ชื่อพระเครื่อง | ผงรูปเหมือนรุ่นแรก หลวงพ่อล้าน วัดขนาย จ สุราษฎร์ธานี เนื้อก้นครก พิมพ์ใหญ่ |
รายละเอียด | วันที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7129 ข่าวสดรายวัน
หลวงพ่อล้าน เขมจิตโต พระเกจิแห่งลุ่มนาตาปี
คอลัมน์ มงคลข่าวสด
"หลวงพ่อล้าน เขมจิตโต" หรือ พระ ครูเกษมจิตตาภิรักษ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดขนาย ต.บางงอน อ.พุน พิน จ.สุราษฎร์ธานี
มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าแห่งปักษ์ใต้
หลวง พ่อล้าน บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติดีเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่พึ่งพิงทางใจของพุทธศาสนิกชนทั่วไป
วัตถุมงคลและเครื่องรางที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกโด่งดังไปไกลทั่วประเทศ โดยเฉพาะตะกรุดผานไถและผ้ายันต์กันโจร
ปัจจุบัน หลวงพ่อล้าน สิริอายุ 77 พรรษา 50 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดขนาย จ.สุราษฎร์ ธานี และเจ้าคณะตำบลบางงอน
อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ล้าน สงนรินทร์ เกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2476 ณ บ้านคลองเคี่ยม ต.บางงอน อ.พุนพิน จ. สุราษฎร์ธานี
โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายสุขปั้น และ นางพร้อย สงนรินทร์ ครอบครัวมีพี่น้อง 7 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม
ชีวิต ในวัยเด็กค่อนข้างลำบาก ต้องช่วยเหลือครอบครัวทำงาน แต่ยังมีเวลาที่จะศึกษาเล่าเรียน เมื่ออายุ 7 ขวบ ได้เข้าศึกษาที่โรง เรียนวัดขนาย จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังจากนั้นได้ช่วยครอบครัวประกอบอาชีพทำนา และปลูกผักขาย
ใช้ชีวิต ในวัยหนุ่มด้วยการหาเลี้ยงครอบ ครัว แต่แล้วในวัย 27 ปี ท่านเกิดมีความคิดที่จะบวชเรียนตามประเพณี จึงได้กราบลาบุพ การี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2503 ณ วัดขนาย มีพระครูสถิตสันตคุณ (หลวงพ่อพัว) เจ้าคณะอำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพิทักษ์ธรรมสาร (หลวงพ่อพริ้ม) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูรัษฎารามคณิศร์ เจ้าคณะตำบลบางงอน เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายานามว่า เขมจิตโต
หลัง อุปสมบท ได้ศึกษาในพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ก่อนหันไปศึกษาวิชาอักขระขอม ลงเลขยันต์ จากหลวงพ่อพริ้ม
สำหรับหลวงพ่อพริ้มนั้น ได้รับการถ่าย ทอดมาจาก พระสมุห์รวย หตาโส อดีตเจ้าอาวาสรูปก่อนอีกทีหนึ่ง
นอก จากวิทยาคมอักขระขอม ท่านยังได้เรียนวิชาต่อกระดูกตำรับวัดขนายโดยตรงจากหลวงพ่อพริ้ม ซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ผู้เป็นเจ้าของตำรา คือ ตาปะขาวผู้สร้างวัดขนาย
ทั้งนี้ วัดขนาย แต่เดิมมีชื่อว่า "วัดโคกพร้าว" ตามตำนานกล่าวกันว่ามีตาปะขาวหรือตาผ้าขาว (ผู้มีวิชาอาคม ถือศีล นุ่งขาวห่มขาว) เป็นผู้สร้างวัดขึ้น แต่ไม่ทราบหลักฐานที่แน่นอนว่าสร้างขึ้นเมื่อใด
ต่อมาเมื่อมีชาว บ้านชาวช่องเข้ามาตั้งหลักปักฐานทำมาหากินกันมากขึ้น จนกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่โตขึ้นเป็นหมู่บ้าน มีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า "หมู่บ้านขอ-นาย"
ภายหลังเพี้ยนไปเป็น ขนาย ในที่สุด ส่วน วัดโคกพร้าว ก็ได้เปลี่ยนมาเป็น วัดขนาย ตามชื่อหมู่บ้านไปด้วยในสมัยของ พระสมุห์รวย หตาโส อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 8 ของวัดขนาย ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระสมุห์เกษม โดยที่ท่านเป็นพระนักพัฒนาที่ได้พัฒนาวัดขนายให้มีความเจริญก้าวหน้า และยังเป็นพระเถระที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพนับถือกันอย่างกว้างขวาง
กระทั่ง พระปรีชาอุดม เจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานีในสมัยนั้น เห็นคุณความดีงามของท่าน และเพื่อเป็นเกียรติแก่พระสมุห์เกษมหรือหลวงพ่อสำรวย จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อวัด จากวัดขนาย มาเป็น วัดเกษมบำรุง จนถึงปัจจุบันนี้ แต่ชาวบ้านในละแวกนั้นก็ยังคงติดปากเรียกกันว่าวัดขนายอยู่เช่นเดิม
ท่านได้ศึกษาวิชาต่อกระดูกจนมีความเชี่ยวชาญ ได้นำมาใช้รักษาให้ชาวบ้านที่ประสบเหตุจนกระดูกหัก ให้หายเป็นปกติ
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2532 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดขนาย จ.สุราษฎร์ ธานี พ.ศ.2547 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลบางงอน
ลำดับ สมณศักดิ์ พ.ศ.2518 เป็น พระสมุห์ล้าน เขมจิตโต พ.ศ.2540 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูเกษมจิตตาภิรักษ์
กล่าวกันว่า หลวงพ่อล้าน มีความชำนาญพระคาถาอิติปิโส 8 ทิศ, มงกุฎพระพุทธเจ้า, พระเจ้า 16 พระองค์ และฆะเฏสิ ทรงอิทธิคุณในทางขับไล่สิ่งอัปมงคลชั่วร้าย เสริมดวงชะตา นำพาโชคลาภวาสนาบารมี
สำหรับวัตถุมงคลที่หลวงพ่อล้าน ได้จัดสร้างจนโด่งดัง คือ เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก หลังยันต์น้ำเต้า
แต่ ที่ได้รับการเล่าขานถึงอย่างกว้างขวาง คือ ตะกรุดผานไถพลิกแผ่นดิน ที่จัดสร้างจากผานไถจริงที่ใช้ไถนา เอามาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ทำตะกรุด นำมาหลอมรวมกันตามสูตรที่เรียนมาจากครูบาอาจารย์ จนได้รับการยอมรับจากบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลว่ามีคุณเด่นด้าน เมตตามหานิยมและค้าขายเจริญรุ่งเรือง
หลวงพ่อล้าน กล่าวว่า "ตะกรุดผานไถพลิกแผ่นดิน ที่ช่วยให้สามารถพลิกชะตาจากร้ายให้กลายเป็นดี ดุจเดียวกับผานไถนาที่ช่วยพลิกแผ่นดินที่เสียให้กลับกลายเป็นดินดี สามารถปลูกข้าวให้งอกงามได้ เป็นที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณ แต่กระนั้น จะอาศัยเพียงวัตถุมงคลอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องใช้ความพยายามลงมือทำ สร้างเนื้อสร้างตัว อย่าไปเบียดเบียนผู้อื่น และที่สำคัญ ต้องมีศรัทธาประกอบด้วย จะทำให้เราประสบผลสำเร็จได้"
แต่ถึงแม้วัตถุมงคลของหลวงพ่อล้าน จะได้รับความนิยมจากบรรดาสานุศิษย์ แต่ท่านไม่เคยอวดโอ่
มี แต่พร่ำสอนให้ญาติโยม อย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท อย่ายึดมั่นถือมั่นเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีพ้น ขณะยังมีชีวิตขอให้ทุกคนหมั่นประกอบแต่กรรมดี ละเว้นทำชั่ว เพราะอายุคนนั้นสั้นนัก ถึงไม่แก่ไม่เฒ่าก็ตายได้เช่นกัน จงอย่าประมาท
หลวงพ่อล้าน มักนำปัจจัยที่สานุศิษย์นำมาถวายหรือได้รับกิจนิมนต์เข้าร่วมพิธีพุทธา ภิเษกสำคัญทุกครั้ง เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา จะนำไปพัฒนาวัดและส่งเสริมด้านการศึกษาทั้งสิ้น ทำให้วัดขนายแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว รวมทั้งพัฒนาบรรยากาศภายในบริเวณวัดมีแต่ความสงบวิเวกเหมาะสมสำหรับการ ปฏิบัติธรรม
ด้วยล่วงเข้าสู่วัยชราอายุกว่า 77 ปีแล้ว ทำให้สุขภาพร่างกายย่อมเสื่อมถอยไปตามวัย
แต่ถึงกระนั้น ท่านก็คงยังเมตตาให้คณะศิษย์ได้เข้าพบเพื่อกราบนมัสการสนทนาธรรมจากท่านอยู่มิได้ขาด
สมกับที่ได้รับการยกย่องให้ท่านเป็นพระเกจิดังแห่งลุ่มน้ำตาปี |
ราคาเปิดประมูล | 500 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 510 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | - 18 ต.ค. 2553 - 20:15:39 น. |
วันปิดประมูล | - 21 ต.ค. 2553 - 12:41:43 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | เปนเอก (6.7K)(1)
|