 (N)

สำนักสงฆ์ต้นเลียบ (บ้านเกิดและสถานที่ฝังรกหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด)
ตำนานที่มีหลักฐานปรากฏอยู่จริงบนคาบสมุทรสทิงพระ
ต้นเลียบ เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ อยู่ในตระกูลเดียวกับต้นโพธิ์ วัดโดยรอบแล้วมีลำต้นประมาณ 21 เมตร
เป็นต้นไม้ที่อายุยืนยาวมานานแต่อดีตกาลนับได้ 400 กว่าปี ปัจจุบันนี้ยืนเด่นตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขา ให้ร่มเงา และความร่มรื่น
อยู่ภายในสำนักสงฆ์ต้นเลียบ ควบคู่ไปกับเจดีย์ที่ฝังรกของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งถือกันว่าเป็นต้นไม้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ใน
แถบภูมิภาคนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าจะลบหลู่ เป็นต้นไม้ที่สำคัญในตำนานเกี่ยวกับหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
ตามประวัติเล่ากันว่า เมื่อนายหู และนางจันทร์ ได้ให้กำเนิดลูกชาย (หลวงปู่ทวด) นายหู ก็ได้นำ รก
มาฝังไว้ที่โคนต้นเลียบด้านทิศเหนือ ปัจจุบันนี้ก็คือ สำนักสงฆ์ต้นเลียบ ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
อยู่ห่างจากวัดพะโคะเพียงแค่ 2 กิโลเมตร
กาลก่อนบริเวณต้นเลียบแห่งนี้ ได้กลาย
สภาพเป็นที่รกร้าง เนื่องจากขาดผู้ดูแล มีบรรดาสรรพสัตว์น้อยใหญ่มาอาศัยเป็นที่หวาดกลัว จนบรรดาชาวบ้านไม่กล้าเข้ามาในบริเวณนี้
จวบจนท่าน อาจารย์แก้ว พุทธมุนี เจ้าอาวาสวัดดีหลวงสมัยนั้น ได้รวบรวมพระเณร และชาวบ้านในละแวก
ใกล้เคียง เข้ามาพัฒนาต้นเลียบ จนดูสะอาดร่มรื่น ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุ-สามเณร จนกระทั่งท่านมรณภาพ
เมื่อปี พ.ศ.2497 ได้มีสัปปุรุษ 2 ท่าน เดินทางมาจากถ้ำน้ำร้อน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง คือ สัปปุ
รุษช่วง กับสัปปุรุษเนื่อง มาทำธุระที่วัดดีหลวง หลังเสร็จธุระแล้วทั้งสองก็เตรียมตัวกลับถ้ำน้ำร้อน แต่กลับไม่ได้เนื่องจากในขณะนั้นท้อง
ทะเลบังเกิดคลื่นลมแรง ไม่มีเรือลำใดกล้าจะไปส่งแม่หลง และบิดาก็ได้นิมนต์ให้สัปปุรุษทั้งสองคน มาอยู่ประจำที่ต้นเลียบ เพราะเห็นว่า
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่สมควรจะปล่อยไว้ให้เป็นที่รกร้างเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ สัปปุรุษทั้งสองจึงรับปากและจำพรรษาอยู่ที่ใต้ต้น
เลียบ เป็นที่ยินดีของบรรดาชาวบ้านยิ่งนัก
สัปปุรุษทั้งสอง ได้ช่วยกันร่วมแรงร่วมใจกับ
ชาวบ้านก่อสร้างศาสนวัตถุ ขุดบ่อน้ำก่อด้วยอิฐดินเผาโค้ง สร้างพระประจำวัน นำมาประดิษฐานไว้รอบโคนต้นเลียบ ที่ฝังรกของหลวง
ปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด (ผู้ที่สร้างพระประจำวันสมัยนั้นเท่าที่สืบรู้ ก็คือ ตาขำ ศิริพร, ตาช่วงแก้ว, ลุงเคว็จ นัคราบัณฑิต, ตาพลับ
พรหมอ่อน)
ภายหลังสัปปุรุษเนื่องได้ขอตัวกลับไปอยู่ที่
ถ้ำน้ำร้อน อำเภอเขาชัยสน ยังคงแต่สัปปุรุษช่วง ได้นำชาวบ้านสร้างเจดีย์ทรงลังกาองค์เล็ก นำมาประดิษฐานอยู่เหนือที่ฝังรกของหลวง
ปู่ทวด และยังได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทวด (ด้วยปูนซีเมนต์) อีก 1 องค์ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงปู่ทวดใต้ต้นเลียบ
ก่อนวันฉลองหลวงปู่ทวด เพียง 3 วัน สัปปุรุษช่วง ได้ขออุปสมบทที่ วัดดีหลวง โดยมีพระอธิการลั่น กาญจโณ
เป็นพระอุปัชฌาย์
ครั้งถึงเดือนยี่ ได้มีการฉลองศาลา เบิก
เนตรพระประจำวัน ทำพิธีพุทธาภิเษก นำวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดเข้ากรุ
จนล่วงมาถึงปี พ.ศ.2500 หลวงปู่จำเนียร
โชติธัมโม ระหว่างที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดพะโคะ ขณะนั่งเจริญสมาธิภาวนา ปรากฏดวงวิญญาณขององค์หลวงปู่ทวด มาปรากฏต่อหน้า
ท่านและได้ชี้มาที่ตัวท่านบอกให้ไปช่วงดูแลต้นเลียบ อันเป็นสถานที่ฝังรกขององค์หลวงปู่ทวด ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีผู้ใดดูแล มีสภาพที่
รกร้าง
เมื่อหลวงปู่จำเนียร โชติธัมโม มาจำพรรษา
ที่ต้นเลียบแห่งนี้แล้ว ก็ได้รวบรวมชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ทั้งบ้านวัดเล็ก บ้านเลียบ มาช่วยกันพัฒนาเพื่อให้เหมาะเป็นสถานที่
เจริญธรรม วิปัสสนากรรมฐาน
หลวงปู่จำเนียร โชติธัมโม ชาวบ้านเชื่อกันว่า
ท่านเป็นผู้ที่เมตตามหานิยม มีวาจาสิทธิ์ โดยท่านได้ศึกษาศาสตร์วิชาอาคมมาหลายแขนงจากสำนักเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง สามารถนำ
มาช่วยเหลือรักษาผู้ที่ถูกคุณไสยได้
ท่านสามารถหยั่งรู้ด้วยญาณวิเศษถึงวัน
มรณภาพของตัวเอง โดยบอกกล่าวกับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า ก่อนวันเข้าพรรษา 7 วันท่านจะละสังขารแล้ว และเมื่อถึงวันอาทิตย์ที่ 21
กรกฎาคม 2539 เวลา 21.20 นาฬิกา ท่านก็ได้จากไปอย่างสงบ แต่ยังคงทิ้งร่องรอยการปฏิบัติและคุณงามความดีไว้ให้คนรุ่นหลังได้
เจริญรอยตามและยึดเป็นเยียงอย่างรวมอายุท่านได้ 99 ปี 40 พรรษา
ปัจจุบันนี้สรีระสังขาร ของหลวงปู่จำเนียร โชติธัมโมกลายสภาพเป็นหิน บรรดาลูกศิษย์ และคณะกรรมการได้
เก็บไว้ในโลงแก้ว ที่สำนักสงฆ์ต้นเลียบ หมู่ที่ 1 ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา มีลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาเคารพนับถือ
และผู้ที่ท่านเคยช่วยเหลือต่างแวะเวียนเข้ามากราบไหว้สรีระของท่านอย่างต่อเนื่อง |