ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : เหรียญที่ระลึกงานศพ ท่านขุนพันธ์



(D)


วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5945

อัยการผู้สั่งทำ-โต้ลั่น จตุคามเก๊ยันลูกขุนพันธ์รู้จักดี

ย้ำเป็นเหรียญที่ระลึกไม่มีอวดอ้างสรรพคุณ




ไม่ได้ปลอม - นายกฤตภาส สิทธิรักษ์ อัยการอาวุโส เปิดแถลงตอบโต้ลูกชายขุนพันธรักษ์ราชเดช กรณีพาตำรวจไปจับกุมเหรียญขุนพันธ์ปลอม โดยยืนยันตัวเองมีสิทธิทำเหรียญเช่นกัน เพราะเป็นญาติสนิทและทำเพื่อเทิดทูนบูชาท่านลุงขุน เมื่อวันที่ 9 มี.ค.


อัยการคนสั่งทำเหรียญจตุคามฯแถลงโต้ลูกชายขุนพันธ์ หลังนำตำรวจบุกทลายโรงงานผลิตเหรียญ แจกในงานศพ ยืนยันลูกชายขุนพันธ์ก็รู้เรื่องการสั่งผลิตเหรียญรุ่นนี้ เผยไม่อยากออกมาตอบโต้ เพราะไม่ต้องการให้ขุนพันธ์เสื่อมเสีย ระบุการจัดทำเหรียญดังกล่าวเพื่อเทิดทูนเกียรติยศขุนพันธ์ อีกทั้งไม่มีการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณ มีการระบุชัดเป็นเหรียญที่ระลึก อีกทั้งการสั่งผลิตไม่จำเป็นต้องขออนุญาต เพราะขุนพันธ์เป็นปูชนียบุคคล มีคนเคารพนับถือมากมาย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 มี.ค. ที่ร้านอาหารจวนทอง ถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง นนทบุรี นายกฤตภาส สิทธิรักษ์ อัยการอาวุโส ประจำสำนักงานอัยการคดีศาลแขวง จ.นนทบุรี เปิดแถลงข่าวกรณีนายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช ลูกชายพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เข้าร้องเรียนต่อพล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วยผบ.ตร.ให้ดำเนินคดีกับผู้ปลอมเหรียญจตุคามรามเทพที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพนั้นว่า เรื่องที่นายณสรรค์ หรือคุณหนุ่ย พันธรักษ์ราชเดช และนางพรรชนา หรือคุณศรี ภรรยา ให้สัมภาษณ์ตามสื่อมวลชนว่า เหรียญที่ระลึกที่มีรูปท่านลุงขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเหรียญปลอมนั้นไม่เป็นความจริงแต่ประการใด เหรียญดังกล่าวตนเป็นผู้จัดทำขึ้น และเข้าพิธีมาแล้วถึง 3 ครั้ง ด้วยจิตวิญญาณและความรู้สึกส่วนตัวของตน พยายามระงับจิตใจไม่อยากออกมาตอบโต้เรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องเสื่อมเสียต่อเกียรติประวัติลุงขุนพันธรักษ์ราชเดช

นายกฤตภาสกล่าวต่อว่า เมื่อคืนนี้มีการออกข่าวว่ามีผู้แอบอ้างชื่ออัยการจัดทำเหรียญ ต่อมาระบุว่าเป็นอัยการอาวุโส สำนักงานอัยการสูงสุด จนกระทั่งระบุว่าชื่อตนเป็นผู้จัดทำเหรียญปลอม ตนจึงจำเป็นต้องออกมาแถลง ขอย้ำอีกครั้งว่าเหรียญที่ระลึกดังกล่าวไม่มีการโฆษณา อวดอ้างสรรพคุณ หรือแผ่นปลิวให้เช่าบูชาแต่อย่างใด โดยเหรียญได้ระบุข้อความไว้ชัดเจนแล้วว่าเป็นเหรียญที่ระลึก

อัยการอาวุโสกล่าวอีกว่า ความจริงแล้วนายณสรรค์ และนางพรรชนาก็ทราบว่าตนจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ เพราะหลังจากไปทำบุญในวันมาฆบูชาแล้ว วันที่ 4 มี.ค.ตนเดินทางกลับกรุงเทพฯ และระหว่างเดินทางมีผู้แจ้งให้ตนทราบว่า เหรียญที่ระลึกที่มีรูปท่านลุงขุนพันธ์ที่ตนแจกในวันพระราชทานเพลิงศพด้วยมือตนเอง มีผู้นำไปให้ประชาชนเช่าบูชา และมีนายใจที่เปิดแผงพระอยู่ที่จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินการจับและยึดเหรียญมา ตนจึงโทรศัพท์ไปต่อว่านายใจว่าเป็นเหรียญที่ระลึกที่ตนจัดสร้างแจกในงานพระราชทานเพลิงศพ อย่าไปรังแกชาวบ้าน ตนให้ชื่อ พร้อมเบอร์โทรศัพท์แก่นายใจ และถามนายใจว่าใครเป็นคนให้จับ นายใจตอบว่าไปจับตามคำสั่งนายหัว ตนจึงถามว่านายหัวคือใคร นายใจตอบกลับมาว่า คุณหนุ่ย หรือคุณณสรรค์ เป็นคนสั่ง

อัยการอาวุโสกล่าวต่อว่า ท่านลุงขุนพันธ์เป็นปูชนียบุคคล มีผู้คนเคารพศรัทธามากมาย และโดยเฉพาะกับตนซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ขอยืนยันว่าประชาชนทั่วไปที่มีความเคารพเลื่อมใส ศรัทธาในตัวท่านลุงขุนพันธ์ มีสิทธิเสรีภาพเต็มที่ในการจัดสร้างเหรียญ โดยมิต้องขออนุญาตผู้หนึ่งผู้ใดทั้งสิ้น แต่วัตถุประสงค์หลักในการจัดสร้าง ต้องมีเจตนาหลักในการสร้างเพื่อเทิดทูนเกียรติยศของท่านลุงขุนพันธ์

"เหรียญดังกล่าวผมเป็นเจ้าของและเป็นผู้จัดทำแต่เพียงผู้เดียว มิได้ไปเรี่ยไรหรือขอบริจาคเงินใครมาจัดสร้าง และในความสัมพันธ์ส่วนตัวครอบครัวของผมมีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น เฉพาะในตัวท่านคุณลุงขุนพันธ์เท่านั้น ใครเป็นผู้ออกฤกษ์วางเสาเอกศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช และเป็นผู้ให้ฤกษ์ยามแก่คุณลุงขุนพันธ์ในเรื่องสำคัญ และการเดินทางไปไหนมาไหนต่างๆ และใครเป็นผู้ตั้งชื่อบุตร ธิดา ของท่านลุงขุนพันธ์ทุกคน มีพยานพิสูจน์ได้ เพราะคุณแม่ของผมคือนางสติ สิทธิรักษ์ (วิชัยดิษฐ์) ยังมีชีวิตอยู่และทราบเรื่องนี้ดี ส่วนรายละเอียดเรื่องราวยังมีอีกมากมายถึงความปั่นป่วนครั้งนี้ แต่จะไม่ให้สัมภาษณ์ในตอนนี้ แต่ผมจะไปให้ข้อเท็จจริงในทางลับกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากผมเปิดเผยไปมากกว่านี้ยิ่งจะทำให้เสื่อมเสียแก่วงศ์ตระกูลมากยิ่งขึ้น" นายกฤตภาส กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 มี.ค. พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยนายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช อายุ 56 ปี บุตรชายคนโตของขุนพันธรักษ์ราชเดช และนางพรรณธนา ขุนพันธรักษ์ราชเดช ภรรยา นำหมายศาลอาญาธนบุรี ที่ ด.233/2550 เข้าตรวจค้นโรงงานพุทธมงคลโลหะกิจ เลขที่ 998/2-4 ถ.พรานนก แขวงบ้านช่างหล่อ กทม. พบเหรียญขุนพันธรักษ์ราชเดช โดยนายสุกิจ อรพรตระกูล อายุ 38 ปี เจ้าของร้าน ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา มีชายอายุประมาณ 60 ปี อ้างว่าชื่อ นายกฤตภาส สิทธิรักษ์ เป็นอัยการอาวุโส สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงธนบุรี มาจ้างแกะบล็อกทำเป็นเหรียญทองแดง ด้านหน้าเป็นองค์จตุคามรามเทพ ด้านหลังเป็นรูปขุนพันธ์ถือไม้เท้า จำนวน 10,000 เหรียญ และจะมารับในวันที่ 16 ก.พ. แต่พอทำได้ 8,000 เหรียญ บล็อกเกิดแตก นายกฤตภาสจึงเดินทางมารับ โดยจ่ายค่าบล็อกก่อนแล้ว 10,000 บาท และอ้างว่าเป็นญาติขุนพันธ์จะเอาเหรียญไปแจกในงานศพ

ที่มา http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03p0102100350&day=2007/03/10&sectionid=0301

โดยคุณ CHATTHEP (331)  [ส. 10 มี.ค. 2550 - 14:24 น.]



โดยคุณ CHATTHEP (331)  [ส. 10 มี.ค. 2550 - 14:26 น.] #82884 (1/11)


(D)


เหรียญทองแดง

โดยคุณ CHATTHEP (331)  [ส. 10 มี.ค. 2550 - 14:30 น.] #82887 (2/11)


(D)


เหรียญหลังปิดตา

โดยคุณ CHATTHEP (331)  [ส. 10 มี.ค. 2550 - 14:39 น.] #82890 (3/11)


(D)
จากไทยรัฐบ้าง

อัยการอาวุโสชี้แจง ทำเหรียญขุนพันธ์ ไว้แจกไม่ได้ปลอม [10 มี.ค. 50 - 04:20]

หลังจากนายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช ลูกชายของขุนพันธรักษ์ราชเดช เข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทราบจากนายสุกิจ อรพรตระกูล เจ้าของร้านพุทธมงคลโลหะกิจ ในซอยกุฎีหลวง ถนนพรานนก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ว่ามีนายกฤตภาส สิทธิรักษ์ อายุ 63 ปี อัยการอาวุโส สำนักงานอัยการสูงสุด ประจำสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี จ้างทำเหรียญที่ระลึกด้านหน้าเป็นรูปจตุคามรามเทพ ด้านหลังเป็นรูปขุนพันธรักษ์ราชเดชยืนถือไม้เท้า โดยบอกว่าจะนำไปแจกในพิธีพระราชทานเพลิงศพขุนพันธรักษ์ราชเดช ทั้งๆที่ตนซึ่งเป็นลูกชายไม่รู้เรื่องด้วยนั้น

ความคืบหน้าเมื่อตอนบ่ายวานนี้ (9 มี.ค.) ที่ร้านอาหารจวนทอง ถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี นายกฤตภาส สิทธิรักษ์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยอ่านแถลงการณ์ที่เตรียมมา มีใจความสรุปได้ว่า ตามที่นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช ลูกชายของขุนพันธรักษ์ราชเดช และภรรยานายณสรรค์ ให้สัมภาษณ์ว่าเหรียญดังกล่าวเป็นของปลอมนั้น ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ การจัดสร้างไม่มีการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณหรือแผ่นปลิวให้เช่าบูชา การสั่งทำก็เปิดเผยชื่อคนสั่งทำกับทางร้าน และมีข้อความระบุว่าเป็นเหรียญที่ระลึกจะนำไปแจก ไม่มีเจตนาแสวงหากำไร

นายกฤตภาสกล่าวต่อไปว่า ร้านที่รับจ้างผลิตก็ไม่เคยทำเหรียญปลอมใดๆ สำหรับเหรียญนี้กลุ่มข้าราชการจังหวัดนนทบุรีทั้งหมดและสำนักงานอัยการสูงสุดไม่รู้เรื่องด้วย ตนเป็นเจ้าของจัดทำแต่ผู้เดียว เข้าพิธีมาแล้ว 3 ครั้ง ใช้เงินส่วนตัวประมาณ 1 แสนบาท ไม่ได้เรี่ยไรหรือขอรับบริจาคใคร ทั้งนี้ เนื่องจากมีความสัมพันธ์ ส่วนตัวเฉพาะกับขุนพันธรักษ์ราชเดชเท่านั้น และได้นำไปแจกในพิธีพระราชทานเพลิงศพเอง แต่เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ได้รับทราบจากพรรคพวกว่ามีคนนำเหรียญที่ตนแจกไปขายและถูกจับกุม

“ท่านลุงขุนพันธ์เป็นปูชนียบุคคล ประชาชนที่มีความเคารพศรัทธามีสิทธิ์ในการสร้างเหรียญโดยไม่ต้องขออนุญาตใคร แต่วัตถุประสงค์ต้องสร้างเพื่อเทิดทูนเป็นเกียรติยศเท่านั้น รายละเอียดเรื่องนี้มีอีกมาก จะไปให้ ข้อเท็จจริงทางลับต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การกล่าวพาดพิงถึงผมนั้นก็ขออโหสิ ไม่ติดใจอะไร” นายกฤตภาสกล่าว

สำหรับเหรียญที่นายกฤตภาสจัดสร้างนั้นมี 2 แบบ แบบแรกด้านหน้าเป็นรูปจตุคามรามเทพ ด้านหลังเป็นรูปขุนพันธรักษ์ราชเดช สร้างเป็นเนื้อเงิน 100 เหรียญ เนื้อทองแดง 1 หมื่นเหรียญ แบบที่ 2 ด้านหน้าเป็นรูปจตุคามรามเทพ ด้านหลังเป็นรูปพังพกาฬ ซึ่งเป็นปางหนึ่งของจตุคามรามเทพ สร้างเนื้อเงิน 100 เหรียญ เนื้อทองแดง 1 หมื่นเหรียญ แต่แบบหลังนี้ทำได้เพียง 8 พันกว่าเหรียญบล็อกก็แตก

ด้านนายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ปัญหาจตุคามรามเทพรุ่นจักรพรรดิมหาราช ที่วัดมัชฌิมภูมิวราราม หรือวัดท่ายายหนี อ.พรหมคีรี จัดสร้าง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่แคลงใจว่าอาจไม่ผ่านพิธีปลุกเสก เพราะมีสภาพเปียกชื้นและแตกหักจึงเข้าแจ้งความและนำมาคืนวัดนั้น ทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักพระพุทธศาสนา และสรรพากรจังหวัดเข้าไปตรวจสอบด้วย และจะเชิญเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าประชุมวันที่ 12 มี.ค.นี้เพื่อหามาตรการกำกับดูแล

“ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าทางพระสงฆ์ การคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายที่เกี่ยวข้องค่อนข้างอ่อน มาตรการทางสังคมจะต้องมาช่วยเสริม องค์จตุคามรามเทพเป็นเทวดารักษาเมืองนครศรีธรรมราช ประชาชนเคารพศรัทธา จะต้องร่วมกันปกป้องสิ่งที่เข้ามาทำลายชื่อเสียง คาดว่ามาตรการที่จะออกมามีหลายรูปแบบ แต่อยู่ในกรอบของกฎหมาย” รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าว

ส่วนที่วัดมัชฌิมภูมิวราราม หรือวัดท่ายายหนีนั้น ยังมีประชาชนทยอยนำใบสั่งจองและวัตถุมงคลที่มีปัญหามา คืนและขอรับเงินคืนอย่างต่อเนื่องคิดเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท ขณะเดียวกัน มีกลุ่มบุคคลพยายามปั่นราคาวัตถุมงคลรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน

ที่มา http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=39603





โดยคุณ CHATTHEP (331)  [ส. 10 มี.ค. 2550 - 14:42 น.] #82893 (4/11)


(D)
รูปจากไทยรัฐ

โดยคุณ CHATTHEP (331)  [ส. 10 มี.ค. 2550 - 14:43 น.] #82894 (5/11)
เหรียญที่จัดสร้างมี ขนาด 2.7 เซนติเมตรครับ

โดยคุณ CHATTHEP (331)  [ส. 10 มี.ค. 2550 - 14:45 น.] #82895 (6/11)
เสนอความคิดเห็นกันได้ตามสบายครับ
ขอบคุณครับ

โดยคุณ แดงบูรพา (281)  [ส. 10 มี.ค. 2550 - 14:46 น.] #82896 (7/11)


(D)
ตามมาสมทบ

โดยคุณ แดงบูรพา (281)  [ส. 10 มี.ค. 2550 - 14:49 น.] #82898 (8/11)


(D)
ยืนยัน

โดยคุณ ตี๋บางนา (223)  [ส. 10 มี.ค. 2550 - 16:42 น.] #82914 (9/11)
ปัญหาที่กลัวคือ ยังปั๊มไม่ยอมหยุด แล้วปล่อยออกมาปนกับของเก่าที่ผ่านพิธีจะแยกกันอย่างงัย

โดยคุณ RIN101 (2K)  [อา. 11 มี.ค. 2550 - 20:29 น.] #83139 (10/11)
ในข่าวก็บอกอัยการสั่งทำ 10,000 เหรียญแต่พอทำไปได้ 8,800 เหรียญบล็อคแตกจะปั๊มมาอีกได้ยังไงที่เห็นอยู่ในเข่งเหรียญจะใหญ่กว่ามากกรุณาดูให้ดีๆก่อนครับ

โดยคุณ wjakkari (0)  [จ. 12 มี.ค. 2550 - 00:53 น.] #83289 (11/11)
ส่วนตัวผมนะ ผมอยากว่าการผ่านพิธีที่บอกมา ผ่านพิธีที่ไหน เจ้าพิธีคือใครครับ ถ้าคุณอัยการทำด้วยใจบริสุทธิ์จริงๆก็สามารถจัดสร้างได้ ส่วนคนที่เช่าไปก็ต้องใช้วิจารณญานในการเช่าด้วยนะครับ ผมแปลกใจอย่างนึงนะครับว่า ทำไมคนเราถึงกล้าปลอมพระออกมาขายกันได้
อยากได้เงินจนลืมไปว่าพอตายไปก็เอาไปไม่ได้กันรึเปล่านะครับ แต่ถ้าปลอมแล้วบอกก่อน สุดแล้วแต่ให้ผู้ซื้อตัดสินใจเอง อันนี้ส่วนตัวผมถือว่าไม่ผิดครับ.... ยังงัยก็ยังนับถือองค์พ่อตลอดไปอยู่แล้วครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1