| รายละเอียด | เหรียญสุครีพหักฉัตร
- ตัวอย่างเหรียญยังยิงไม่ออก เรื่องจริง เหรียญอาร์มหลวงพ่อสุพจน์ หลังยันต์สุครีพหักฉัตรช่างแกะเหรียญเป็นคนได้ ใจกล้า อยากลองดูว่าพระภาคกลางจะแน่แค่ไหน สู้พระใต้ที่เก่งคงกระพัน มหาอุตม์ได้หรือไม่ ประกอบกับวันปีใหม่ด้วย ดื่มไปมาก หรือห่ามก็ไม่รู้ เอา .38 ทดลองยิงเหรียญตัวอย่างเนื้อตะกั่ว ที่หลวงพ่อยังไม่ได้เสก ยิงแบบเผาขน (ย้ำว่ายังไม่เสก เพราะเป็นเหรียญตัวอย่าง) ผลคือยิงไป 3 นัด ไม่โดน นัดที่สี่ ปืนด้าน ช่างก็ตกใจ ไม่กล้าบอกศิษย์หลวงพ่อ วันเอาเหรียญตัวอย่างไปให้หลวงพ่อดูที่วัดท่านบ่นกับศิษย์ที่ไปเอาเหรียญว่า "ไอ้ห่า" วันนั้น ช่างมันเมา มันจ่อยิงเหรียญกูซะใกล้เชียว ดีนะกูหลบทัน มึงไปบอกให้มันจุดธูป ขอขมากูด้วยนะ ไม่งั้นมันจะอยู่ไม่ได้" ศิษย์หลวงพ่อกลับมาบอกช่าง ตามที่หลวงพ่อบอก จึงรู้ว่าเขาแอบยิงเหรียญลองพิมพ์ของหลวงพ่อสุพจน์ งานนี้ สรุปว่า แม้แต่เหรียญตัวอย่าง ที่หลวงพ่อยังไม่เสก ก็ยิงไม่ออก...เหนียวเหลือกำลังรับ...ฟันธง
1.เหรียญสุครีพหักฉัตร ยอดเหรียญคงกระพัน กันอาวุธ หยุดอาถรรพณ์แห่งปี หลวงพ่อสุพจน์ออกแบบเอง เป็นเหรียญทรงโล่ฝรั่ง หลวงพ่อนั่งเต็มองค์ บอกใบ้ว่า กูมาช่วยศิษญ์เต็มตัว เชิญยันต์ "นะปราบปฐพี นะตีกลางสมุทร นะหยุดนภากาศ" ไว้ที่กลางอก บนผ้าสังฆาฏิผืนครู เชิญยันต์ "ไพรีพินาศ" ไว้ที่เหนือไหล่ด้านซ้าย เชิญยันต์ "นารายณ์เหยียบมาร" ไว้ที่เหนือไหล่ด้านขวา รวมความด้านหน้า หลวงพ่อมากับยันต์ครู แสดงตัวช่วยศิษย์ พิชิตศึก "ใครนับถือกูเป็นครู กูจะอุ้มชู ดูแล ป้องกัน" ด้านหลังเหรียญเชิญยันต์สุครีพหักฉัตร อันเป็นยันต์เอกตัวสำคัญ 1 ใน 3 ของตำรับพิชัยสงครามหลวง สมัยก่อนเขาเขียนใส่หลังเสื้อยันต์ถวายแม่ทัพนายกองใส่ออกรบ คู่กับยันต์ วิรุณจำบัง และหนุมานแผลงฤทธิ์ ปัจจุบันเกือบจะสาบสูญ หาผู้เสกเป็นเสกแล้วเป็นตัวเป็นตน แทบจะไม่มี หลวงพ่อสุพจน์โชคดีเรียนมาจากพ่อเฒ่ามืดฆราวาสอาคมขลัง กล่าวถึงตอนสุครีพ ได้รับคำสั่งจากพระรามให้ไปหักฉัตรแก้ว ที่ทศกัณฐ์กางไว้คลุมเมืองลงกา ไม่ให้ทัพพระรามเห็น อันว่าฉัตรแก้วนี้ เป็นฉัตรที่พระพรหมประทานให้เป็นของมงคลคู่กรุงลงกา กันศัตรูได้สารพัด ทศกัณฐ์เชื่อถือหนักหนา ได้นำทรัพย์สมบัติมีค่าประจุไว้ใต้ฉัตร มากมายมหาศาลเพราะเชื่อใจว่า ไม่มีใครหักทำลายฉัตรแก้วนี้ได้ ครั้งสุครีพแผลงฤทธิ์หักฉัตร จึงเป็นการทำลายอาถรรพณ์ปราบปรามศัตรู สรรพคุณของพระยันต์สุครีพหักฉัตรท่านกล่าวโดยย่อว่า "สุครีพหักฉัตร ภัยพิบัติบ่มีสุครีพหักฉัตร ทรัพย์สมบัติล้นเหลือ สุครีพหักฉัตร หักดวงร้าย ทำลายปัญหา ศัตรูมีมา มิอาจแผ้วพานถอนคุณไสย ทำลายอาถรรพณ์ อาวุธร้อยพัน บ่เป็นอันตราย โอมสุครีพหะโว เต โชมหาชัย เสนียดจัญไร พินาศสูญติ"
รวมความ เหรียญสุครีพหักฉัตร เป็นยอดเหรียญ คงกระพัน ทำลายอาถรรพณ์แห่งยุคนี้ เพราะหลวงพ่อสุพจน์วางยันต์เอง ผูกยันต์เอง ให้เป็นเหรียญเก่ง แทนตัวท่าน(มองข้างนอก อาจเห็นหลวงพ่อเป็นพระนักเลง พูดตรงเสียงดังฟังชัด ไม่กลัวใคร ไม่ง้อคน บอกได้ คือได้ บอกไม่ได้ ห้ามฝ่าฝืน ซึ่งก็เป็นนิสัยปกติของพระที่เรืองพระเวทย์ ไล่ตั้งแต่อดีต เช่น หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ, หลวงพ่อหรุ่ม เก้ายอด, หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง, หลวงพ่ออยู่ วัดบางน้อย, หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อกวย วัดบางแค, หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู จนมาถึง หลวงพ่อสุพน์ในยุคนี้ มิใช่อ้างเอาชื่อเทียบครูบาอาจารย์ แต่แสดงให้รู้ว่า พระที่ท่านเรืองวิชา ใจย่อมเด็ดเดี่ยว เรื่องเหยาะแหยะ โลเลเป็นไม่มี แต่ภายในท่านกลับเปี่ยมด้วยเมตตา รักศิษย์ ช่วยศิษย์เต็มที่ ช่วยทั้งต่อหน้า และลับหลัง ตอนเสกเหรียญสุครีพหักฉัตรจับคำพูดหลวงพ่อสุพจน์ได้ว่า "...กูเสกหนุนดวง เสริมดวง หักปัญหา หักเคราะห์ภัย...กูลงคงกระพัน กันอาวุธ มหาอุตม์ มหาอำนาจ และสร้างบารมีเต็มเหนี่ยว...กูลงมหาประสานมหาไว หาทรัพย์ง่าย หาเงินคล่องให้..." และ...
"มึงไปบอกมันด้วย ใครมีเหรียญกู กูเอานะมาคุ้มหัว ส่วนตัวกูลงติ ตัวอิ กูลงขา เฑาะห์มหาพรหมกูลงที่กลางกบาล ตัวพุท เป็นวิมาน กางกั้นเป็นธงไชย แม้แต่เทวดายังเกรงใจ อุบาทว์จัญไร พินาศสูญ"
ถามว่าเหรียญเดียวทำไมท่านลงให้มากจัง ท่านพูดได้น่าฟังตอนจบว่า "คนเป็นครูบาอาจารย์เขา เขาเสียเวลามานับถือเราแล้ว ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ให้สมกับที่เขานับถือ ศิษย์เข้าไม่ให้อายใครหรอกน่า" สาธุ..สาธุ..นับถือหลวงพ่อจัง |
