ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ขอคำแนะนำ เรื่องพระรอด วัดพระสิงห์ เชียงใหม่ ........................

(D)
ขอคำแนะนำ เรื่องพระรอด วัดพระสิงห์ เชียงใหม่ ........................

ยุคไหน
การดู การสังเกตอย่างง่ายๆ
เนื้อ


โดยคุณ ศักรินทร์ (590)  [พ. 30 มิ.ย. 2547 - 18:23 น.]



โดยคุณ Punchai (1)  [พฤ. 01 ก.ค. 2547 - 08:45 น.] #355 (1/11)
พระรอดวัดพระสิงห์ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2496 เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการสร้างพุทธสถานในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้กระทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่28 พฤษภาคม พ.ศ.2496 เวลา 11.45 น. และในเดือนเดียวกันนั้นเอง ตรงกับวันขึ้น10ค่ำ เดือน7 ปีมะเส็ง จัตวาศก จุลศักราช 1315 เริ่มพิธีเวลา 9นาฬิกา 21นาที 41 วินาที และเริ่มจุดเทียนชัยเวลา 19.20 น. โดยมีพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เป็นประธาน ประกอบพิธีมหามงคล ตามกำหนดพระรอดชุดนี้มีกำหนดการสร้างจำนวน 84,000 องค์ เพื่อนำรายได้สมทบทุนสร้างพุทธสถาณเชียงใหม่ แต่เนื่องจากเป็นพระที่ทำเยอะอีกทั้งเวลาในการเตรียมการก็มีน้อย ทำให้เมื่อใกล้ถึงวันพิธีกดพิมพ์พระได้ไม่ครบตามจำนวน 84,000 องค์(ได้ประมาณ 64,000-74,000 องค์ ไม่แน่ชัด) ดังนั้นจึงหาทางแก้โดยการเหมาพระรอดที่มีขายทั่วไปในยุคนั้น มาเข้าพิธีเพิ่มให้ครบตามจำนวน 84,000 องค์ วัสดุในการสร้างใช้ดินบริเวณทิศเหนือของวัดพระคง จังหวัดลำพูน ซึ่งเชื่อกันว่าพระรอดมหาวันในสมัย จามเทวีวงศ์ก็ใช้ดินบริเวณนี้สร้าง จึงทำพิธีตั้งศาลเพียงตาอารธนาขอจากพระพุทธรูปและอารักษ์ที่รักษา ดินแดนแห่งนั้น จากนั้นขุดลงไปเพียง 3 ศอก ก็พบดินขวยปูตามที่ต้องการ ลักษณะดินละเอียดเหนียว เมื่อนำมาสร้างพระแล้วแกร่งและสวยงามมาก เมื่อได้ดินที่ต้องการแล้วก็ให้ อ.ผู้ทรงคุณวุฒิละลายดินด้วยน้ำพระพุทธมนต์ แล้วนำมากรองด้วยผ้าขาว เก็บผงดินที่ละเอียดเหมือนแป้งมาผสมกับผงพระธาตุ ผงพระเปิม ผงพระเลี่ยง ผงพระคง ผงพระรอด ผงสมเด็จบางขุนพรหม ผงตรีนิสิงเห ผงปัทมัง ผงพุทธคุณ และผงอิทธิเจของพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า เช่นหลวงปุ่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อผสมจนเข้าเนื้อเดียวกันแล้วก็ปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดเท่าผลส้ม ส่งลงมากรุงเทพ ให้อ.ฉลอง เมืองแก้ว(อ.ขมังเวทย์) เป็นผู้ทำพิธีใส่ธาตุ แล้วนำกลับสู่เมืองลำพูน เพื่อให้ช่างพิมพ์องค์พระออกมาซึ่งมีทั้งหมด 11 พิมพ์ เมื่อถึงเวลาฤกษ์ พระมหาราชครูวามมุณี กับท่านพราหมณ์พระครูศิวาจารย์แห่งกรุงเทพ เป็นประธานฝ่ายพราหมณ์ มหาปัญจพิธีโอมอ่านศิวะเวทย์อัญเชิญท้าวเทพยดาทั้งหลายที่สิงสถิตในแผ่นดินล้านนา อัญเชิญพระวิญญาณ เจ้าแม่จามเทวีและกษัตริย์ทุกพระองค์ เมื่อจุดเทียนชัย พระมหาราชครูอ่านโองการชุมนุมเทวดา เสร็จแล้วพราหมณ์เป่าสังข์ จบแล้วคณาจารย์ทั้งหมดนั่งปรกบริกรรม ปลุกเศกเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน

.....คณาจารย์ที่ร่วมกันปลุกเสกมีมากมายหลายท่าน เช่น....
เจ้าคุณศรีสมโพธิ์ วัดสุทัศน์
เจ้าคุณศรีสุวรรณวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดลำปาง
หลวงปุ่นาค วัดระฆัง
หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์
หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงพ่อภักดิ์ วัดบึงทองหลาง
หลวงพ่อทบ วัดเขาชนแดน
หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง
หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ
หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว
หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน
ฯลฯ

ในขณะทีทำพิธีบวงสรวงเจ้าแม่จามเทวี มีฝูงผีเสื้อเป็นจำนวนมากบินมาอยู่เหนือเครื่องสังเวย แล้วกระจายบินหายไป คืนที่กระทำพิธีฟ้าคะนองตลอด เกิดแสงแปลบปลาบทั่วท้องฟ้า อากาศเยือกเย็นผิดจากวันอื่นๆ ส่วนคณาจารย์ทั้งหลายต่างเกิดนิมิตรเป็นมงคลต่างๆกัน น่าอัศจรรย์ยิ่ง
ประสบการณ์ของพระรอดวัดพระสิงห์ ก็เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน เช่นในคราวที่เกิดสงครามเวียดนาม ประเทศไทยได้ส่งทหารไปร่วมรบกับอเมริกา ส.อ.ธาริน แสงศิริ ได้ถูกส่งตัวไปร่วมรบด้วย ( กองพันเสือดำ ) ซึ่ง ส.อ.ธาริน ได้เล่าว่า ได้รับพระรอดรุ่น 96 จากบิดา คล้องคอไปเพียงองค์เดียว เมื่อได้รับมอบหมายให้ออกลาดตระเวณ ขากลับขณะกำลังกลับเข้าข่าย ก็โดนระเบิด และ ถล่มยิงด้วยอาวุธหนักของเวียดกง ชนิดที่ว่าไม่ได้ตั้งตัว ส.อ.ธาริน บอกว่าขณะกำลังล้มตัวลงเพื่อยิงต่อสู้ ได้เห็นเพื่อนทหารร่วมกองลาะตระเวณโดนอาวุธของเวียดกง ล้มตายกันเกลื่อนกลาด มารู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเตียงในโรงพยาบาลแล้ว ร่างกายไม่มีบาดแผล แต่ปรากฏรอยช้ำเป็นจุดๆ ทั่วร่างกาย นี่ล่ะครับ ประสบการณ์ที่ฟังแล้วขนลุกจริงๆ นี่ถ้า สอ.ธารินไม่ได้บูชาพระรอด วัดพระสิงห์แล้ว ป่านนี้จะเป็นอย่างไรผมไม่อยากคาดเดา

โดยคุณ Punchai (1)  [พฤ. 01 ก.ค. 2547 - 08:46 น.] #356 (2/11)
สำหรับรูปนั้นต้องขอโทษจริงๆ ที่เครื่องผมนั้น add ไฟล์รูปไม่ได้ตอนนี้ แต่ไปเปิดดูได้ที่ http://www.soonphra.com/board/index.php?act=ST&f=4&t=7595&s=500aa26ea2cd1e5a47f2aa282961710d นะครับ

โดยคุณ Punchai (1)  [พฤ. 01 ก.ค. 2547 - 08:50 น.] #357 (3/11)
วิธีการดูน่ะเหรอครับ?
1. มีทั้งหมด 11 พิมพ์
2. เนื้อที่เบสิคที่สุดก็คือเนื้อเขียวครับ หาได้ทั่วไป และดูได้แบบง่ายๆ ที่หายากจะเป็นเนื้อแดง เนื้อขาว-ชมพู
3. เนื้อพระท่านเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้วล่ะครับ ....อันนี้ก็พูดยากเพราะว่าแต่ละเนื้อนั้นเนื้อพระจะไม่ค่อยคล้ายกันเท่าไหร่ ....ทางที่ดีควรจะหาเช่าองค์แท้ๆ มาไว้ดูเป็นครูสักองค์สององค์นะครับ
4. จดจำลักษณะใบหน้า ลำตัวพระ โพธิ์ และฐานให้ขึ้นใจ......
5. ภาพที่ผมทำลิ้งให้ไปนั้น ถ้าดูจากฐานจะไม่ใช่พิมพ์ที่นิยมเล่นกันนะครับ...จะเป็นอีก 3 ใน 11 พิมพ์ที่เหลือ

โดยคุณ Punchai (1)  [พฤ. 01 ก.ค. 2547 - 09:51 น.] #358 (4/11)
เช่าองค์นี้ก็ได้นะครับ http://www.g-pra.com/clubs/productdetail.php?pid=G008-011 เป็นพิมพ์กลางเนื้อธรรมดา แต่เป็นพิมพ์นิยมครับและพิมพ์นี้มีมากด้วย ราคาก็ถูกกว่าพื้นที่นะครับ ถ้าเป็นพื้นที่ล่ะก็ราคานี้ไม่ได้แน่นอนครับ

โดยคุณ olympia (3.8K)  [พฤ. 01 ก.ค. 2547 - 10:39 น.] #359 (5/11)
ให้ความกระจ่างมากครับ

โดยคุณ kiku-jung (7)  [ศ. 02 ก.ค. 2547 - 13:33 น.] #364 (6/11)
เป็นความรู้เพิ่มเติมใหม่จริง ๆ ครับ เยี่ยมมากเลยครับ

โดยคุณ หมอเมืองเพชร  [ศ. 02 ก.ค. 2547 - 16:13 น.] #371 (7/11)
เยี่ยมครับ

โดยคุณ ศักรินทร์ (590)  [อา. 04 ก.ค. 2547 - 16:10 น.] #377 (8/11)


ขอบพระคุณมากครับ

พอ คลำทางได้แล้วครับ


โดยคุณ แบงค์7วัด (1.3K)  [ศ. 26 พ.ย. 2553 - 19:56 น.] #1417645 (9/11)
http://www.7wat.com

โดยคุณ เห่าดง (139)  [จ. 22 ส.ค. 2554 - 10:42 น.] #1809152 (10/11)
ทดสอบ 1
ทดสอบ 2

โดยคุณ suwit (326)  [ศ. 01 มี.ค. 2556 - 01:33 น.] #2713214 (11/11)
http://www.oknation.net/blog/dhammayos/2011/04/26/entry-2

http://www.pralanna.com/boardpage.php?topicid=8953

http://www.pralanna.com/boardpage.php?topicid=36727

http://bangkoknoi25.blogspot.com/2012/01/2496-2.html

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1