(N)
 ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
"กายใจ ชีวิต มอบเป็นราชพลี ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ กรมทหารราบที่ ๓ กองพลนาวิกโยธิน"
http://www.rtmtf.net/rgm3/about_us/index_1.html
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯจอมทัพไทย พร้อมด้วยเรือตรีสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ฯ(พระอิสริยยศขณะนั้น) ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร การฝึกยกพลขึ้นบกของกองทัพเรือ ณ หาดบ้านทอน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ในการฝึก ทักษิณ ๑๒ เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๑๒ การเสด็จพระราชดำเนินในวันนั้น ทั้งสองพระองค์ประทับที่รถสะเทินน้ำสะเทินบกพระที่นั่ง (LVTP MK-4) หมายเลข ๑๐๑ ทั้งสองพระองค์ทรงเครื่องในชุดเครื่องแบบฝึกทหารนาวิโยธิน ซึ่งเป็นชุดเขียวแขนยาว กระเป๋าด้านซ้ายปัก นาวิกโยธิน และทรงสพายพระแสงปืน M.16 ผู้บังคับรถสะเทินน้ำสะเทินบกพระที่นั่ง คือ เรือเอก ทรงพล วงศ์นิวัติขจร รองผู้บังคับกองร้อยรถขึ้นบก ในรถสะเทินน้ำสะเทินบกพระที่นั่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ตามเสด็จหลายท่าน เช่น พล.ร.อ.หม่อมเจ้า กาฬวรรณดิส ดิสกุล สรอ., พล.ร.อ.จรูญ เฉลิมเตียรณ ผบ.ทร., พล.ร.ท.โสภณ สุญานเศรษฐกร ผบ.นย., พล.ร.ต.จริง จุลสุขุม ผบ.กยบ. รถสะเทินน้ำสะเทินบกพระที่นั่งได้แล่นเกยหาดยกพลขึ้นบกทางขวาของช่องทางเรือเล็ก (BOAT LANE) ประมาณ ๕๐หลา เมื่อเวลา ๐๘๐๑ หลังจากรถสะเทินน้ำสะเทินบกคลื่นแรก ๙ คัน เกยหาด ๑ นาที (เวลา น. คือ ๐๘๐๐) ที่บริเวณหาดมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการฝ่ายบ้านเมืองรอเฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกรมนาวิกโยธินที่รอเฝ้ารับเสด็จ ฯ ด้วย คือ
น.อ.ยุธยา เชิดบุญเมือง (พล.ร.อ.อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ) เสนาธิการกรมนาวิกโยธินในขณะนั้น ในการฝึกครั้งนี้ทำหน้าที่เป็นผู้บังคับหน่วยประสานการฝึกทางบก เมื่อทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินลงจากรถสะเทินน้ำสะเทินบกพระที่นั่ง ก็ได้เสด็จประทับรถยนต์พระที่นั่งเพื่อทอดพระเนตรการยึดหัวหาดของหน่วยทหารนาวิกโยธิน (กำลังบกยกพลขึ้นบก) ที่บริเวณหาดยกพลขึ้นบก และทอดพระเนตรการฝึกดำรงชีพในป่าของกองร้อยลาดตระเวน ผู้ที่กราบบังคมทูลบรรยาย คือ ร.อ.วิสุทธิ พิทักษ์เขตต์ ผู้บังคับกองร้อยลาดตระเวนกองพันกองบังคับการ กรมผสมนาวิกโยธิน หลังจากนั้นทั้งสองพระองค์ทรงพระแสงปืน M.16 ที่สนามยิงปืนชายหาด และทรงมีพระราชดำรัสว่า"ทหารนาวิกโยธินควรจะมาอยู่ที่นี่"การเสด็จ ฯ ในวันนั้น ข้าราชการและประชาชนจังหวัดนราธิวาสมีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านเป็นล้นพ้น และมีความปรารถนาร่วมกันที่จะเห็นพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรม ณ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นมิ่งขวัญของชาวจังหวัดนราธิวาส และจังหวัดชายแดนภาคใต้สืบไป ในวันนั้นทั้งสองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับโดยเครื่องบินพระที่นั่งที่สนามบินบ้านทอน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ที่สนามบินบ้านทอนได้มีข้าราชการทหาร ตำรวจ และประชาชนมาส่งเสด็จ ฯ เป็นจำนวนมาก เมื่อ
น.อ.ยุธยา เชิดบุญเมือง เสนาธิการกรมนาวิกโยธิน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเข้าเฝ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ จึงได้กราบบังคมทูลพระกรุณาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรมที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นมิ่งขวัญของชาวจังหวัดนราธิวาส และชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้สืบไป ต่อมาสำนักพระราชวังได้สร้างพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ที่ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๔ เมื่อพระตำหนักเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรมตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๖
ระหว่างที่ทั้งสองพระองค์ประทับแรมอยู่ที่จังหวัดนราธิวาส ก็ทรงช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ ได้มีโครงการพระราชดำริหลายโครงการ และโครงการศิลปาชีพที่มีส่วนช่วยให้ประชาชนได้มีวิชาชีพ และให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่มีต่อประชาชนในจังหวัดภาคใต้ ร.อ.ทรงพล วงศ์นิวัติขจร ผู้บังคับรถพระที่นั่ง LVT MK- 4 หมายเลข ๑๐๑ ได้บันทึกเหตุการณ์สำคัญเมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๒ ตอนหนึ่งว่า ถ้าไม่มีวันนี้เราคงไม่มีโอกาสได้เห็นองค์พระประมุขของชาติอยู่ในชุดรบฝึกยกพลขึ้นบกร่วมกับทหารนาวิกโยธินของพระองค์ ผมรู้สึกอบอุ่นและภาคภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่ในวันนี้ การเสด็จ ฯ ของทั้งสองพระองค์ในวันนี้ ทหารนาวิกโยธินทุกคนรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านเป็นส้นพ้น นับเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งสำหรับทหารนาวิกโยธิน และกองทัพเรือ การฝึกยกพลขึ้นบกที่หาดบ้านทอน เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๒ ทำให้กองทัพเรือมีแนวความคิดที่จะจัดตั้งหน่วยกำลังทหารนาวิกโยธินขึ้นที่จังหวัดนราธิวาส ที่จังหวัดนราธิวาสนี้ กรมนาวิกโยธินได้เคยส่งหน่วยเฉพาะกิจมาปฏิบัติการทางทหารแล้ว ตั้งแต่เกิดความไม่สงบใน ๔ จังหวัดภาคใต้ พ.ศ.๒๔๙๓ โดยส่งหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินมาที่จังหวัดนราธิวาส เรียกหน่วยกำลังนาวิกโยธินหน่วยนี้ว่า กองพันนาวิกโยธินที่ ๖ กำลังส่วนนี้ได้ปฏิบัติการอยู่จนถึง พ.ศ.๒๔๙๔ จึงได้ถอนกำลังกลับ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๖ กองทัพเรือ ได้อนุมัติงบประมาณให้กรมนาวิกโยธินจัดซื้อที่ดินบริเวณหาดบ้านทอน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เพื่อจัดตั้ง กองพันทหารราบ กรมนาวิกโยธิน เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๘ พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ได้อนุมัติหลักการให้จัดตั้ง พัน.ร.๙ ผส.นย. เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๑ ได้จัดตั้ง กรมทหารราบที่ ๓ กรมนาวิกโยธิน ขึ้น ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๓ คนแรก คือ น.อ.มนัส ปิ่นกุลบุตร กรมทหารราบที่ ๓ มี ๓ กองพันทหารราบ คือ กองพันทหารราบที่ ๗ (จังหวัดระยอง) กองพันทหารราบที่ ๘ (จังหวัดสงขลา) และกองพันทหารราบที่ ๙ (จังหวัดนราธิวาส) วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๒๓ มีพระบรมราชานุญาตให้กองบังคับการกรมทหารราบที่ ๓ กรมนาวิกโยธิน และกองพันทหารราบที่ ๙ กรมทหารราบที่ ๓ กรมนาวิกโยธิน เป็นหน่วยทหารรักษาพระองค์ เมื่อปี ๒๕๒๓ น.อ.สงบ ศรลัมพ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๓, น.อ.มานิต ดีมาก รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๓ และ น.ท.ถาวร วัฒนารมย์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ ๙ รักษาพระองค์ ได้พิจารณาเห็นว่า ที่ตั้งของกองบังคับการกรมทหารราบที่ ๓ และกองพันทหารราบที่ ๙ รักษาพระองค์ ที่บ้านทอน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่สร้างขึ้นใหม่สมควรที่จะได้มีชื่อค่ายทหารว่า ค่ายจุฬาภรณ์ ทั้งนี้เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่หน่วย และเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ ร.ท.หญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ร.น. ในการที่พระองค์ท่านทรงเป็นนายทหารเรือหญิง พรรคนาวิกโยธิน พระองค์แรก
จากความคิดนี้ น.อ.สงบ ศรลัมพ์ จึงได้มีหนังสือถึง กรมนาวิกโยธิน เพื่อพิจารณาขอพระราชทานชื่อค่ายดังกล่าว ซึ่งท่านผู้บัญชาการกรมนาวิกโยธิน พล.ร.ท.ยุธยา เชิดบุญเมือง เห็นชอบด้วย และได้มีหนังสือถึงกองทัพเรือเพื่อพิจารณาขอพระราชทานชื่อ ค่ายจุฬาภรณ์ ซึ่งกองทัพเรือ และหน่วยเหนือ คือ กองบัญชาการทหารสูงสุด และกระทรวงกลาโหม ได้เห็นชอบตามลำดับ และเมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๒๔ ฯพณฯ รมช.กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.พะเนียง กานตรัตน์ ได้มีหนังสือกราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อนำกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานชื่อค่ายทหารของ กองบังคับการกรมทหารราบที่ ๓ รักษาพระองค์ กรมนาวิกโยธิน และกองพันทหารราบที่ ๙ รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ ๓ กรมนาวิกโยธิน ว่า ค่ายจุฬาภรณ์ เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า CHULABHORN CAMP จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๒๕ ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีหนังสือถึงกระทรวงกลาโหม ความว่า สำนักเลขาธิการรัฐมนตรีได้นำเสนอท่านนายกรัฐมนตรีทราบ และได้ขอให้สำนักราชเลขาธิการนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้วพระราชทานชื่อค่ายตามที่ขอพระมหากรุณา เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๒๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย เรือเอกหญิงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงกระทำพิธีเปิด ค่ายจุฬาภรณ์ ที่กรมทหารราบที่ ๓ กรมนาวิกโยธิน บ้านทอน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งในบริเวณพิธีมี พล.ร.อ.สมบูรณ์ เชื้อพิบูลย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ.โสภณ สุญาณเศรษฐกร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.ท.ยุธยา เชิดบุญเมือง ผู้บัญชาการกรมนาวิกโยธิน และนายทหารผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ และ พล.ร.ต.ประเสริฐ น้อยคำศิริ รองผู้บัญชาการกรมนาวิกโยธิน น.อ.สง่า แดงดีเลิศ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๓ กรมนาวิกโยธิน ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และแขกผู้มีเกียรติ เฝ้ารับเสด็จ ฯ หลังพระราชพิธีเปิด ค่ายจุฬาภรณ์ แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินที่บริเวณหน้าพลับพลาเพื่อทอดพระเนตรการโดดร่มของนักโดดร่มชาย หญิง จากกรมนาวิกโยธิน รวม ๔๘ คน นำโดย พล.ร.ท.ยุธยา เชิญบุญเมือง ผู้บัญชาการกรมนาวิกโยธิน เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับ และในคืนวันเดียวกัน กองทัพเรือได้จัดงานฉลอง ค่ายจุฬาภรณ์ ขึ้น ซึ่งในงานนี้ เรือเอกหญิงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จ ฯ มาเป็นองค์ประธาน ในพระวโรกาสนั้นเอง พระองค์ได้มีรับสั่งกับบรรดานายทหาร และแขกผู้มีเกียรติตอนหนึ่งว่า ข้าพเจ้าเองนั้น ได้มีความซาบซึ้งนิยมชมชอบในพรรคนาวิกโยธิน ตั้งแต่ก่อที่จะเข้ามาเป็นทหารเรือ เพราะเห็นว่า ประกอบด้วยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวในการปฏิบัติการรบ แล้วยังประกอบด้วยความอ่อนโยน ซึ่งเกิดความนิยมชมชื่นอย่างฝังใจ เมื่อได้รับพระราชทานยศเป็นเรือโท จึงได้ขอเลือกเป็นพรรคนาวิกโยธิน นับตั้งแต่นั้นมา ค่ายจุฬาภรณ์ ก็เป็นมิ่งขวัญของทหารนาวิกโยธิน และชาวจังหวัดนราธิวาสทุกคน |
|