(0)
ท่านพระครูบริรักษ์ธรรมการ หลวงพ่อบุญเทียมวัดลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี รุ่นแรก ตำหรับยันต์ตรีนิสิงเห ที่ละลึก 5 รอบ พ.ย.21 สวยเดิม ครับ วัดใจ *เคาะเดียว*






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องท่านพระครูบริรักษ์ธรรมการ หลวงพ่อบุญเทียมวัดลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี รุ่นแรก ตำหรับยันต์ตรีนิสิงเห ที่ละลึก 5 รอบ พ.ย.21 สวยเดิม ครับ วัดใจ *เคาะเดียว*
รายละเอียดท่านพระครูบริรักษ์ธรรมการ หลวงพ่อบุญเทียมวัดลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี ตำหรับยันต์ตรีนิสิงเห ที่ละลึก 5 รอบ พ.ย.21
**************************************
ตะกรุดโทน หลวงพ่อเทียม วัดลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
เรื่องโดย..บรรลุ โกเมน

“ใน จ.นนทบุรี มีตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ครองอันดับหนึ่งตลอดกาล ใน จ.ปทุมธานี ยุคโบราณมีตะกรุดหนังหน้าผากเสือ หลวงพ่อท่านเจ้าคุณธรรมานุสารี (สว่าง)วัดเทียนถวาย ครองอันดับหนึ่ง แต่ถ้านึกถึงพระเกจิอาจารย์ยุคหลัง ตะกรุด หลวงพ่อเทียม วัดลาดหลุมแก้ว เป็นยอดที่สุด”

จังหวัดปทุมธานี เมืองบัว อุดมไปด้วยพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษมากมายหลายองค์ แต่ละองค์ล้วนสร้างวัตถุมงคลแจกลูกศิษย์ลูกหามีความขลังเป็นอมตะ เช่น ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ ของท่านเจ้าคุณพระธรรมานุสารี (สว่าง) วัดเทียนถวาย ที่มีมหาอุดเป็นยอด มหาอำนาจเป็นเยี่ยม นักเลงเครื่องรางโบราณถึงกับบอกลูกหลานไว้ว่า

“ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ วัดแจ้ง แข่งกับหนังหน้าผากเสือ วัดเทียนถวาย ไม่มีใครเป็นรองต้องหาไว้ทั้งสององค์” เรียกว่าในอาณาจักรหนังหน้าผากเสือแล้ว ต้องยกให้สำนักวัดแจ้งและวัดเทียนถวายเป็นยอดก็แล้วกัน แต่นั่นเป็นอดีต ยากนักที่จะหาได้ ทว่าในเมืองบัวแห่งนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ที่สร้างตะกรุดได้เป็นยอด แต่ท่านเสมือนช้างที่อยู่ในป่าขาดอนไม่ค่อยได้มีใครเอ่ยถึง จนท่านมรณภาพแล้ว ตะกรุดของท่านจึงได้รับการเทิดทูนว่าเป็นยอดในทุกด้านมาจนทุกวันนี้

ผู้เขียนกำลังจะนำท่านไปรู้จักกับตะกรุดหนังหน้าผากเสือ และตะกรุดโทน ของหลวงพ่อเทียม วัดลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ในลำดับต่อไปนี้ หลวงพ่อเทียม วัดลาดหลุมแก้ว เดิมชื่อ บุญเทียม เอกเอี่ยม เป็นบุตรคุณพ่อเมฆ-คุณแม่ควด ชาตะ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2461 ที่บ้านหมู่ 1 ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดลาดหลุมแก้ว เมื่อ พ.ศ.2483 มีพระอธิการปลื้ม วัดบัวเกษร ต.บ้านระแหง เป็นพระอุปัชฌาย์
หลวงพ่อเทียมท่านเป็นพระนักศึกษามาก่อน แต่เมื่อมีเวลาว่างท่านจะไปศึกษากัมมัฏฐานในสำนักต่างๆ ที่มีพระวิปัสสนาจารย์ผู้มีชื่อเสียงเป็นเจ้าสำนัก จึงทำให้ท่านมีความรู้แตกฉานในเรื่องของกัมมัฏฐาน

การเป็นเจ้าอาวาสวัดในสมัยก่อนไม่ใช่ของง่าย เพราะนอกจากจะต้องเป็นนักปกครองภิกษุ-สามเณรในวัด และเด็กวัดจอมเกเรที่พ่อ-แม่เอามาพึ่งวัดดัดสันดานแล้ว ยังต้องเป็นหมอยากลางบ้าน เป็นพระเกจิที่สามารถกำราบพวกนักเลงหัวไม้ให้อยู่ในตำแหน่งไม่ล้ำเส้นออกไปทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ต้องเป็นผู้ไล่ภูตผีปีศาจ เรียกง่ายๆ ว่าต้องเก่งครอบจักรวาล จะมาเทศนาลูกเดียวท่านว่าไปไม่รอด



หลวงพ่อเทียมท่านได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณจากหมอสุด หมอสุดผู้นี้มีฉายา หมอเทวดา เพราะเมื่อมีคนไข้มาหา หมอสุดดูแล้วหากจัดยาให้ละก็หายแน่นอน แต่ถ้าหมอสุดดูแล้วบอกว่าเอายาไปประทังตัวหมดหม้อแล้วไม่ต้องมาหาอีก อย่างนี้บอกใบ้ว่ายาหมดก็กลับบ้านเก่า ถ้าหมอสุดจัดยาให้แล้วบอกให้มาเอายาใหม่ ร้อยทั้งร้อยหายดีแน่นอน หมอสุดได้ครอบวิชามอบตำราครูให้หลวงพ่อเทียมทั้งหมด เมื่อหมอสุดถึงแก่กรรม หลวงพ่อเทียมต้องทำหน้าที่แทนหมอสุดช่วยชีวิตญาติโยมไว้มากมาย

หลวงพ่อเทียมท่านได้ไปเรียนวิชากับพระเกจิอาจารย์สองรูปด้วยกัน คือ หลวงพ่อชื่น วัดตำหนัก เรียนตรีนิสิงเหมอญ และวิชาอาคมด้านรามัญ หลวงพ่อทองสุก วัดตาล เรียนตรีนิสิงเหแบบไทยคืออักขระขอม ทั้งสองพระเกจิถ่ายทอดวิชาให้หลวงพ่อเทียมจนหมดความรู้ ได้ตำราอาคมรามัญมาจากหลวงพ่อชื่นเป็นมรดกตกทอด โดยหลวงพ่อชื่นบอกว่าสิ้นท่านแล้วก็ขอให้ใช้ตำราช่วยประชาชน ช่วยทหารหาญที่ไปรบให้แคล้วคลาดอันตราย
อันยันต์ตรีนิสิงเหเป็นยันต์ครอบจักรวาล จะลบผง ลงตะกรุด โดยแบ่งยันต์ออกเป็นตาราง แต่ละตาราง ใช้เลขแทนอักขระ โดยตามตำราระบุว่า

เลข 3 ให้ภาวนาเวลาลงว่า มะอะอุ ตรีนิสิงหะทะเย
เลข 7 ให้ภาวนาว่า สัตตะนาเคราชา
เลข 5 ให้ภาวนาว่า ปัญจะเพชรฉะลูกันเจวะ
เลข 4 ให้ภาวนาว่า จตุโลกะปาลานะมามิหัง
เลข 5 ให้ภาวนาว่า ปัญจะเทวานะมามิหัง
เลข 1 ให้ภาวนาว่า พุทธานุภาเวนะ
เลข 9 ให้ภาวนาว่า นวะโลกุตระธัมมานุภาเวนะ
เลข 5 ให้ภาวนาว่า ปัญจะพุทธานุภาเวนะ
เลข 8 ให้ภาวนาว่า อัฏฐอะระหันตานุภาเวนะ

หลวงพ่อเทียมออกตะกรุดโทนรุ่นแรกด้วยตะกั่ว มีสองขนาด ยาวประมาณ 7 ซม. แจกผู้ชาย กับขนาด 4 ซม. แจกผู้หญิง ท่านลงอักขระเอง รุ่นแรกนี้มีเนื้อทองแดงด้วยแต่ไม่มากนัก ก่อนม้วนท่านได้ใช้สิ่วตัดมุมแผ่นตะกรุด เพื่อเวลาม้วนจะได้เห็นรอยตัดที่ปลาย ถือเป็นเอกลักษณ์ของท่านตลอดมา

ต่อมาตะกรุดของท่านไปดังด้วยประสบการณ์ ทั้งด้านมหาอุด คงกระพัน และในสงครามเวียดนามตะกรุดของท่านก็ดังระเบิด ทำให้ท่านต้องสร้างตะกรุดเพิ่มมากขึ้นท่านจึงต้องใช้แกะแม่พิมพ์ปั๊มเป็นตะกรุดสำเร็จ ตัดมุมแล้วท่านสอนให้พระ-เณรช่วยกันม้วน ส่วนท่านปลุกเสกเอง ก็ปรากฏว่าขลังเป็นอย่างยิ่ง จนหลายคนได้ไปแล้วไปดูถูกว่าเป็นตะกรุดโหล ใช้ปั๊มแทนการลงด้วยมือ ทดลองยิงดูปรากฏว่าไม่ออก กระบอกบวมปืนเสียไปเลย จึงเพิ่มคำเล่าลือให้มากขึ้นอีกเป็นทวีคูณ



หากใครได้เห็นหลวงพ่อเทียมปลุกเสกตะกรุดจะรู้สึกว่าแปลก ท่านจะเอาตะกรุดที่ลงแล้วม้วน แล้วลงไปแช่ในน้ำมนต์ เมื่อถามท่าน ท่านตอบว่า

“ฉันปลุกเสกด้วยเตโชกสิณ (ธาตุไฟ) หากปลุกเสกโดยไม่เอาน้ำมาเป็นฉนวนละก็ ตะกรุดตะกั่วจะเยิ้มติดกันหมด ส่วนทองแดงก็จะละลาย แล้วจะแจกกันอย่างไร”

เนื่องจากตลอดชีวิตของหลวงพ่อท่านต้องปลุกเสกวัตถุมงคล ต้องสูดดมควันธูปและควันเทียน จนกระทั่งปอดของท่านมีจุดและขยายใหญ่ จนที่สุดก็ทำให้ท่านต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ แต่พอออกจากโรงพยาบาลแล้วท่านก็ไม่หยุด ยังคงรดน้ำมนต์ ปลุกเสกของ ดมควันธูปอย่างต่อเนื่อง หลวงพ่อตรากตรำอยู่จนถึง วันที่ 4 สิงหาคม 2529 หลวงพ่อก็ถึงแก่มรณภาพ





หลังจากพิธีพระราชทานเพลิงศพผ่านไปแล้ว วัตถุมงคลที่หลวงพ่อสร้างไว้ก็ถูกบูชาไปจนหมดสิ้น เป็นที่กล่าวขวัญกันว่า ตะกรุดหลวงพ่อเทียม ดีเยี่ยม หากดวงไม่ขาด ไม่ประมาท เป็นรอดตายวายชีวา หากดวงขาดบวกประมาทอะไรก็ช่วยไม่ได้



( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 910 เดือนกันยายน 2547 : เครื่องรางน่ารู้ โลกแห่งเครื่องรางไทย : ตะกรุดโทน หลวงพ่อเทียม วัดลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดย..บรรลุ โกเมน )
ราคาเปิดประมูล500 บาท
ราคาปัจจุบัน550 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 06 มิ.ย. 2553 - 17:33:57 น.
วันปิดประมูล - 16 มิ.ย. 2553 - 23:48:06 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลลูกน้ำยม (2.3K)(2)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     550 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    chupra (1.8K)(1)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1