตซ้ำอีก ก่อนที่ท่านจะยินยอมอธิษฐานจิตให้ ได้ถูกท่านเทศนาสั่งสอนอย่างเจ็บ ๆ อยู่นานร่วม 1 ชั่วโมง
"หมอนี่เรียนมาเสียเปล่า มาหลงงมงายอะไรกับเรื่องพรรค์นี้ !"
ท่านได้ว่ากล่าวสั่งสอน มิให้ลุ่มหลงมัวเมาอยู่กับเรื่องของขลังและอภินิหาร เพราะอภินิหารต่าง ๆ นั้น มิได้ช่วยให้ทุกคนรอดพ้นจากภัยอันตรายได้ทุกครั้งอยู่เสมอไป
ตลอดเวลาที่ท่านเทศนาว่ากล่าวอยู่นานโขนั้น นายแพทย์สุพจน์ ได้โต้แย้งท่านอยู่ไม่หยุดเช่นกัน โดยปกตินั้นท่านชอบคนโต้เถียงท่านด้วยเหตุผลอยู่เหมือนกัน
การที่นายแพทย์สุพจน์โต้เถียงท่านในเรื่องอภินิหารนั้น ก็เป็นด้วยนายแพทย์ผู้นี้ได้เคยเอาพระเครื่องกรุเก่า มาทดลองยิงด้วยปืนพกด้วยมือของตนเองมาหลายครั้งหลายหน จนกระสุนหมดไปหลายกล่อง ปรากฏผลเป็นที่น่าทึ่งมาก โดยใช้วิธีอาราธนาพระไว้ที่ตัวปลาหมอ ในระยะที่ยิงได้แม่นยำอย่างสบาย แล้วก็ระเบิดกระสุนใส่เข้าไป !
ผลของการทดลอง ปรากฏว่าจากการยิงพระนางพญากรุพิษณุโลก ราว 7-8 องค์ ส่วนใหญ่ยิงถูกแต่ไม่เข้า (คงกระพัน) บางองค์ยิงไม่ถูก (แคล้วคลาด) มีอยู่องค์หนึ่งยิงไม่ออก (มหาอุด) และพระปิดทวารของหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง พิมพ์ใหญ่ชนิดสองหน้า ที่เรียกกันว่าพิมพ์พระประกับนั้น ยิงไม่ออก เป็นยอดมหาอุดจริง ๆ
จากประสบการณ์ดังกล่าวนี้เอง ทำให้นายแพทย์สุพจน์ ศิริรัตน์ เชื่อมั่นในอภินิหารของพระเครื่องเป็นยิ่งนัก และเอาเรื่องนี้มาโต้แย้งกับท่านธมฺมวิตกฺโก ที่ท่านกล่าวหาว่ามาหลงงมงายอยู่กับอภินิหารไม่เข้าเรื่อง !
"เรื่องอภินิหาร พระเดชพระคุณว่ามีจริงไหม ?" นายแพทย์สุพจน์ เอ่ยขึ้นตอนหนึ่ง
"จริง" ท่านตอบ จากนั้นท่านกล่าวสืบต่อไปว่า
"หมอเคยเห็นเคยได้ยินข่าวเรื่องโจรผู้ร้ายที่แขวนพระไว้เต็มคอ แต่แล้วก็กลับถูกตำรวจยิงตาย หรือไม่ก็ถูกจับได้ ต้องติดคุกไปบ้างไหม? ถึงแม้จะมีพระอยู่เต็มคอก็ช่วยอะไรไม่ได้ใช่ไหม?"
แล้วท่านกล่าวสำทับในที่สุดว่า "อภินิหารนั้นหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น"
เมื่อถูกท่านขนาบด้วย "ไม้ตาย" เช่นนี้ ก็ทำเอานายแพทย์สุพจน์ ต้องนิ่งงันสงบปากไม่อาจจะกล่าวโต้แย้งในเรื่องอภินิหารใด ๆ กับท่านได้อีกต่อไป
ตามที่กล่าวมานี้ จะเป็นที่เห็นได้ชัดว่า แม้ท่านธมฺมวิตกฺโกจะตั้งใจอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาลงในพระเครื่อง ด้วยความเชื่อมั่นว่า มีความศักดิ์สิทธิ์สามารถปกป้องคุ้มครองผู้สักการะบูชาได้ก็จริง แต่ผู้มีพระเครื่องไว้คุ้มครองนั้น ก็จะต้องประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระบรมศาสดา เจ้าของที่มาแห่งองค์พระปฏิมานั้นด้วย

...................................................


บรรยายตามภาพ รับประกันตามกฏ
ราคาเปิดประมูล10,000 บาท
ราคาปัจจุบัน12,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 01 ก.พ. 2553 - 21:32:20 น.
วันปิดประมูล - 04 ก.พ. 2553 - 19:16:54 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลสิงต์บูล (595)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 03 ก.พ. 2553 - 18:51:12 น.
.


ด้านหน้าชัดๆๆๆๆๆๆๆ


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 03 ก.พ. 2553 - 18:52:26 น.
.


ด้านข้าง


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 03 ก.พ. 2553 - 18:53:16 น.
.


ด้านอีกข้าง


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 03 ก.พ. 2553 - 18:55:07 น.
.


บัตรของแท้นะครับ แต่ไม่เอาลงครับ


 
ราคาปัจจุบัน :     12,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    akkorn (482)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1