(0)
พระผง ว่านดำ "หลวงพ่อเจิม" วัดปรกธรรมาราม รุ่นสองหมอ ปู่ฤาษีชีวก - ปู่ฤาษีบดยา คนที่มีกรรมฆ่าสัตว์สุขภาพไม่ดี 3วันดี 4วันไข้ ต้องบูชา ลดวิบากกรรมต่อเนื่อง








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระผง ว่านดำ "หลวงพ่อเจิม" วัดปรกธรรมาราม รุ่นสองหมอ ปู่ฤาษีชีวก - ปู่ฤาษีบดยา คนที่มีกรรมฆ่าสัตว์สุขภาพไม่ดี 3วันดี 4วันไข้ ต้องบูชา ลดวิบากกรรมต่อเนื่อง
รายละเอียดพระผง ว่านดำ "หลวงพ่อเจิม" วัดปรกธรรมาราม รุ่นสองหมอ ปู่ฤาษีชีวก - ปู่ฤาษีบดยา คนที่มีกรรมฆ่าสัตว์สุขภาพไม่ดี 3วันดี 4วันไข้ ต้องบูชา ลดวิบากกรรมต่อเนื่อง

" พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง "หลวงพ่อเจิม" วัดปรกธรรมาราม (รวยไม่เลิก) อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ศึกษาร่ำเรียนอักขระเวทมนตร์ คาถาจากครูบาอาจารย์ เช่น หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี, ครูบาธรรมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน และพระเกจิอาจารย์อื่นๆ อีกหลายรูป วัตถุมงคลที่โดดเด่นของท่าน ท้าวเวสสุวัณหลังพระสยามเทวาธิราช ตะกรุดโทนหนังหน้าผากเสือ เสือเนื้อสำริด..." หลวงพ่อเจิม จะทำพิธีรดและอาบน้ำมนต์ ช้างผสมโขลง ช่วงบ่าย ของวันเสาร์ที่ 6 มี.ค. 2553 สำหรับท่านที่จะไปรด-อาบน้ำมนต์ ให้เตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยนด้วย เพื่อความเป็นสิริมงคล มีความเชื่อกันว่า น้ำมนต์ของท่านขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ สยบสิ่งอัปมงคล เพิ่มพูนโชคลาภ

ประวัติปู่ฤาษีชีวก โกมารภัจจ์ ครูของวงการแพทย์แผนไทย

ชีวก ชื่อหมอใหญ่ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาและมีชื่อเสียงมากในครั้งพุทธกาล เป็นแพทย์ประจำพระองค์ของพระเจ้าพิมพิสาร และพระเจ้าพิมพิสารได้ถวายให้เป็นแพทย์ประจำพระองค์ของพระพุทธเจ้าด้วย,

เรียกชื่อเต็มว่า ชีวกโกมารภัจจ์ หมอชีวกเกิดที่เมืองราชคฤห์แคว้นมคธ เป็นบุตรของนางคณิกา (หญิง งามเมือง) ชื่อว่าสาลวดี แต่ไม่รู้จัก มารดาบิดาของตน เพราะเมื่อนางสาลวดีมีครรภ์ เกรงค่าตัวจะตกจึงเก็บตัวอยู่ ครั้นคลอดแล้วก็ให้คนรับใช้เอาทารก ไปทิ้งที่กองขยะ แต่พอดีเมื่อถึงเวลาเช้าตรู่ เจ้าชายอภัย โอรสองค์หนึ่งของพระเจ้าพิมพิสาร จะไปเข้าเฝ้า เสด็จผ่านไป เห็นการุมล้อมทารกอยู่ เมื่อทรงทราบว่าเป็นทารกและยังมีชีวิต อยู่ จึงได้โปรดให้นำไปให้นางนมเลี้ยงไว้ในวัง ใน ขณะที่ทรงทราบว่าเป็นทารกเจ้าชายอภัยได้ตรัสถามว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่ (หรือยังเป็นอยู่) หรือไม่ และทรงได้รับคำตอบ ว่ายังมีชีวิตอยู่ (ชีวติ = ยังเป็นอยู่ หรือยังมีชีวิตอยู่) ทารกนั้นจึงได้ชื่อว่า ชีวก (ผู้ยังเป็น) และเพราะเหตุที่เป็นผู้อันเจ้าชายเลี้ยงจึงได้มีสร้อยนามว่า โกมารภัจจ์ (ผู้อันพระราชกุมารเลี้ยง)

ครั้นชีวกเจริญวัยขึ้น พอจะทราบว่าตนเป็นเด็กกำพร้า ก็คิดแสวงหาศิลปวิทยาไว้เลี้ยงตัว จึงได้เดินทางไป ศึกษาวิชาแพทย์กับอาจารย์แพทย์ทิศาปาโมกข์ ที่เมืองตักสิลา ศึกษาอยู่ ๗ ปี อยากทราบว่าเมื่อใดจะเรียนจบ อาจารย์ให้ ถือเสียมไปตรวจดูทั่วบริเวณ ๑ โยชน์รอบเมืองตักสิลา เพื่อหาสิ่งที่ไม่ใช่ตัวยา ชีวกหาไม่พบ กลับมาบอกอาจารย์ ๆ ว่า สำเร็จการศึกษามีวิชาพอเลี้ยงชีพแล้ว และมอบเสบียงเดินทางให้เล็กน้อย ชีวกเดินทางกลับยังพระนครราชคฤห์เมื่อ เสบียงหมดในระหว่างทาง ได้แวะหาเสบียงที่เมือง สาเกต โดยไปอาสารักษาภรรยาเศรษฐีเมืองนั้นซึ่งเป็นโรคปวด ศีรษะมา ๗ ปี ไม่มีใครรักษาหาย ภรรยาเศรษฐีหายโรคแล้ว ให้รางวัลมากมาย หมอชีวกได้เงินมา ๑๖,๐๐๐ กษาปณ์ พร้อมด้วยทาสทาสีและรถม้าเดินทางกลับถึงพระนครราชคฤห์ นำเงินและของรางวัลทั้งหมดไปถวายเจ้าชายอภัยเป็น ค่าปฏิการะคุณที่ได้ทรงเลี้ยงตนมา เจ้าชายอภัยโปรดให้หมอชีวกเก็บรางวัลนั้นไว้เป็นของตนเอง ไม่ทรงรับเอา และ โปรดให้หมอชีวกสร้างบ้านอยู่ในวังของพระองค์ ต่อมาไม่นานเจ้าชายอภัยนำหมอชีวกไปรักษาโรคริดสีดวงงอกแด่ พระเจ้าพิมพิสาร จอมชนแห่งมคธทรงหายประชวรแล้ว จะพระราชทานเครื่องประดับของสตรีชาววัง ๕๐๐ นางให้ เป็นรางวัล หมอชีวกไม่รับ ขอให้ทรงถือว่าเป็นหน้าที่ของตนเท่านั้น พระเจ้าพิมพิสารจึงโปรดให้หมอชีวกเป็นแพทย์ ประจำพระองค์ ประจำฝ่ายในทั้งหมด และประจำพระภิกษุสงฆ์อันมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข หมอชีวกได้รักษาโรค ร้ายสำคัญหลายครั้ง เช่น

ผ่าตัดรักษาโรคในสมองของเศรษฐีเมืองราชคฤห์ ผ่าตัดเนื้องอกในลำไส้ของบุตรเศรษฐี เมืองพาราณสี รักษาโรคผอมเหลืองแด่พระเจ้าจัณฑปัชโชตแห่งกรุงอุชเชนี และถวายการรักษาแด่พระพุทธเจ้าใน คราวที่พระบาทห้อพระโลหิต เนื่องจากเศษหินจากก้อนศิลาที่พระเทวทัตกลิ้งลงมาจากภูเขาเพื่อหมายปลงพระชนม์ชีพ หมอชีวกได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน และด้วยศรัทธาในพระพุทธเจ้า ปรารถนาจะไปเฝ้าวันละ ๒-๓ ครั้ง เห็นว่าพระเวฬุวันไกลเกินไปจึงสร้าง วัดถวายในอัมพวันคือสวนมะม่วงของตนเรียกกันว่า ชีวกัมพวัน (อัมพวัน ของหมอชีวก) เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูเริ่มน้อมพระทัยมาทางศาสนา หมอชีวกก็เป็นผู้แนะนำให้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

ด้วยเหตุที่หมอชีวกเป็นแพทย์ประจำคณะสงฆ์และเป็นผู้มีศรัทธาเอาใจใส่เกื้อกูลพระสงฆ์ มาก จึงเป็นเหตุให้ มีคนมาบวชเพื่ออาศัยวัดเป็นที่รักษา ตัวจำนวนมาก จนหมอชีวกต้องทูลเสนอพระพุทธเจ้าให้ทรงบัญญัติข้อ ห้ามมิ ให้รับบวชคนเจ็บป่วย ด้วยโรคบางชนิด นอกจากนั้นหมอชีวกได้กราบทูลเสนอให้ทรงอนุญาตที่จงกรมและเรือนไฟ เพื่อเป็นที่บริหารกายช่วยรักษาสุขภาพของภิกษุทั้งหลาย หมอ ชีวกได้รับพระดำรัสยกย่องเป็นเอตทัคคะในบรรดา อุบาสกผู้เลื่อมใสในบุคคล

ปู่ฤาษีบดยา ผู้ใดมีไว้บูชา โรคภัยไข้เจ็บจักหามีไม่ ขออำนาจแรงครูจงประสิทธิ ด้วยอำนาจของ สองพระปู่ฤาษี จะช่วยให้ ผู้ที่ได้บูชา
มีร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีขึ้น จากวิบากกรรม มาตัดรอน จาก สมัยหนุ่มๆ หรือ เด็ก ๆ ฆ่าสัตว์ ยิงนก ตกปลา ตีหมา ฆ่าแมว กินกบ เขียด งู กินปลาไหล สัตว์บางประเภทเกิดมาชดใช้กรรม ไม่ใช้เพื่อไว้กิน มนุษย์นั้นกินได้ทุกอย่าง สรรหามากิน จึงก่อให้เกิดวิบากกรรมต่อเนื่อง ส่งผลให้การงานติดขัด ทำอะไรก็ ไม่ประสพผลสำเร็จ ขาดคนอุปถัม ยิ่งถ้าไม่ได้ทำบุญ แล้ว ชีวิตจะตกต่ำมาก หลายคนหาทางออกไม่ได้ ก็ ฆ่าตัวตาย บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว ก็มีมาแล้ว เพราะขาดแรงบุญ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หนุนนำ
ราคาเปิดประมูล179 บาท
ราคาปัจจุบัน199 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 13 ม.ค. 2556 - 16:00:59 น.
วันปิดประมูล - 14 ม.ค. 2556 - 16:41:53 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลsitmatrix (1.1K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     199 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    jindacam (751)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1