(D)
คนในสมัยโบราณต่างเชื่อในเรื่องการทำไสยศาสตร์ หนึ่งในจำนวนของที่ทำให้เกิดเรื่องมากที่สุดนั้นก็คือน้ำมันพราย
น้ำมันพรายถือเป็นทั้งของสูงและของต่ำ แล้วแต่เจตนาในการปรุงแต่งไปใช้ อย่างเช่นในพิธีชุบพระแสงดาบของกษัตริย์ เพื่อให้มีเดชาประกาสิต พวกอาจารย์ใหญ่ๆทางอยุธยาจะเขียนอักขระด้วยผงฝุ่นที่ทำพิธีปลุกเสกลงบนพระแสงดาบเผาจนเหล็กแดงแล้วนำไปชุบในน้ำมันผี ตัวอักขระจะนูนขึ้น แล้วนำไปล้างออกด้วยน้ำที่เกิดขึ้นเองในเศียรพระวัดตูม การจะเอาน้ำมันผีก็คือ ผู้ทำจะจ้างวานสัปเหร่อแอบขุดผีตามหลุมในป่าช้า ตัดหัวผีออกเอาไต้จุดไฟลนที่คาง น้ำมันในสมองจะไหลลงมาที่คางแล้วรองใส่ขวด แต่ถ้าจะทำเสน่ห์ต้องผีตายโหงเท่านั้น น้ำมันพรายจะมีสองชนิด ชนิดหนึ่งใช้ทำเสน่ห์ ในสมัยก่อนใช้เป็นเครื่องมือของพวกไอ้หนุ่มคลั่งรักที่ไม่มีทางที่จะได้หญิงนั้นมาครอบครอง อีกอย่างใช้ทำให้คนเป็นบ้า ชนิดที่ทำเสน่ห์ผสมน้ำมันจันน์มากและเข้าพิธีคาถาอาคมทางไสยศาสตร์ครบครัน ส่วนทำให้เป็นบ้านั้นใช้น้ำมันผีมากๆใช้น้ำมันหอมน้อย และไม่ได้ลงเลขยันต์อะไรเลย น้ำมันพรายแท้ๆจะมีพิษร้าย หมอเขาว่าถ้าจะเอาไปทาเนื้อใครมันจะแทรกซึมเข้าขุมขนโดยเร็วแล้วเข้าเส้นโลหิต เส้นโลหิตนั้นต้องการโลหิตที่สะอาด ครั้นเมื่อน้ำมันพรายเข้าไปปะปน เลือดมันจะไม่บริสุทธิ แล้วคนคนนั้นจะมีอาการคุ้มคลั่ง คุมดีคุ้มร้ายตลอดไป นานเข้าอาจบ้าคลั่งจนถึงตาย คนที่จะใช้น้ำมันพรายจะต้องจัดการป้องกันตัวก่อนโดยใช้ปูนกินกับหมากละลายน้ำทามือ ทาแขนเพื่อปิดรูขุมขนก่อนจึงจะปลอดภัย ในปัจจุบันสังคมเจริญทางด้านวัตถุ ความมักได้ในกามทวีกำลังมากขึ้น......
ความเชื่อในเรื่องการทำน้ำมันพรายที่ซุกอยู่ในซอกหลืบของความเจริญ อาจกลับมาเป็นวิธีทางเลือกของไอ้หนุ่มคลั่งรักในปัจจุบัน พวกคุณจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าน้ำมันผีพรายนั้นดีเลวแค่ไหน..... เมื่อวันใดที่มันตกมาอยู่ในมือคุณ
(เด็ก อายุต่ำกว่า 15 ผู้ใหญ่เกิน 45 ห้ามอ่าน) |