 (D)
พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตฺตโม
หลวงพ่อสาคร มนุญฺโญ วัดหนองกรับ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
คติความเชื่อแห่งโบราณจารย์ที่สืบต่อกันมาเกี่ยวกับ พระปิดตามหาอุตม์ ซึ่งมีลักษณะเป็นพระปิดตาหลายมือยกขึ้นปิดทวารทั้ง ๙ นั้น ท่านให้ความหมายไว้เป็นสองนัย กล่าวโดยนัยแรกหมายถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในขณะที่ทรงเข้านิโรธสมาบัติเรียกว่า ภควัม ซึ่งเป็นการปิดเสียซึ่งการรับรู้สำรวมแห่งอายาตนะภายนอกและภายในทั้งหลาย จิตจึงดำรงอยู่ในความสงบอย่างยิ่ง ส่วนนัยยะที่สองนั้นท่านหมายถึงพระภควัมปติเถระซึ่งเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในสมัยพุทธกาล พระภควัมบดี หรือ พระมหากัจจายนะ นั้น ไม่ใช่รูปสมมติแทนองค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้า คำว่า "ภควัมบดี" หรือ "ภควัมปติ" แปลว่า "ผู้มีความงามละม้ายเหมือนพระผู้มีพระภาคเจ้า" อันเป็นอีกนามหนึ่งของ พระมหาสังกัจจายนะ หนึ่งในพระสาวกผู้ทรงเอกทัคคะ (เป็นเลิศ) ๘๐ รูป ของพระพุทธองค์ พระควัมปติเถระมีคุณวิเศษมาก มีความเป็นเลิศทางการย่อพระธรรมคัมภีร์ให้สั้นลง และอธิบายความหมายให้ผู้ฟังเข้าใจได้อย่างละเอียดแจ่มแจ้ง รูปเคารพนิยมเป็นรูปปิดตาบ้าง พระปิดทวารทั้ง ๙ บ้างนั้น เป็นอุปเท่ห์หมายถึง ตอนที่พระภควัมปติเถระท่านกำลังเข้านิโรธสมบัติ ทวารทั้งเก้าก็จะปิดสนิท ไม่ยินดียินร้ายกับกิเลสทั้งหลาย หมายถึงดับสนิท อาสวะกิเลสต่างๆ ไม่อาจที่จะเข้ามาแผ้วพานได้เลย จากมูลเหตุนี้เอง โบราณจารย์ต่างๆ ท่านจึงสร้างรูปเคารพ เป็นรูปพระปิดตา (คือมีมือคู่เดียวมาปิดที่หน้า) บ้าง เป็นรูปพระปิดทวารทั้ง ๙ บ้าง และโดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นพระปิดตาก็จะปลุกเสกให้เด่นไปทางเมตตามหานิยม โชคลาภโภคทรัพย์ แต่ถ้าเป็นพระปิดทวารทั้ง ๙ ก็จะปลุกเสกให้เด่นไปทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีและแคล้วคลาด พระปิดทวารทั้ง ๙ ที่นิยมกันมากก็คือพระปิดทวารของหลวงปู่ทับวัดทอง พระปิดทวารของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง พระปิดทวารของหลวงปู่จัน วัดโมลี พระปิดทวาร หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ พระปิดทวาร วัดพะเนียงแตก พระปิดทวาร หลวงพ่อปล้อง วัดหลุมดินเป็นต้น |