ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ถามพี่ๆในนี้หน่อยครับว่ารุ่นที่ถือว่าเป็นรุ่นหลักของปี 50 มีรุ่นใหนบ้างครับ

(D)
คือรุ่นดังพิธีดีจริงๆ เป็นที่ยอมรับจริงๆ

โดยคุณ paragon (8)  [อา. 01 ก.ค. 2550 - 01:46 น.]



โดยคุณ คุณอ้น (20)  [อา. 01 ก.ค. 2550 - 08:50 น.] #115838 (1/14)
อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละบุคคลนะครับ
แต่สำหรับผมแล้ว
๑.ราชันย์ดำ วัดใหญ่ชัยมงคล
๒.ทรัพย์หมื่นล้าน วัดโพธ์ทอง (เนื้อกระเบื้องหลังคาโบสถ์)
๓.ทรัพย์ราชันย์
๔.โคตรเศรษฐีทรัพย์ราชันย์
๕.รุ่นมังกรเงิน มังกรทอง

ปีนี้ผมก็เช่าเพียงแค่นี้เองครับสำหรับพระจตุคามฯ
สองรุ่นแรก(๑-๒)ก็มาเช่าตอนพระออกแล้ว
หมดเงินไปก็ประมาณ สามหมื่น
กะเก็งกำไรยาวๆไปจนรุ่นลูกแหละครับ
ตอนนี้ก็พอจะมองเห็นอนาคตแล้วครับว่าเจ๊กอั๊กแน่ๆ
อีกเหตุผลคือ รุ่นราชันย์ดำนี่พิธีเสร็จตรงกับวันเกิดคล้ายวันผมนะครับ
๒๒ มีนาคม ซื้อไว้ ๔ลูก ลูกละ ๑,๑๐๐ บาท
ส่วนรุ่นทรัพย์หมื่นล้านนี่วัดอยู่ใกล้บ้านครับ
ขับรถผ่านหน้าวัดทุกวัน ไปเช่าที่วัดโดยเอียง เอ๊ยโดยตรง

สองรุ่นหลัง(๓-๔)ก็ซื้อใบจอง แต่ของยังไม่ได้
แต่ก็ไม่มากครับไม่ค่อยอยากเสี่ยง
หมดไปประมาณหกพันเจ็ดพัน
รุ่นทรัพย์ราชันย์นี่ราคาบวกแล้วนะครับตอนจอง
แล้วจองกับเพื่อนที่เป็นคนร่วมหุ้นสร้างพระด้วย
เพื่อนกันมันยังบวกเลยครับ
มันบอกต้องทำตามๆกัน
(เป็นนโยบายผู้สร้างพระประมาณนั้น)

ส่วนรุ่นโคตรเศรษฐีทรัพย์ราชันย์เหตุที่จองก็เพราะสวยกว่าทรัพย์ราชันย์
แบบก็ลอกกันไป ลอกกันมา
และราคาก็ยังไม่บวกครับ

อีกรุ่นก็คือ รุ่นมังกรเงิน มังกรทอง ของวัดชะเมา นครศรีธรรมราช
เจ้าพิธีก็เป็นพระอาจารย์ของผมเอง คือพระปลัดเกษม เขมจิตโต
จองที่วัดโดยตรงครับ ไม่ผ่านร้านค้านายหน้า
ประมาณสามหมื่นบาท
รุ่นนี้เจตนานาดี มวลสารดี พิธีดีแน่ๆครับ
รุ่นที่เป็นเนื้อว่านต่างๆนี่พระในวัดปั๊มเองทั้งหมดครับ
จะส่งโรงงานก็เฉพาะลูกเคลือบ เนื้อโลหะ เพราะวัดทำเองไม่ได้
ตอนผมลงไปเมื่อหลังสงกรานต์พระท่านกำลังนั่งตำมวลสารอยู่เลยครับ
มองไกลๆครั้งแรกนึกว่าท่านกำลังตำน้ำพริก

โดยคุณ คุณอ้น (20)  [อา. 01 ก.ค. 2550 - 09:07 น.] #115840 (2/14)


(D)


ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขออนุญาตนะครับ

โดยคุณ คุณอ้น (20)  [อา. 01 ก.ค. 2550 - 09:08 น.] #115841 (3/14)


(D)



โดยคุณ คุณอ้น (20)  [อา. 01 ก.ค. 2550 - 09:09 น.] #115842 (4/14)


(D)



โดยคุณ คุณอ้น (20)  [อา. 01 ก.ค. 2550 - 09:10 น.] #115843 (5/14)


(D)



โดยคุณ dam09 (1K)  [อา. 01 ก.ค. 2550 - 10:13 น.] #115859 (6/14)
หลักๆ คงไม่มี..เพราะสร้างจนไม่มีหลักเกณฑ์อะไร..แต่ถ้ามีก็ต้องตอบคำถามดังนี้ก่อน
1. รูปลักษณ์ดี-สวยงาม..ไม่สร้างเลียนแบบ..ใช่มั้ย..(และสร้างตรงตามแบบด้วย)
2. พิธีดีมั้ย...หรือจะเอาแบบมั่วๆ...ไปกับเขา
3. วัตถุประสงค์ชัดเจนมั้ย...หรือครอบจักรวาล...(ต้องลงเอารายได้ไปทำอะไรกันแน่)
4. เอาแบบวัดสร้างเอง..หรือนายทุนสร้าง...(เดี๋ยวเขาเวลาโฆษณาต้องระบุแล้ว)
5. ราคา...ถูก/แพง....(ข้อนี้เป็นสิ่งวัดใจ..ของใครหลายๆคน)..เพื่อการเก็งกำไรในอนาคตได้มั้ย...
เป็นข้อสังเกตุครับ....ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนครับ..รักชอบรุ่นใหน ก็เช่าบูชารุ่นนั้นครับ..ข้อสำคัญขอให้เช่าด้วยศรัทธา...อย่าเอาเรื่องการเก็งกำไร(เงินๆๆๆๆ)มาเกี่ยวข้องมาก....ไม่งั้น...บาปกรรมก็จะตกกับผู้เช่าเอง....

โดยคุณ pradrem (5.3K)  [อา. 01 ก.ค. 2550 - 11:55 น.] #115905 (7/14)
รุ่นนี้ก็เยี่ยมยุทธ "รวยล้นฟ้า" ผมยังไม่กล้าตั้งประมูลที่เวป ขอหลังไมค์ได้นะ ....ฮิฮิฮิ

โดยคุณ เด่นไทย (399)  [อา. 01 ก.ค. 2550 - 19:28 น.] #116047 (8/14)
รุ่นไหนก็ได้ครับแล้วแต่ศรัทธาและความชอบของแต่ละคน
จะให้ระบุไปก็เห็นใจคนที่ถือรุ่นอื่นๆ.......
เอาเป็นว่าชอบรุ่นไหนก็เล่นรุ่นนั้นดีกว่าครับ.....
ส่วนราคารุ่นไหนวิ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด.......

โดยคุณ A5aha (67)  [อา. 01 ก.ค. 2550 - 22:06 น.] #116113 (9/14)
รุ่นไหนไม่วิ่งก็ถือว่าเช่ามาเพื่อทำบุญตามเจตนาสร้างแล้วกันครับ
สบายใจดี...ไม่คิดมาก อิอิ

โดยคุณ padang (327)  [จ. 02 ก.ค. 2550 - 16:30 น.] #116354 (10/14)
จตุคำ ของพระพยอม เป็นไง ไม่ต้องโปรโมท มีคนช่วยเยอะ

โดยคุณ pong071976 (50)  [อ. 03 ก.ค. 2550 - 13:09 น.] #116684 (11/14)
ลองอ่านดูนะครับ
@@@@@เทิดพระเกียรติ@@@@@
วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง

ด้วยชมรมไทยคู่ฟ้า ได้จัดตั้งเป็นองค์กร เพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาและงานกุศล สงเคราะห์สาธารณะตั้งแต่ปี 2540
และในปี พ.ศ. 2548 ทางชมรมไทยคู่ฟ้า ได้จัดสร้างวัตถุมงคลองค์พ่อจัตตุคาม และองค์พ่อท้าวรามเทพ รุ่น เฉลิมพระเกียรติ
และได้ทำตามวัตถุประสงค์ที่ท่านผู้มีจิตศรัทธาได้สำเร็จลุล่วงไปแล้วนั้น และในปีอันเป็นมหามงคลทางชมรมไทยคู่ฟ้าและคณะ
กรรมการจัดสร้าง จึงได้ดำริจัดสร้างวัตถุมงคล องค์พ่อจัตตุคาม - องค์พ่อรามเทพ พระปิดตาพังพระกาฬ รุ่น เทิดพระเกียรติ
ขึ้น เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้มีจิตศรัทธาโดยทั่วไป และมอบแก่ท่านไว้สักการะบูชา โดยรายได้จากการจัดสร้างในครั้งนี้ ส่วนหนึ่ง
ทูลเกล้าถวาย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามพระราชอัธยาศัย ในวโรกาสที่ทรงพระเจริญมายุครบ
52 พรรษา ในวันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ.2550 และรายได้อีกส่วนหนึ่งทูลเกล้าถวาย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี
พระวรราชาทินัตดามาตุ ตามพระอัธยาศัย และสมทบ " กองทุนยาพระวรราชาทินัดดามาตุ " สำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์ สภากา
ชาดไทย และรายได้อีกส่วนหนึ่งเพื่อปฏิสังขรณ์เสนาสนะสถานวัดพระมหาธาตุมหาวรวิหาร และจัดซื้ออุปกรณ์ทางการศึกษา
แก่นักเรียนในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช ทางคณะกรรมการจัดสร้าง ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธา ได้บูชาวัตถุมงคลรุ่นนี้
เพื่อความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง กิจการค้าขายดี มีโชคลาภ ร่ำรวย อยู่เป็นสุข แก่ตัวท่านและครอบครัว และขอให้
อำนาจความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พ่อท้าวจัตตุคามและองค์พ่อท้าวรามเทพ องค์พระปิดตาพังพระกาฬ ช่วยปกปักรักษาท่านและ
ครอบครัวในทุกๆ สิ่งด้วย

ด้านหน้า

1. องค์ท้าวจัตตุคาม-รามเทพ (รวมอยู่เป็นองค์เดียวกัน) มือขวาถือจักรกับวชิระหมายถึงพระเสือเมือง ความหมายของพระเสื้อเมือง ทรงเป็นพระมหากษัตริย์เปรียบได้กับฝ่ายทหารที่มีอำนาจปกครองดูแลปกป้อภยันตรายแก่ประชาชน มือซ้ายถือสังข์ หมายถึง พระทรงเมือง ความหมายคือ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์เปรียบได้กับฝ่ายปกครองซึ่งต้องเปี่ยมด้วยคุณธรรม คือ ความเมตตา คุณธรรม ให้ประชาชน อยู่เย็นเป็นสุข

2. ล้อมรอบด้วยวัฎจักร 12 นักษัตร เป็นสัญลักษณ์ตรงตามประจำเมืองนครศรีธรรมราชเพื่อความเป็นสิริมงคล

3.พญาราหู 8 ตน เป็นตัวแทนเทพผู้รักษาทิศทั้ง 8 มีอำนาจบารมีเป็นทีเกรงกลัวและช่วยขจัดให้สิ่งร้ายกลายเป็นดี สิ่งดีก็ดียิ่งขึ้น

4.พระคาถาบูชาพระราหู อ่านว่า เทวาาพระราหู จะมะหาบูชา ได้อัญเชิญพระราหูมาปกป้องคุ้มครองภัยต่างๆ

ด้านหลัง

1. วงกลมกึ่งกลางเปรียบเป็นจักรวาล มีอักขระยันต์ 4 คำ มีพุทธคุณเป็นพลังมหาจักรวาล มี เฑาะดิน เฑาะน้ำ เฑาะลม เฑาะไฟ เป็นการรวมเอาพลังธาตุทั้งสี่ ทั้งหลายทั้งปวง มาไว้ ณ ที่แห่งนี้ จึงเป็นยันต์มหามงคล มีพลังพุทธคุณมหาจักรวาล เป็นต้นกำเนิดทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลายในสามโลก ทีคอยช่วยเหลือเกื้อกูลท่าน ล้อมรอบด้วยอักขระ นะ มะ มะ ทะ ธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ไว้อีกขั้นหนึ่ง

2. บทพระพุทธคุณที่อยู่บนดอกบัวที่ล้อมรอบวงกลมเป็นบทพระพุทธคุณ พระเจ้า 16 พระองค์ ที่คอยช่วยเหลือดูแลปกปักษ์รักษาโลกมนุษย์และทั้งสามโลก

3. บทพระพุทธคุณที่อยู่บนเจดีย์ เป็นบทพระพุทธคุณหัวใจมหาเศรษฐี อุ อา กะ สะ และบทพระพุทธคุณหัวใจพระสีวลีมหาลาภ นะ โม พุท ธา ยะ มะ อะ อุ มีพระพุทธคุณสุดยอดทางด้านเมตตาหานิยมดีมาก ไปที่แห่งใดมีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ รัก และ เอ็นดู

4. พลังงานรัศมีที่เปล่งแลงออกมาจากวงกลมกึ่งกลางเปรียบเสมือนพลังงานอันบริสุทธิ์ เป็นพลังมหาจักรวาล ที่ขจัดสิ่งชั่วร้ายให้ออกพ้นไป และให้มีแต่สิ่งดีงามเข้ามาในชีวิต

โดยคุณ pong071976 (50)  [อ. 03 ก.ค. 2550 - 13:11 น.] #116685 (12/14)
ลองอ่านดูนะครับ
@@@@@ อนุสรณ์ดวงตราพญาราหู ( ไฟฟ้า 50 ) @@@@@
เหรียญรุ่นอนุสรณ์ดวงตราพญาราหูจัดสร้างขึ้นเป็นเป็นอนุสรณ์รำลึกแก่บุคคลสองท่าน ท่านแรกคือพระครูวิสุทธิจารี(กล่ำ) วัดศาลาบางปู และ ท่านที่สองคือพลตำรวจตรีขุนพันธ์ราชเดช..ดังมีรูปแบบและความหมายในเหรียญดังต่อไปนี้......
ด้านหน้า
1. ตรงกลางเป็นรูปท้างจตุคาม ท้าวรามเทพ นั่งเหมือนองค์จริงในวัดพระธาตุ และสองนามอยู่ในรูปเดียว
2. ผนังด้านขวาขององค์เทพมีชื่อจันทรภาณุ บิดาของท้างจตุตคาม ท้าวรามเทพ เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของอาณาจักรสุวรรณภูมิ เมื่อประมาณ พ.ศ.1000
3. ผนังด้านล่างขององค์เทพมีชื่อฃตุคาม ตามชื่อคนโบราณเรียก
4. ผนังด้านซ้ายขององค์เทพมีชื่อรามเทพ
5. รอบองค์เทพมีอักขระธาตุ 4 ตัว คือ นะ มะ พะ ทะ
6. เหนือเศียรองค์เทพมีชื่อปู่สรวง ยายสาง เป็นมนุษย์คู่แรกของไทย
7. กงจักรมีรูปนักษัตินามปี ตามเครื่องหมายของจังหวัดนครศรีธรรมราช
8. รอบ ๆ กงจักรใต้พญาราหูมี คาถาประจำทิศ ทั้ง 8 ดังนี้
ทิศตะวันออก " อิระชาคะตะระสา "
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ " ติหังจะโตโรถินัง "
ทิศใต้ " ปิสัมระโลปุสัตพุท "
ทิศใต้เฉียงตะวันตก "โสมานะกะริถาโท "
ทิศตะวันตก "พะสัมสัมวิสะเทพะ"
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ "คะพุทปันทุธัมวาคะ "
ทิศเหนือ " วาโทโนอะมะมะวา "
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ "อะวิสุนุสสานุติ "
พระคาถาเหล่านี้เวลาจะเดินทางไปไหน ทิศใด ให้ภาวนาผันหน้าไปทางทิศนั้น 7 จบ เดินทางไปจะปลอดภัยและเป็นศิริมงคล
9. ระหว่างพระคาถามียันตุอุนาโลมคั่น
10. รอบพระคาถามีพยาราหู 8 ตน นั่ง 8 ทิศ ตามตำแหน่งพญาราหูนั่งเสวยอายุคนที่เกิดทั้ง 8 วัน
11. เหนือไหล่พญาราหูทั้ง 8 ตน มีอัขระกำเนิด อิติ ทุกช่อง
12. รอบนอกมีพระคาถาหัวใจพาหุง "พามานาอุกะสะนะทุ" ใช้ภาวนาป้องกันภัยอันตราย และสรรเสริญพระก่อนนำมาสวมคอ

ด้านหลัง
1. ตรงกลางเป็นรูปองค์พระ แทนพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาแห่งพระพุทธศาสนา
2. รอบองค์พระมีอักขระ 4 ตัว แทนอริยสัจสี่
3. วงกลมมีรัศมีพระอาทิตย์ แทนพระเจ้าตะวันอธิราช กษัตริย์ที่วางรากฐานทางพระพุทธศาสนา
เกี่ยวกับพิธีต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ
4. รอบรัศมีพระอาทิตย์มีอักขระพระคาถาเงินล้าน คือ คาถาปพระปัจเจกโพธิ์ โปรดสัตว์ ซึ่งเดิม
เป็นของนครศรีธรรมราช ต่อมาหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค มาเรียนจากครูผึ้ง ที่ นครศรีธรรมราช
และนำไปสอนคนทั่วประเทศ
5. ระหว่างรัศมีมีพระอาทิตย์ มีวงกลม 8 ดวง แทนดาวนพเคราะห์ ที่หมุนรอบตัวเองและดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดพลังงานในตัวเอง ในวงกลมดาวนพเคราะห์ มีอักขระ 8 ตัว สถิตอยู่วงละ 1 ตัว
เป็นหัวใจธาตุพระกรณี 4 ตัว มีความหมาย ให้ผู้ใช้วัตถุมงคลยึดถือปฏิบัติดังต่อไปนี้.
5.1 (จะ) จงละเว้นการคบคนชั่วเสีย เป็นธาตุน้ำ
5.2 (ภะ) หมั่นคบหาสมาคมด้วยบัณฑิต เป็นธาตุดิน
5.3 (กะ) ให้สร้างบุญกุศล ทั้งกลางวัน กลางคืน เป็นธาตุไฟ
5.4 (สะ) ให้ระลึกถึงความไม่เที่ยงของสังขารเป็นนิจ เป็นธาตุลม
และมีอักขระอีก 4 ตัว ในวงกลมคือ หัวใจ โสฬสมงคล ใช้ภาวนาป้องกันภัย " ติ ติ อุ นิ"
6.พื้นที่ระหว่างดวงดาวนพเคราะห์ ทั้ง 8 ดวง เป็นพื้นนภากาศ ประดิษฐานชื่อ พระอรหันต์ ยุคแรก
ของแผ่นดินสุวรรณภูมิ ท่านแรก คือ พระปุณณะมหาเถระ เป็นคนไทยคนแรกที่ได้บวชด้วยวิธี
เอหิภิกขุ กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ประเทศอินเดีย
7. ท่านที่ 2 เวียนขวาถัดไป เป็นชื่อ พระสัจจพันธะมหาเถระ เป็นคนไทยคนแรกที่บวชด้วยวิธี
เอหิภิกขุ กรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เขาสัจจพันคีรี (พระพุทธบาท) จ.สระบุรี ในประเทศไทย
8. ชื่อพระสมณฑูต ทั้ง 5 รูป ถัดไปแต่ละช่องระหว่างดาวนพเคราะห์ คือ พระโสณ มหาเถระ
พระฌาณียะมหาเถระ พระภูริยะมหาเถระ พระมูนียะมหาเถระ ที่พระเจ้าอโศกมหาราช ส่งมาเผยแผ่ศาสนา ในดินแดนสุวรรณภูมิ โดยมาขึ้นที่ตำบลท่าเรือ จังหวัดนครศรีธรรมราช และเดินทางต่อไปยังสุวรรณภูมิ
9. ในช่องสุดท้าย เป็นชื่อพระญาณจรณะมหาเถระ เป็นคนไทยคนแรกที่ได้บวชโดยวิธีปัจจุบัน บนแผ่นดินไทย มีพระโสณมหาเถระ เป็นพระอุปัชฌาย์ และต่อมาเป็นสังฆราชองค์ที่ 1 ของประเทศไทย

โดย ไทยสะกอ

ข้อมูล นำมาจาก Udomchok.com

โดยคุณ worawitk (588)  [อ. 03 ก.ค. 2550 - 15:38 น.] #116710 (13/14)


(D)
อย่างที่คุณอ้นบอกคับ...แล้วแต่คนชอบ ส่วนในปี 50 นี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นรุ่นหลักเมืองมหามงคลปี 50นะคับ รูปแบบสวย พิธีดี(ปลุกเสก 16 พิธี) ลูกชายขุนพันธ์เป็นคนสร้าง และรุ่น 9รอบ9พิธี108ท่านขุนพันธ์ ลูกชายคนนี้ก็เป็นคนสร้างคับ

โดยคุณ pong071976 (50)  [อ. 03 ก.ค. 2550 - 21:49 น.] #116857 (14/14)
ขออนุญาติเพิ่มข้อมูล รุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ท่านขุนพันธ์ (ปี 49) ต่อจากพี่ worawitk

9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ (หลักเมืองรุ่นพิเศษ) วัดหน้าพระธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

ผงยาวาสนามมหาจินดามณี โอสถอันพิลาศ เลิศล้ำตำราในโลกแผ่นดิน ผู้ใดบูชาจะสวัสดิ์โกภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุเงินทองจักพูนกูลนองกว่าโลกหญิงชาย นำมาบูชาอภิวาทถ์มิวาย ระงับอันตรายทั้งสี่กริยา โทษหนักเท่าบาตร มาตรแม้นประจักษ์ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นบูชาซึ่งยาวาสนา กลับต้องถอยครา เคลื่อนคลายหายเอย

พิมพ์ทรงสวยงาม มวลสารสรรค์เลิศล้ำ พิธีกรรมเข้มขลังอลังการนับเป็นวัตถุมงคลที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญถึงความเพียบพร้อมสมบูรณ์ในทุกๆ ด้านที่สุดยอดวัถุมงคล พึงมีพึงกระทำอันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชาสักการะ

- รูปแบบพิมพ์ทรง กล่าวได้ว่าในการจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อกุศลเจตนาโดยคุณณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช ทุกครั้งทุกรุ่นจะได้รับการยกย่องกล่าวขานในด้านศิลปะอันงดงามและในรุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ (หลักเมืองรุ่นพิเศษ) ก็เช่นกันที่ได้สรรค์สร้างอย่างงดงามยิ่งทุกแบบทุกพิมพ์มีความละเอียดลออประณีตพิถีพิถันทุกสรรพสิ่งที่ปรากฏในองค์วัตถุมงคล การนำรูป จำลองศาลหลักเมืองประทับไว้เพื่อบ่งบอกถึงคุณค่าความเป็นวัตถุมงคล “หลักเมืองรุ่นพิเศษ” อย่างสมบูรณ์

- ชนวนมวลสาร หัวใจสำคัญในการจัดสร้างวัตถุมงคงให้บังเกิดความเลิศล้ำ สิ่งที่ไม่อาจละเลยมองข้ามได้ก็คือการแสวงหามวลสารศักดิ์สิทธิ์มาผสมผสานลงในเนื้อหาดังเช่นรุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ (หลักเมืองรุ่นพิเศษ นี้ได้มีความวิริยะอุตสาหะแสวงหามวลสารมากมายมาเป้นส่วนผสม นอกเหนือจากมวลสารหลักคือผงมวลสารว่าศักดิ์สิทธิ์นับร้อยนับพันชนิดของ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งต่อมาได้บังเกิดเป็นมวลสาร ของวัตถุมงคลหลายรุ่นผ่านพิธีประจุพุทธาคมทับถมกันครั้งแล้วครั้งเล่าจนทุกวันนี้ อาทิรุ่น ขุนพันธ์พุทธาคมเขาอ้อ รุ่นมงคลจักรวาล พุทธาคมเขาอ้อ รุ่นเจ้าสัวเบตง รุ่นบูรณะหลักเมืองนครศรีฯ 2547 รุ่นพุทธศิลป์ย้อนยุค วันนาสน รุ่นไตรภาคีศรีนคร วัดนางตรา รุ่นพุทธามหาเวท วัดศาลาไพ รุ่นพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง วัดหน้าพระบรมธาตุ ซึ่งล้วนแล้วแต่นำมวลสารมาผสมในรุ่นนี้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังได้แสวงหามวลสาระสำคัญย้อนรอยตำนานหลวงพ่อทวด หลายแห่งที่มีความเกี่ยวพันกับท่านอันมีมวลสารจากวัดช้างให้ วัดพะโค๊ะ วัดดีหลวง วัดสีหยัง วัดโพธิเจติยาราม มาเลเซีย สำนักสงฆ์ต้นเลียบ นาเปล ศาลาหลวงพ่อทวดท่าแพ วัดเสมเมือง วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร วัดหัวลำภูใหญ่ ศาลาหลวงพ่อทวดบ้านโกฏ วัดเขาอ้อ วัดแค อยุธยา และที่เลิศล้ำสำคัญยิ่ง คือมวลสารพระผงพระพุทธชินราช ภ.ป.ร. ซึ่งมีส่วนผสมของผงพระเบญจภาคี และผงในหลวงพระราชทาน คือ ผงจิตรลดา

-พิธีกรรมมหามงคล นับเป็นความยิ่งใหญ่อลังการซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ในประวัติศาสตร์การจัดสร้างวัตถุมงคลในเมืองนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะองค์ท้าวจตุคาม และท้าวรามเทพ แม้กระทั่ววัตถุมงคลหลวงพ่อทวด ซึ่งในการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ (หลักเมืองรุ่นเศษ) อันทรงคุณค่าครั้งนี้ได้มุ่งมั่นประกอบพิธีรวม 9 วาระมหามงคล เพื่อให้บังเกิดความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ชนิดมิอาจประมาณได้ นอกจากเนื้อหาภายในจะมีความศักดิ์สิทธิ์ทุกอนุเนื้อ ภายนอกยังได้เคลือบทัพพลังพุทธาคมอย่างเข้มทรงพลังหลายวาระ ซึ่งจะส่งผลให้วัตถุมงคล รุ่น “9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์” (หลักเมือง รุ่นพิเศษ) นี้บรรลุถึงความเป็นวัตถุมงคลกฤตยาคมแฝด ซึ่งโบราณจารย์เรียกขานกันว่าดีตั้งแต่เนื้อในยันผิวนอก เข้มขลังไม่มีวันเสื่อม

วาระที่ 1 ได้ประกอบพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณหลวงพ่อทอด เมื่อวันที่ กุมภาพันธ์ 2549 เวลา 08.19 น. ณ ศาลาหลวงพ่อทวด วัดท่าแพ (สถานที่ซึ่งหลวงพ่อทวดผูกแพกลางน้ำเพื่ออุปสมบท)

วาระที่ 2 ได้ประกอบพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณหลวงพ่อทวด เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา 13.19 น. ณ ศาลาหลวงพ่อทวด วัดเสมาเมือง (สถานที่ซึ่งหลวงพ่อทวด เมื่อครั้งเป็นสามเณร ได้มาศึกษาพระธรรมวินัย)

วาระที่ 3 ได้ประกอบพิธีบวงสรวงขออนุญาติ หน้าสถูปเจดีย์ ณ วัดช้างให้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2547


วาระที่ 4 ประกอบพิธีบวงสรวงปลุกเสกปรุงยาวาสนามหาจินดามณีต่อหน้าเบื้องพระพักตร์องค์พระพุทธปฏิมาโดยพระอาจารย์สมพงษ์ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร เป็นเจ้าพิธีกรรมฝ่ายสงฆ์ และอาจารย์ เอกวิทย์ ยอดระบำ ศิษย์เอก พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธีกรรมฝ่ายฆราวาส ณ วิหารหลวงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ในวันที่ 20 มีนาคม 2549

วาระที่ 5 ประกอบพิธีบวงสรวงเทพยดา เปิดพิมพ์พระผงยาวาสนามหาจินดามณีนำฤกษ์ และเททอง รูปเหมือนหลวงพ่อทวดนำฤกษ์ รวมทั้งเททองโลหะชนวนทุกเนื้อคือ ทอง นาก เงิน นวโลหะ ฝ่าบาตร ทองแดง เพื่อนำชนวนเนี้อไปจัดสร้างเหรียญ ทุกแบบพิมพ์ (เป็นการปลุกเสกเนื้อใน) ณ วัดหน้าพระบรมธาตุ ในวันที่ 23 มีนาคม 2549

วาระที่ 6ประกอบพิธีพุทธาภิเษกเป็นปฐมฤกษ์ ณ ศาลหลักเมือง จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2549

วาระที่ 7 ประกอบพิธีปลุกเสกกลางทะเล ที่ปากน้ำชุมพร สถานที่ซึ่งหลวงพ่อทวดจุ่มเท้าเหยียบ น้ำทะเลจืด ในวันที่ 4 มิถุนายน 2549

วาระที่ 8 ประกอบพิธีบวงสรวงพุทธาภิเษก ณ สำนักวัดเขาอ้อ ในวันที่ 8 มิถุนายน 2549

วาระที่ 9 ประกอบพิธีบวงสรวงสมโภชพุทธาภิเษกกลางหาว รับแสงสุริยันจันทรา ณ วัดหน้าพระบรมธาตุ ในวันที่ 10 มิถุนายน 2549
เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าปัจจุบันนี้วัตถุมงคลที่นับเป็นสุดยอดแห่งเมืองทักษิณที่มีผู้แสวงหากันอย่างกว้างขวางในค่านิยมที่สูงยิ่ง คือ พระหลวงพ่อทวดเนื้อว่านพิมพ์เตารีด ปี 2497 หรือ แม้กระทั่งพิมพ์อื่นๆ ซึ่งสร้างในลำดับต่อมายุคสมัย พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ สำหรับวัตถุมงคลในยุคหลังไม่ถึงยี่สิบปีที่กำลังโด่งดังค่านิยมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีผู้ศรัทธา เสาะแสวงหากันอย่างกว้างขวางคือ พระผงสุริยัน จันทราท้าวจตุคาม-ท้าวรามเทพ ปี 2530 และเหรียญพระปิดตาพังพะกาฬ ปี 25322532 วัตถุมงคลหลักเมือง ที่ค่านิยมระดับ หลักแสนบาท ในปัจจุบัน ทั้งองค์ ท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ พังพะกาฬ และหวงพ่อทวดต่างมีผู้ศรัทธาเคาพรพบูชาขนานนามท่านว่า “พระโพธสัตว์แห่งอาณาจักรทะเลใต้”

วัตถุมงคลทรงคุณค่า รุ่น “ 9 รอบ 9 พิธี 108 ท่านขุนพันธ์” (หลักเมืองรุ่นพิเศษ) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญประการนี้จึงได้จัดสร้างย้อนตำนานวัตถุมงคลสามพระโพธิสัตว์ผู้มากด้วยบุญญาบารมี ด้วยความพิถีพิถันให้ทรงคุณค่าเปี่ยมไปด้วยความเลิศล้ำเข้มขลัง ทรงอิทธิอานุภาพ อันจะนำพาไปบูชาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อย่างสนิทใจ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1