 (N)

ควายธนู พระครูมงคลประภาต (แสง จนฺทวณฺโณ) วัดประเวศน์ภูผา(บ้านตรัง) ต.ตรัง อ.มายอ จ.ปัตตานี...พ่อท่านแสง ท่านมีนามเดิมว่า แสง นามสกุลแก้วทอง เกิดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2462 บิดาชื่อนายบุญทอง มารดาชื่อนางแมะ แก้วทอง อุปสมบทเมื่ออายุ 21 ปี ที่วัดประเวศน์ภูผา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2483 โดยมีท่านพระครูสุวรรณไพบูลย์ (จันทร์ทอง)เจ้าอาวาสวัดตะเคียนทอง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบวชแล้วได้อยู่จำพรรษาที่วัดบ้านตรัง หมั่นศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด จนสามารถสอบได้นักธรรมเอกในเวลาไม่นานนัก ตลอดถึงยังได้ศึกษาเวทย์มนต์ คาถาอาคมจากพ่อท่านทองแก้ว พระสงฆ์ผู้ทรงศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดบ้านตรัง และไม่ลืมที่จะหาเวลาเดินทางไปกราบสักการะเยี่ยมเยียนองค์อุปัชฌาย์พ่อท่าน จันทร์ทอง อยู่เสมอ พ่อท่านจันทร์ทอง อริยะเถราจารย์อาคมขลังแห่งวัดตะเคียนทอง ปัตตานี เป็นพระผู้ทรงแก่เรียน อุดมไปด้วยมหาบารมี เวทย์วิทยาคมของท่านเป็นที่เลื่องลือไปไกลทั้งพุทธศาสนิกชนหรือศาสนิกต่าง ศาสนาให้ความยอมรับ พ่อท่านแสง ท่านหมั่นไปกราบพ่อท่านจันทร์ทองและศึกษาวิชาอาคมมาจากองค์อุปัชฌาย์ของท่าน มาอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง พ่อท่านแสงท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของพ่อท่านหวาน วัดลานควาย พระอริยะเถราจารย์แห่งเมืองใต้ ผู้สร้างพระปิดตาอันโด่งดังประสบการณ์มากมาย ตลอดถึงท่านเป็นพระสหายกับพ่อท่านแดง วัดบูรพาราม ยอดพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณอีกรูปหนึ่งของเมืองปัตตานี ท่านแลกเปลี่ยนภูมิรู้ ภูมิธรรมกันเสมอมา เมื่อครั้งยังเป็นภิกษุหนุ่ม ท่านมีความคิดที่มุ่งมั่นและตั้งใจที่จะบูรณะวัดบ้านตรังและสร้างเสนาสนะ ถาวรวัตถุต่างๆ ท่านจึง นำพาชาวบ้านและเพื่อนภิกษุไปเลื่อยไม้ เพื่อนำมาสร้างหอพระไตรปิฏก ศาลาโรงธรรมและโรงครัว ท่านเป็นพระนักพัฒนา นำพาชาวบ้านสร้างศาลากลางทุ่งนาเพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนชองชาวบ้าน ในการทำนาตลอดถึงเป็นผู้นำชาวบ้านในการทำถนนหนทางไปสวน ไปนา เพราะในอดีตนั้นการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ยวดยานพาหนะไม่ต้อง ต้องใช้การเดินเท้าเท่านั้น ท่านมุ่งมั่นตั้งใจนำพาชาวบ้านพัฒนาวัด พัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่องมี ผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมายจวบจนพ.ศ.2487 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดประเวศน์ภูผา(บ้านตรัง) ตลอดชั่วชีวิตท่านได้สร้างคุณประโยชน์ต่อชาวบ้านตรังมากมายซื้อที่ดินมอบให้ สร้างโรงเรียนบ้านตรังเพื่อเป็นสถานที่ศึกษาของเหล่าลูกหลานในละแวกนั้น นับเป็นประโยชน์อย่างสูงที่ลูกหลานบ้านตรังได้รับ พ่อท่านแสง ท่านเป็นพระบริสุทธิ์สงฆ์ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านตรังตลอดถึง พื้นที่ใกล้เคียงด้วยวัตรปฏิบัติที่เรียบง่าย ดำรงตนอยู่อย่างสมถะเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เจริญรอยตามครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัดตามแบบฉบับพระโบราณ นอกจากท่านจะเป็นพระนักพัฒนาแล้ว ท่านยังสืบทอดสายวิชา อาคมขลังมาจากครูบาอาจารย์ต่างๆมากมายหลายองค์ ท่านสืบทอดวิชา”นะปถมัง”และ”นะปัดตลอด”มาจากสุดยอดพระเถราจารย์แห่งเมืองปัตตานีนามพ่อท่านจันทร์ทอง วัดตะเคียนทอง เทพเจ้าแห่งยะหริ่ง ท่านศึกษษเล่าเรียนวิชามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง องค์อุปัชฌาย์ ของท่านมาอย่างเจนจบครบถ้วน ท่านจึงมีความสามารถเขียนอักขระเลขยันต์ ลบถบ ทำผงนะปถมังและนะปัดตลอดได้อย่างเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ประดุจดังองค์อาจารย์ ของท่าน นอกจากที่ท่านศึกษามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง แล้วท่านยังได้ศึกษาวิชาอาถรรพณ์โบราณมาจากพ่อท่านไชย อดีตเจ้าอาวาสของวัดบ้านตรังอีกมากมาย ทั้งจากตำรับตำราโบราณของคู่วัดบ้านตรังที่สืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่องและยาว นาน โดยเฉพาะวิชาสั่งสูญ(ธนูสั่ง) วิชาสั่งสูญเป็นยอดวิชาชั้นสูงที่หาผู้สืบทอดและปฏิบัติได้จริงน้อยมาก สมาธิจิตที่กล้าแข็งผนวกพลังจิตสุดอัศจรรย์ กับการภาวนากำกับอักขระเลขยันต์คาถาอาคมขลังลงสู่ลูกธนู ก่อนที่จะยิงออกไปให้ถูกต้องตามที่ต้องการ วิชากายะพัน มหาอุดหยุดปืนเป็นอีกสรรพวิชาโบราณที่ท่านมีความเชี่ยวชาญและทำได้ขลังนัก ผู้นำไปบูชาต่างมีประสบการณ์มากมาย อุปเทห์วิธีใช้หากพาดทางซ้ายอุดมไปด้วยเมตตามหานิยม พาดทางขวาเป็นมหาอุดหยุดปืน แคล้วคลาดคงกระพันชาตรี ตลอดถึงวิชาอาถรรพณ์ผูกหุ่นพยนต์ ควายธนูท่านก็เชี่ยวชาญเข้มขลังยิ่งนัก อีกทั้งวิชาอาถรรพณ์ส่งผี แก้ชิน แก้มบ เหยียบเสน(ปาน) เจ็บป่วย ไข้ ไม่สบายหาสาเหตุไม่เจอ เป็นต้องมาหาท่านให้ช่วยรักษา เพราะการที่จะเดินทางไปยังโรงพยาบาลนับเป็นเรื่องใหญ่ของชาวบ้านย่านนั้น และต่อมาท่านได้เรียนวิชาอุดปืน จาก พ่อหลวงพุม และเรียนวิชาเมตตามหานิยมใหญ่ วิชาเสกทรง จากพ่อหลวงสีนวล วัดบ้านตรัง วิชาเบิกป่า เปิดไพร ปิดป่าจากพ่อหลวงทอง วัดบ้านตรัง จะเห็นได้ว่า วัดบ้านตรังไม่เคยขาดซึ่งพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษ มหาอาคมขลัง เปรียบประดุจดังตักศิลาแห่งหนึ่งของเมืองปัตตานี และพ่อท่านยังมีดี สืบสายวิชาทางด้านมโนราห์ โดยได้ศึกษาจาก โนรานุ่ม โนรานิ่ม โนราแคล้ว ซึ่งมีชื่อเสียงมากในขณะนั้นในหัวเมืองปัตตานี ได้ศึกษาเรียนวิชาสืบทอดมหามนต์แห่งมโนราห์ มาอย่างเจนจัด วิชาเสกหวาย วิชามงกุฎพระพุทธเจ้าวิชาหุงสีผึ้งเมตตามหานิยม วิชาทำเชือกครองหงส์ วิชาคันธนูพรานบุญ เรียกได้ว่าครบถ้วน ท่านจึงเป็นพระเถราจารย์ที่ลูกหลานมโนราห์ต่างให้ความเคารพนับถือแลศรัทธาเป็นที่สุด สายวิชามโนราห์นั้นว่ากันว่าเป็นยอดแห่งเมตตามหานิยมอย่างเอกอุ เครื่ององค์ ทรงเครื่อง แต่งกายทุกครั้งต้องเสกคาถาภาวนามนต์ตรา แป้งที่ใช้ผัดหน้า ทาตัวต้องเสกด้วยคาถา ว่ามนต์ลงอักขระเลขยันต์ วิชาสายมโนราห์เป็นอีกสายวิชาที่แน่น แรง ลึก เด็ดขาดเป็นที่ประจักษ์ชัดมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน พ่อท่านแสง เป็นพระบริสุทธิ์สงฆ์ วาจาสิทธิ์นักพัฒนา ผู้ทรงแก่เรียนแม้ว่าท่านจะสืบสายวิชามาอย่างมากมายแต่ท่านไม่เคยอวดอ้าง คุณวิเศษ ซึ่งหากท่านคิดอย่างเด่นดังทางด้านนี้รับรองว่าทุกวันนี้ชื่อเสียงบารมีท่าน คงดังสะท้านไปทั่วแผ่นดิน ท่านยังคงดำรงตนอยู่อย่างสมถะเรียบง่าย เป็นที่พึ่ง เป็นหลักธรรมหลักชัยของพุทธศาสนิกชนท่ามกลางความไม่สงบของเหตุการณ์ไฟใต้ที่ คุกรุ่นในปัจจุบัน วัตถุมงคลต่างๆท่านสร้างขึ้นมาเพื่อสืบทอดวิชาตามที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาและ เมตตามอบให้กับศิษยานุศิษย์นำไปบูชาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต และย้ำเสมอให้อยู่ศีลธรรมอันดีงาม ทุกวันนี้แม้วัยจะล่วงเลยมาถึง 94 ปีแล้วแต่ท่านยังคงแข็งแรง ปฏิบัติศาสนากิจอย่างเคร่งครัด อีกหนึ่งเกจิอาจารย์สายใต้ที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ...(ขอบคุณพี่เพชร สำหรับข้อมูล) |