| ชื่อพระเครื่อง | เหรียญหลวงพ่อสนธิ์ วัดเขาคอก จ.นครนายก ปี๒๑ |
| รายละเอียด | เมื่อช่วงประมาณปลายปี พ.ศ.2553 ได้มีข่าวตามหนังสือพิมพ์ฉบับรายวัน เกือบทุกฉบับ ถึงเรื่องความปาฏิหาริย์ ที่เกิดขึ้น กับพระเกจิชื่อดังแห่ง อ.บ้านนา จ.นครนายก “หลวงปู่สนธิ์ สุมโน” อายุ 79 ปี อดีตเจ้าอาวาส วัดเขาตะคอก ต.ศรีกะอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก พระเกจิเพื่อนสหธรรมมิกกับ “หลวงพ่อลี” วัดอโศการาม สมุทรปราการ ซึ่งได้มรณภาพไปเมื่อ วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 ซึ่งเป็นเวลานานกว่า 20 ปี สภาพสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย ตามธรรมชาติ แต่ที่แปลกกว่านั้น สังขารของ “หลวงปู่สนธิ์” ยังมีสภาพที่แข็งประดุจหิน เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป ทำให้ประชาชนทั้งไกลและไกลต่างเดินทางบูชากราบไหว้เพื่อขอพรเพื่อเป็นสริมงคล เพราะชาวบ้านต่างมีความศรัทธาเชื่อว่าท่านเป็น “อริยะสงฆ์”
พระครูวิบูลวุฒิกิจ (พระครูณรงค์) เจ้าอาวาสวัดเขาคอก และ เจ้าคณะตำบลบ้านพร้าวเขต 1 ได้เล่าประวัติของหลวงพ่อสนธิ์ ว่า ท่านเป็นพระสายนักปฎิบัติ สหธรรมมิก “หลวงพ่อลี”วัดอโศการาม ท่านได้ติดตามหลวงพ่อลีเดินธุดงค์มาจากอีสาน จนมาถึงบริเวณเขาคอก (วัดเขาคอกในปัจจุบัน) ท่านได้ปักกรดและและเจริญภาวนา ซึ่งท่านได้เล่าว่าในคืนแรกได้เห็นเสือตัวโตกว่ารถมาเดินวนเวียนอยู่รอบกรด ที่ปักอยู่ ก็ตกใจมาก และหลวงพ่อลีได้บอกว่าอย่างตกใจ เขามาขอบุญให้ หลวง ปู่สนธิ์ ตั้งจิตภาวนาแผ่เมตตาให้เขาก่อนเสือตัวนั้นจะหายไป
ซึ่งแน่นอนในสมัยนั้นบริเวณเขาคอก แห่งนี้เป็นป่าดงดิบ มีไม้ใหญ่ขึ้นรกทึบ ไม่มีเส้นทางคมนาคม จะต้องเดินเท้า เพียงอย่างเดียวซึ่งก็ลำบาก หลังจากปักกรดได้สามคืน หลวงพ่อลีก็บอกหลวงสนธิ์ว่าจะธุดงค์ไปทางเมืองปากน้ำ แต่หลวงพ่อสนธิ์ท่านบอกว่าท่านชอบสถานที่แห่งนี้มาก เหมาะแก่การใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ท่านจึงนิมนต์ให้หลวงพ่อลี เดินธุดงค์ล่องลงไปยังเมืองปากน้ำ และท่านได้จำพรรษาปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดเขาคอกตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
หลังจากชาวบ้านที่ออกมาหาของป่าได้มาพบ หลวงปู่สนธิ์ ก็ เกิดความสงสัยว่า “เป็นพระมาอยู่กลางป่าดงดิบ ได้อย่างไร” ไม่ถูกสัตว์ป่าทำร้ายและที่สำคัญ “ท่านฉันอาหารจากไหน” สร้างความประหลาดใจ จนทำเรื่องที่พบเห็น “หลวงปู่สนธิ์” มาบอกต่อให้กับคนในหมู่บ้านถึงความอัศจรรย์ ของพระรูปนี้ และนิมนต์ท่านไปรับบาตรในหมู่บ้านตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พระครูณรงค์ เล่าต่อว่าในสมัยนั้นยังไม่มีถาวรวัตถุหลวงพ่อท่านจะจำวัดอยู่ถ้ำพุทธฉาย ซึ่งชาวบ้านในละแวกนี้เชื่อว่า เป็นถ้ำที่ทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลก ได้นำทรัพย์สินและอาวุธเข้ามาซุกซ่อนเอาไว้ หลังแพ้สงคราม และบนเขาแห่งนี้ยังมี “ภาพพุทธฉาย” ที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง หลวงพ่อท่านจำพรรษาอยู่ในถ้ำมาโดยตลอด จนชาวบ้านศรัทธาได้จัดสร้างถาวรวัตถุขึ้นมา
พระครูณรงค์กล่าวอีกว่า หลังจากที่หลวงพ่อได้ละสังขารลง ก็เกิดปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อปากทางเข้าถ้ำได้ถูกปิดจากหินที่ล่นมาปิดปากถ้าได้อย่างเหมาะเจาะและ ยังมีหินที่ย้อยลงมาปิดปากถ้ำได้อย่างอัศจรรย์ ซึ่งเมื่อหลวงพ่อมรณภาพแล้ว นักล่าสมบัติได้มีความพยามที่จะเขาไปหาสมบัติในถ้ำแห่งนี้ บางรายก็สามารถ เอาออกไปได้แต่ใครนำไปครอบครองก็มักจะมีอันเป็นไปทุกรายจนต้องเอาสมบัติกลับ มาคืนที่เก่า และที่เป็นเหตุที่อัศจรรย์อีกอย่างนั่นคือเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2547 ได้มีงูเห่าขนาดใหญ่ได้เลื้อยขึ้นมาบนศาลาการเปรียญ สร้างความตกใจให้กับญาติโยมและพระเณรเป็นอย่างมาก เพราะปกติและงูเห่าจะมีสัญชาติญาณที่ดุร้ายมาก มีความไวสูง แม้กระทั้งม้ายังหนีไม่รอดเมื่อเจองูเห่า ตาเป็นเรื่องแปลกที่ว่า งูเห่า ตัวนี้มีท่าทางที่งบนิ่ง และเมื่อบอกว่าอย่าทำร้ายคนก็จะไม่ยอมขยับตัวไปไหน และยังให้คนเข้าไปถ่ายรูปในระยะประชิด ก่อนที่จนเลื้อยหายตัวไป
และในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2552 ที่ผ่านมา วันต่างกัน เดือนเดียวกัน งูเห่าตัวนี้ได้เลื้อยมาที่ขอบกระจกของกุฏิของเจ้าอาวาส ทำให้พระครูณรงค์ต้องหันไปดูเพราะได้ยินเสียงที่ผิดสังเกตจนให้เณรไปดูก็พบ งูเห่า ตัวเดิมอีก ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเชื่อกันว่า น่าจะเป็น “หลวงพ่อสนธิ์” ที่อยู่ในร่างของงู จะมาเยี่ยมเยียน ซึ่งตรงกับคำพูดของท่านก่อนละสังขารว่า “ท่านยังไม่ตาย และเพียงละสังขารเพียงเท่านั้น เพราะสังขารเสื่อมไปแล้ว เราจะตายเมื่ออายุ 120 ปี”
ซึ่งขณะที่ท่านละสังขาร ในปี่ 2532 ท่านมีอายุ 97 ปี หากนับถึงปีนี้ก็ได้เพียง 118 ปี ซึ่งก็ทำให้เชื่อว่า “วิญญาณหลวง ปู่สนธิ์อาจจะอยู่ในร่างของงูเห่า” ที่คอยมาดูแลสมบัติของชาติ และดูแลวัดเขาคอกแห่งนี้ |
| ราคาเปิดประมูล | 50 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 150 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 21 ม.ค. 2556 - 15:28:45 น. |
| วันปิดประมูล | - 29 ม.ค. 2556 - 21:52:25 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | สุขสงบ (8.1K)   
|
