รายละเอียด | ร่วมสร้างพระพุทธนิมิตพิชิตมาร ในวันมรณภาพ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒
เขียนโดย Administrator
Saturday, 27 June 2009
สร้างพระพุทธนิมิตพิชิตมาร ในวันมรณภาพ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒
พระครูวิจิตรธรรมภิรัต (เชย) เจ้าอาวาสวัดละหารไร่ ระยอง มาหาคุณชินพร สุขสถิตย์ ประธานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก เพื่อหารือถึงเรื่องการสร้างพระประธานประดิษฐานไว้ในพระมหาเจดีย์ภาวนาภิรัต (ทิม อิสริโก) ซึ่งก่อสร้างเสร็จไปแล้วกว่า ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ว่าอยากจะสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่หน้าตักประมาณ ๑๕๒ เซนติเมตร เพื่อประดิษฐานไว้ในพระมหาเจดีย์ จะโดยอะไรดลใจก็เหลือเดา คุณชินพร บอกให้สร้างพระพุทธรูปปางปราบท้าวมหาชมภูบดี (ทรงเครื่องจักรพรรดิ์)
ไว้ก็จะดีทั้งยังไม่เคยมีวัดใดในภาคตะวันออกสร้างมาก่อน อีกทั้งเป็นการปราบปรามสิ่งชั่วร้ายซึ่งเกาะกุมอยู่ทั่วทุกวงการในประเทศไทยให้ลดน้อยเบาบางลงจะ เป็นอุธาหรณ์ให้ผู้คนได้คิด เพียงเท่านั้น หลวงพ่อเชย เจ้าอาวาสวัดละหารไร่องค์ต่อจากหลวงปู่ทิม ก็เห็นชอบทันทีและมอบให้คุณชินพร เป็นเจ้าภาพในการจัดสร้าง โดยจะต้องเททองหล่อที่วัดละหารไร่ ในวันศุกร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ ซึ่งตรงกับวันมรณภาพของหลวงปู่ทิม และเป็นวันที่จะทอดกฐินสามัคคีโดยคณะศิษย์หลวงปู่ทิมที่จะร่วมทำบุญไปพร้อมกัน ในวันนั้น
ทันทีที่คุณชินพร รับปากเป็นเจ้าภาพ คุณมานิดาภรรยาคุณชินพร ขอร่วมสร้างเป็นรายแรกโดยถวายเงินเป็นประเดิม ๑แสนบาทไปวางมัดจำทำสัญญาจ้างโรงหล่อพิมพ์ทองรุ่งเรืองให้หล่อพระพุทธรูปปางพิชิตมารองค์นี้ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ์ปางปราบท้าวมหาชมภูบดี หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์หน้าตัก ๕๙ นิ้วจะหล่อที่วัดละหารไร่ ในวันคล้ายวันมรณภาพครบรอบ ๓๔ ปีของหลวงปู่ทิม ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ ฤกษ์หล่อคงจะหลังจากเลี้ยงพระเพลทำบุญถวายกุศลเพื่อระลึกพระคุณหลวงปู่ทิม ดังเช่นทุกปี เสร็จแล้วร่วมกันทอดกฐินสามัคคี เพื่อนำปัจจัยที่จะได้มาสมทบทุนสร้างมหาเจดีย์ ภาวนาภิรัติให้แล้วเสร็จ
ทุกวันที่มีผู้มากราบไหว้บูชารูปหล่อหลวงปู่ทิม ขนาดเท่าองค์จริงซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ สำนักงานมูลนิธิหลวงปู่ทิม ผู้ที่ทราบข่าวการทอดกฐินสามัคคีและการหล่อพระประธานพระพุทธนิมิตพิชิตมาร เพียง ๑-๒ สัปดาห์เท่านั้น ก็มีผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีและหล่อพระ โดยสั่งจองชุดกรรมการรายละ ๑๐,๐๐๐ บาท จนครบทั้ง ๑๐๘ ชุดแล้ว รายที่สองร่วมทำบุญ หล่อพระและทอดกฐิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ผู้ทำบุญรายนี้เล่าว่าก่อนนั้น ใช้พระเครื่องชุดเบญจภาคี ทั้งคอมีมูลค่าหลายล้าน เมื่อได้ข่าวว่าพระเครื่องหลวงปู่ทิมใช้ดี อธิษฐานขออะไรมักได้ตามใจปรารถนา จึงลองใช้ดูก็ได้ผลจริงจึงเริ่มเก็บสะสมและใช้พระหลวงปู่ทิมตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบันสะสมพระเครื่องหลวงปู่ทิมไว้หลายล้านบาทแล้ว
มีท่านหนึ่งจองชุดกรรมการเองและรวมสมัครพรรคพวกได้ถึง ๑๐ ชุดเพราะได้บูชาเหรียญเสมาเนื้อทองแดงพิเศษมีตอกโค้ดศาลาไปแล้วมีโชคถูกหวยได้เงินกว่าครึ่งล้าน ทั้งๆที่ไม่เคยมีลาภทางด้านนี้มากว่า ๑๐ปี จึงชักชวนพี่น้องเพื่อนฝูงมาร่วมทอดกฐินและสร้างพระประธานถวายหลวงปู่ทิมด้วย
เหรียญเสมาพุทธนิมิตฯ ด้านหน้า
ด้านหลังรูปหลวงปู่ทิม ล้อมรอบด้วยมหายันต์
คณะศีลเจพรต โดยคุณธีระ และคุณตุ้ย ร.ต.อ.วีรพล รุจิรวงศ์ ลูกชายพล.ต.อ. ประเสริฐ รุจิรวงศ์ อดีตอธิบดีตำรวจที่เคยให้นายเวรมาบูชาเหรียญหล่อฉลุ อิสริโก เนื้อทองคำไปกว่าสามสิบเหรียญเมื่องาน ๘ รอบปี ๒๕๑๘ ได้ชวนญาติมิตรมาร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อพระพิชิตมารชุดกรรมการถึง ๑๙ ชุด เพื่อบูชาพระคุณความศักดิ์สิทธิของหลวงปู่ทิม
พระพุทธรูปปางปราบท้าวมหาชมภูบดี (ทรงเครื่องจักรพรรดิ์) องค์ต้นแบบพระที่จะหล่อในครั้งนี้ คือพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมรีศรีสรรเพชร พระประธานวัดหน้าพระเมรุการาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวที่ไม่ถูกพม่าเผ่าทำลายคราวเสียกรุงศรีฯครั้งที่ ๒ พระองค์นี้ได้สำแดงความศักดิ์สิทธิ์ให้ประจักษ์แจ้งเมื่อครั้งพระเจ้าอลองพญา แห่งกษัตริย์พม่ายกทัพใหญ่มาล้อมรอบกรุงศรีอยุธยาและตั้งฐานปืนใหญ่ ยิงถล่มกรุงฯปรากฏว่า ปืนแตก อลองพญาบาดเจ็บสาหัสต้องยกทัพกลับและเสียชีวิตในระหว่างถอยทัพขณะยกทัพกลับพม่า คณะศิษย์หลวงปู่ทิมจึงนำเอาพระพุทธรูปปางนี้มาเป็นแบบสร้างพระประธานในพระมหาเจดีย์ภาวนาภิรัต เพื่อเตือนสติชาวไทยอย่ามัวแต่ทะเลาะกันเองขอให้ร่วมใจช่วยกันปราบปรามมารผู้จะมาทำลายชาติไทยเรา
สุดมหัศจรรย์ วันหล่อ พระพุทธนิมิตพิชิตมาร หลวงปู่บัว ตราด เดี่ยวองค์เดียวโดดๆ
เขียนโดย ชินพร สุขสถิตย์
Wednesday, 28 October 2009
เหมือนดังทุกปีที่ผ่านมาจนเข้าปีที่ ๓๔ วันศุกร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ คณะศิษย์หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ได้ร่วมกันทำบุญระลึกถึงหลวงปู่ทิมดังเช่นทุกปีมาแล้ว ยังได้ประกอบพิธีกรรมบุญพิเศษที่ยิ่งใหญ่ขึ้นอีก สองรายการ คือ หนึ่ง ร่วมกันทอดกฐินสามัคคีโดยมอบให้ผมและคุณมานิดาเป็นประธานจึงได้บอกบุญไปยังศิษยานุศิษย์ทั้งหลายให้ร่วมกันหาปัจจัยเพื่อก่อสร้างพระมหาเจดีย์ภาวนาภิรัตให้แล้วเสร็จได้ปัจจัยรวมทั้งสิ้นกว่า ๑,๖๐๐,๐๐๐ บาท เป็นปัจจัยของทางศิษย์พัทยา ๖๕,๐๐๐ บาท บุญที่สามคือ ร่วมกันหล่อพระพุทธนิมิตพิชิตมารขนาดหน้าตัก ๖๕ นิ้วขึ้นมาหนึ่งองค์เพื่อเป็นพระประธานในมหาเจดีย์ที่ร่วมกันสร้างมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ และจุดหมายอีกอย่างหนึ่ง คือเพื่อบรรเทาเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติให้สงบเบาบางลงไป
ในงานใหญ่ครั้งนี้ มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นมาเพื่อตอบแทนผู้ร่วมบริจาคปัจจัยในการทอดกฐินสามัคคี เพราะถ้าจัดกฐินอย่างทั่วไปแล้ว คงจะได้ปัจจัยไม่มากอย่างเช่นนี้
การเททองหล่อพระพุทธนิมิตพิชิตมารได้หล่อที่ลานวัดละหารไร่ที่เดียวกับการหล่อพระกริ่งชินบัญชรเมื่อ ๓๕ ปีก่อน เพราะอยู่ในระยะเวลาที่มรสุมห่าฝนที่ตกทั่วจังหวัดระยอง เว้นแต่ที่วัดที่ไม่ตกแต่เมฆหมอกปกคลุมจนตั้งเต็นซ์รับแขกและบริเวณกองวัตถุมงคล เมื่อได้ฤกษ์เททองฝนโปรายมาเบาๆ ทุกคนคิดว่า ฝนตกแน่ๆคงหนีไม่พ้น นอกจากฝนไม่ตกแล้วท้องฟ้าเวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น.เศษก็เปิด ถ้าเงยหน้าดูก็จะเห็นพระอาทิตย์ทรงกรด อากาศเย็นสบายไม่ร้อนอบอ้าว งานก็เป็นไปอย่างเรียบร้อย ปลอดโปร่งสะดวกทุกอย่าง จนคณะของมูลนิธิหลวงปู่ทิมฯเก็บของจะกลับกรุงเทพฯ เพียงคลุมผ้าใบรถเสร็จ ฝนก็ตกลงมาอย่างกับเทน้ำเทท่า
หลวงปู่ทิม อิสริโก พิธีเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชร ปี ๑๗
สำหรับการปลุกเสก ครั้งนั้นหลวงปู่ทิม ท่านปรกปลุกเสกเดี่ยวโดดๆ ครั้งนี้ผมก็ต้องการให้ปลุกเสกเดี่ยวองค์เดียวตามแบบฉบับของหหลวงปู่ทิม ชาติเสือต้องหาเนื้อกินเอง โดยผมนิมนต์พระอาจารย์บัว วัดศรีบุรพาราม จังหวัดตราด มานั่งปรกปลุกเสกเดี่ยวโดดๆ แต่อาจารย์เชย เจ้าอาวาสวัดละหารไร่ท่านท้วงว่า พระเกจิบ้านเราลูกศิษย์หลวงพ่อ (หมายถึงหลวงปู่ทิม) ก็ยังมีอยู่ ต้องนิมนต์ท่านมาร่วมด้วย เมื่อเททองหล่อพระใหญ่เสร็จแล้วก็มอบให้เป็นเรื่องของชินพร
เมื่อเททองหล่อพระพุทธนิมิตพิชิตมารเสร็จแล้ว หลวงพ่อบัว หรือพระอาจารย์บัว ของฮิใหญ่ ตราด ท่านได้เมตตานั่งปรกปลุกเสกเดี่ยวประจำทิศบูรพา หรือตะวันออก ต่อหน้ากองวัตถุมงคลที่คณะผมจัดเตรียมไว้หน้าท่าน และได้อาราธนาให้ท่านปลุกเสกต่อไปเพียงองค์เดียว เมื่อพระเกจิศิษย์หลวงปู่ทิมกลับแล้ว หลังจากหล่อพระประธานเสร็จ ท่านรับปากยินดีทำให้เพราะท่านเคารพนับถือหลวงปู่ทิม เป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่ง แม้แต่พระกริ่งมงคลมหาเศรษฐีท่านก็ยังใช้พระกริ่งชินบัญชรมาเป็นแบบ ซึ่งกำลังดังและเป็นที่แสวงหากันอยู่ ผู้ที่ผิดหลังในการจองต้องซื้อหากันในราคาสูงกว่าเดิมถึง ๓ เท่าตัว พระกริ่งมงคลมหาเศรษฐีของท่านอาจารย์บัว เนื้อทองคำที่มีถึง ๔๑ องค์ มีผู้เช่าบูชาไปแล้วถึงองค์ละแสนกว่าบาทขึ้นไป
พระครูสังฆกิจบูรพา พระอาจารย์บัว วัดศรีบูรพาราม
หลวงพ่อบัว ซึ่งน่าจะเรียกท่านว่า หลวงปู่บัว เพราะท่านจะมีอายุย่างเข้า ๘๔ ปีหรือ ๗ รอบในปี ๒๕๕๓ ท่านนั่งสงบนิ่งไม่ไหวติงหน้ากองวัตถุมงคลทั้งหมดที่ผมสร้าง ผู้คนต่างรุมล้อมรอบตัวท่านอย่างแน่นขนัด อีกทั้งโฆษกเมาน้ำลายก็ส่งเสียงรบกวนอยู่ใกล้ๆท่านๆก็นั่งอย่างสงบปลุกเสกเดี่ยวองค์เดียวโดดๆ คุณเนาว์ นรญาณ นักเขียนหนุ่มผู้สนใจเรื่องอภิญญาได้เชิญ เด็กหนุ่มนักปฏิบัติธรรมศิษย์ก้นกุฎิหลวงพ่อแนม วัดเขาหนอ ซึ่งคุณเนาว์ เชื่อว่ามีหูทิพย์ ตาทิพย์ ได้ยินได้เห็นและรู้อะไรที่ตาเนื้อธรรมดาไม่อาจเห็นได้ โดยคุณเนาว์ได้พิสูจน์พ่อหนุ่มคนนี้มาหลายครั้งหลายหนจนเชื่ออย่างสนิทใจ ว่าเห็นจริงและรู้จริง หลังจากหลวงปู่บัว เจิมลังเหล็กลังเดียวกับที่เอาพระกริ่งชินบัญชรใส่ให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกเมื่อ ๓๕ ปีที่แล้ว คุณเนาว์มาพูดกับผมว่าแปลก! พิธีนี้นอกจากครูบาอาจารย์ เทพพรหมฝ่ายไทยแล้วยังมีเทพพรหมฝ่ายจีนมากันมืดฟ้ามัวดิน ซึ่งไม่เคยมีพิธีใดทำได้มาก่อน โดยเฉพาะบูเช็กเทียนฮ่องเต้ ซึ่งเป็นเทพองค์ใหญ่ฝ่ายจีนได้มากราบหลวงปู่บัวด้วย เพราะหลวงปู่บัวท่านไม่ใช่พระสงฆ์ธรรมดา ท่านใสเป็นแก้วไปหมดทั้งตัวแล้ว คงจะหมายถึงท่านหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงแล้ว คุณเนาว์ยังถามผมว่าทำไมผมจึงอัญเชิญได้ถึงขนาดฝ่ายมหายานต้องลงมาร่วมพิธีด้วย คงเป็นเพราะความตั้งใจของผมนอกจากผมจะเอาพระยันต์จีนสมัยโบราณซึ่งมีบุรุษนิรนามส่งมาให้ใส่เตาหลอมลงไปด้วยแล้ว ผมยังเผาเครื่องบูชา แก้วแหวน เงินทอง ลงไปในเตาสุมไฟทั้ง ๓ เตาด้วยและให้สิงโตคณะศิษย์หลวงปู่ทิม เชิดสิงโตถวาย เทพฝ่ายมหายานจึงมาร่วมด้วย
จากตาในที่รู้เห็นจนบอกว่า หลวงปู่บัว ใสเป็นแก้วหมดทั้งตัวแล้ว พวกเขาจึงมาตามผมไปสร้างพระกริ่งของท่านซึ่งสร้างขึ้นครั้งแรก-ครั้งเดียว และก็เป็นครั้งสุดท้าย ผมเลยบอกไปว่า หลวงปู่บัวท่านให้ศิษย์มาขอให้ผมช่วยเปลี่ยนฐานบัว เป็นบัวเล็บช้าง แต่ให้คงพระพักตรชินบัญชรไว้ด้วย ทั้งท่านเจาะจงให้ผมเป็นคนสร้างพร้อมทั้งเมตตาตั้งชื่อพระชุดนี้ว่า มงคลมหาเศรษฐี โดยเททองติดต่อกัน ๒ วัน ๓ คืน พระทุกองค์ทุกเนื้อเททองหล่อกันในวัดศรีบุรพาราม ท่ามกลางฝนตกหนักทั่วภาคตะวันออก เว้นแต่ที่วัดเท่านั้นที่ไม่ตก เททองหล่อกันในวันที่ ๑๐-๑๑-๑๒ เมษายน ๒๕๕๒ ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดครบ ๘๓ ปีเต็มของท่าน แต่พระของท่านก็จองกันหมดตั้งแต่ ๕ มกราคม ๒๕๕๒ หลังจากเปิดให้สั่งจองได้ไม่กี่วัน ผู้ที่ลังเลไม่จองก็ต้องซื้อใบจองแพงกว่าเดิม ๒-๓ เท่า พระกริ่ง, พระชัยวัฒน์, พระสังกัจจายน์ และพระปิดตาปุ้มปุ้ย กรรมการวัดทำตัวเลข, โค๊ต และอุดผงปิดก้นเองทั้งหมดภายในวัด เชื่อได้แน่นอนว่า ไม่มีเสริม ไม่มีเกิน และพระชุดนี้ต้องดังระเบิดแน่ๆ เหมือนที่หลวปู่ทิมเคยพูดไว้ พร เขาจะทำพระกริ่งดังขึ้นมาอีกครั้ง และก็น่าจะเป็นครั้งนี้
การสร้างพระชุดพุทธนิมิตพิชิตมารนี้ ผมไม่ได้คิดจะสร้างพระขุนแผนพรายกุมารพิมพ์ใหญ่ขึ้น เพราะพระขุนแผนรุ่นบรมครู ๓๒ และรุ่นแต้เม้งพิมพ์ใหญ่ยังเหลืออยู่ ที่หมดก็มีแต่ขุนแผนรุ่นสากหักที่สร้างแจกกฐินที่วัดพงเสลี่ยง จังหวัดสุโขทัยเท่านั้น งานนี้ผมจึงเว้นการสร้างพระขุนแผนพรายกุมารพิมพ์ใหญ่ คงมีแต่พระขุนแผนพุทธนิมิตพิชิตมารพิมพ์เล็กหลังยันต์จินดามณีเพิ่มหัวใจพระฉิมและคาถาพุทธนิมิตที่หลวงปู่ทิมท่านใช้
จนเช้ามืดวันอังคารที่ ๑๕ กันยายนที่ผ่านมา ผมก็ตัดสินใจจะสร้างพรายกุมารในรูปแหวนขึ้นมา เรียกว่า แหวนพราย เพื่อให้ทันเข้าพิธี ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ แต่โรงปั๊มบอกทำให้ไม่ทัน ผมก็เลยนึกถึงหุ่นเทียนที่ถอดแบบจากพระกริ่งชินบัญชรเดิมแต่ย่อขนาดให้เล็กลงอีก ๓๐% ถ้าเข้ากระบอกเททองได้ก็น่าจะทันพิธี ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ และโรงหล่อขุน-ชิน ก็ทำให้ทัน เททองหล่อเสร็จนำเข้าพิธีปลุกเสกพระกริ่งปรโม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรีเมื่อวันอังคารที่ ๒๙ กันยายนได้ทันพอดี เสร็จพิธีแล้วก็เอามาเจาะก้นอุดผงให้เหมือนพระกริ่งชินบัญชรก้นอุดผงพรายกุมาร ซึ่งราคาล่าสุดเช่าบูชาองค์หมายเลข ๕๖ ไปถึง ๖๐๐,๐๐๐ บาท และองค์หมายเลข ๙ เจ้าของตั้งไว้ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท มีผู้ให้แล้ว ๙๐๐,๐๐๐ บาทเจ้าของยังไม่ตกลง และพระกริ่งพรายบัวผุดที่สร้างขึ้นมาครั้งนี้ราคาเพียงองค์ละ ๑,๐๐๐ บาท พุทธคุณและพลังพรายที่แอบหนุนอยู่ก็ไม่แพ้กัน แต่ราคาต่างกันราวฟ้า-ดิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ หรือ ๖๐๐,๐๐๐ เทียบกับเพียง ๑,๐๐๐ บาท ท่านไม่เก็บไว้บ้างหรือ? อย่าให้เหมือนพระกริ่งชินบัญชรที่หลวงปู่ทิมเคยกล่าวเป็นอมตะวลีไว้ว่า อีกหน่อยพลิกแผ่นดิน หาก็ไม่เจอ
พระกริ่งพรายบัวผุด วัตถุอาถรรพ์ด้านในสุดนอกจากเส้นผมพรายเด็กอ่อนที่ผสมสีผึ้งชุดสุดยอดของหลวงปู่ทิม เพื่อให้ผมพรายเกาะติดกับสีผึ้งไม่ปลิวหาย ที่หลวงปู่ทิมท่านทำเองและมอบให้ผมกับคุณเพียรวิทย์ เพียง ๒ คน แล้วยังเอาทรายในกระบะที่รองรับน้ำเมื่อเวลาหลวงปู่ทิมท่านล้างหน้า นานไม่รู้กี่สิบปีและกระบะใส่ทรายนี้เอง ผงพลีขอทรายและดินจากแม่พระธรณีมากำมือหนึ่ง เพื่อผสมดินทรายในกระถางธูปเอามาผสมกับผมพรายบรรจุไว้ด้านในสุด แล้วปิดทับอีกชั้นหนึ่งด้วยผงพรายกุมารผสมว่าน๑๐๘ ที่ผบ.เรือนจำอุดรฯทำให้ แล้วยังมีดินอาถรรพ์ร้อยหมื่นสังขารที่ชมรมแพทย์จังหวัดสงขลาให้มา ตลอดจนดินอาถรรพ์จากถ้ำขุนแผนที่เมืองกาญจน์ และผงดินเก่าตรงที่ขุนแผนย่างกุมารผสมลงไปด้วยแล้วปิดแผ่นทองคำเปลวที่มีผู้มาแก้บนกับรูปหล่อหลวงปู่ทิมที่มูลนิธิฯ (ปิดที่ก้นบ้างก็มี ไม่ปิดทองก็มี) พร้อมนำโค๊ตกดไว้ในองค์ที่ผงยังไม่แข็ง แต่ในบางองค์ที่ผงแข็งแล้วก็ไม่ได้กดโค๊ตไว้ สร้างทั้งหมด ๒๒๒๒ องค์ เลข ๒๒ เป็นเลขอาถรรพ์ พระเครื่องสำคัญๆของหลวงปู่ทิมต้องสำเร็จด้วยเลข ๒๒ ซึ่งยังเป็นปริศนาอยู่ กริ่งพรายบัวผุดนำออกให้บูชาองค์ละ ๑,๐๐๐ บาทพร้อมมอบใบอนุโมทนาบัตรว่า ได้มอบพระกริ่งพรายบัวผุด หมายเลข ..... ให้เป็นที่ระลึกในการทำบุญสมทบทุนเข้ามูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก
ท่านที่ผิดหวังจาการบูชาพระกริ่งมงคลมหาเศรษฐีของหลวงปู่บัว จะบูชาพระกริ่งพรายบัวผุด ไปไว้ใช้แทนกันก็ได้ นอกจากหลวงปู่บัวจะเสกเดี่ยวแล้ว ผมยังบรรจุสุดยอดของท่านคือ น้ำมันผสมลงไปในผงพรายที่ใช้อุดก้นด้วย เมื่อท่านปลุกเสกองค์เดียวแล้วท่านยังเจิมฝาบนหีบเหล็กที่บรรจุพระกริ่งพรายบัวผุดให้เป็นพิเศษอีกด้วย เหมือนท่านเห็นว่าภายในมีอะไร และหีบเหล็กใบเดียวกันนี้ที่ใส่พระกริ่งชินบัญชรให้หลวงปู่ทิม ปลุกเสกเมื่อ ๓๕ ปีที่แล้ว ... ไม่ขลังก็ไม่รู้จะว่าอะไรแล้ว!!!
พระกริ่งพรายบัวผุดทั้ง ๒,๒๒๒ องค์ เสกเดี่ยวโดดๆโดย หลวงปู่บัว หรือพระครูสังฆกิจบูรพา วัดเกาะตะเคียน จังหวัดตราด พระอริยสงฆ์ที่ดับกิเลส จนใสเป็นแก้วไปทั่วทั้งองค์แล้ว เมื่อ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ ณ มณฑลพิธี วัดละหารไร่ ระยอง
ในงานวันคล้ายวันมรณภาพครบ ๓๔ ปีของหลวงปู่ทิมครั้งนี้ บรรดาเซียนทั้งน้อยใหญ่ต่างมาชุมนุมแลกเปลี่ยนซื้อขายกันเป็นแสนเป็นล้าน แต่มี ฟู-ผมยาว เพียงคนเดียวที่ออกพระขุนแผนพรายกุมารพิมพ์เล็กไป ๑๔๐,๐๐๐ บาท แล้วช่วยกฐินสามัคคีผ่านผมมา ๕,๐๐๐ บาท อนุโมทนาและขอให้ขายดียิ่งขึ้นไป เพราะเรื่องแบบนี้หลวงปู่ท่านไม่ว่า ... เป็นเรื่องของโลก
แปลกที่สุดในงานนี้ คือ การนำชื่อเจ้าเพลงลูกชายของพัฒนา บุญอนุกูล เอาลูกอม ๓ ลูกและปลัดตอกโค๊ตเลข ๓ ฝากเซียนพระมาให้ผมพร้อมใส่กล่องของขวัญ เมื่อเปิดดูกลายเป็นของเก๊ทั้งหมด เพราะลูกอมผงพรายกุมารของแท้ไม่มีการตอกโค๊ตเลข๓ ลงในเนื้อลูกอม (เว้นแต่ลูกอมเทียนชัยมัทรี ที่มีวิธีการสร้างอย่างพิสดาร และมีจำนวนน้อย ซึ่งมีบางลูกในส่วนของคุณเอี๊ย-พัฒนา บุญอนุกูล ที่ได้ปั๊มโค๊ตเลข๓ ไว้ในเนื้อลูกอม เพราะเนื้อลูกอมเทียนมัทรีมีความอ่อนนุ่ม แต่ก็มีวิธีการดูแยกแยะ ... ดูภาพประกอบ)
ส่วนปลัด ๒ ตัวที่ใส่มาด้วยในกล่องก็ผิดทั้งเนื้อไม้ และจาร แต่โค๊ตทำได้ใกล้เคียง ทราบว่าโดนกันไปทั่วถ้วนทั้งเซียนใหญ่เซียนเล็ก ในเวปไซต์ก็เผยแพร่ขายกันอย่างไม่อายฟ้าอายดิน
วัตถุมงคลที่นำเข้าสุดยอดพิธี ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ มีดังนี้
๑. พระพุทธนิมิตพิชิตมาร ขนาด ๕ นิ้ว สร้าง ๒๐๐ องค์
๒. พระพุทธนิมิตพิชิตมาร ลอยองค์ขนาดห้อยคอ เนื้อนวะสร้าง ๔๙๙ องค์,
เนื้อทองแดง สร้าง ๙๙๙ องค์ ทุกองค์เจาะก้นอุดผงดั่งเดิมของหลวงปู่ทิม
๓. เหรียญเสมาพุทธนิมิตพิชิตมาร หลังรูปหลวงปู่ทิม ล้อมยันต์สาระพันกัน
๓.๑ เนื้อทองคำ สร้างตามจอง (ปิดจองแล้ว ... รวมเหรียญทองคำทั้งสิ้นได้ ๓๐ เหรียญ ) หมด
๓.๒ เนื้อเงิน สร้าง ๓๐๔ เหรียญ เฉพาะกรรมการ (ไม่มีให้บูชา)
๓.๓ เนื้อนวะโลหะ สร้างประมาณ ๑,๑๙๙ เหรียญ(เหลือเฉพาะที่ศูนย์อินทามระ๑ - ที่มูลนิธิฯหมดแล้ว)
๓.๔ เนื้อทองแดง สร้าง ๘,๔๐๐ เหรียญ
www.mahalap34.com |