 (N)
พระอธิการ พวง ฐานวโร วัดน้ำพุสามัคคี ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์
หลวงปู่พวงอริยสงฆ์ศักสิทธิ์แห่งเทือกเขารัง
พระภิกษุนักปฏิบัติ เป็นพระนักพัฒนา เคร่งครัดพระธรรมวินัย ชอบสันโดษ มักน้อย ไม่นิยมสั่งสมเงินทอง หากมีผู้ถวายจะสมทบสร้างวัดสร้างวาจนหมดสิ้น นอกจากหลวงปู่พวงจะเป็นพระนักปฏิบัติวิปัสนาชั้นยอดแล้ว ท่านยังมีคุณวิเศษอีกหลายอย่าง เก่งด้านไสยเวทย์วิทยาคม บารมีสูงวาจาสิทธิ์ ที่ใครๆต่างให้ความยอมรับนับถือและสำคัญหลวงปู่พวงเป็นพระที่มีเมตตากรุณาไม่เลือกชั้นวรรณะ ใครไปหากราบไหว้ท่านต้อนรับทุกคน สมเป็นสมณพุทธบุตรธรรมทายาท เนื้อนาบุญอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ทำให้ลูกศิษย์มากมายทั้งในจังหวัดเพชรบูรณ์และทั่วประเทศ หลวงปู่พวง ฐานวโร เจ้าอาวาสวัดน้ำพุสามัคคี ปัจจุบันเจริญอายุ ๘๗ ปี ๖๖ พรรษา ( ๒๕๕๕)
อัตโนประวัติ
“ พระอธิการพวง ฐานวโร ” หรือ หลวงปู่พวง มีนามเดิมว่า พวง เพ็ชรมูล เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๘ ที่เมืองดอกบัวจังหวัดปทุมธานี เชื้อสายมอญ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายยวง และ นางเพิ่ม เพ็ชรมูล ครอบครัวประกอบอาชีพในด้านเกษตรกรรม
สู่ร่มกาสาวพัสตร์ หลวงปู่พวงบวชเรียนเป็นสามเณรตั้งแต่วัยเยาว์ สามเณรพวงได้ปรนนิบัติหลวงพ่อทบมิได้ขาด ไม่ว่าจะล้างบาตร เทกระโถนน้ำหมาก บีบนวด หลวงพ่อทบสม่ำเสมอ ศีกษาพระธรรมวินัยอยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อทบ ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติเรื่อยมา ด้วยความเมตตาที่หลวงพ่อทบเห็นในความเพียรตั้งใจจริงจึงได้ถ่ายทอดสรรพต่างๆและวิปัสนากัมมัฏฐานการกำหนดจิต การฝึกกสินแต่ละกอง จนถึงการอุปสมบทเป็นพระภิกษุในวัย ๒๑ ปีได้ฉายา “ ฐานวโร ” แปลว่า ผู้มีฐานะอันประเสริฐ ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับหลวงพ่อทบ หลวงพ่อพวงได้ช่วยงานหลวงพ่อทบหลายอย่าง หลวงพ่อทบให้ช่วยจารตะกรุดมั่ง ม้วนมั่ง ถักมั่ง หลวงพ่อทบรักมากสอนให้จนหมด หลวงพ่อทบไปมาหาสู่กับหลวพ่อเขียน สำนักขุนเณรบ่อยๆ ไปทุกครั้งก็จะพาพระพวงไปด้วย หลวงพ่อทบจึงได้ฝากฝังศิษย์รักให้หลวงพ่อเขียนให้ช่วยประสาทวิชาเพิ่มเติมให้ หลวงพ่อพวง ได้จำพรรษาวัดขุนเณรได้เล่าเรียนฝึกปฏิบัติกรรมฐาน วิปัสนากรรมฐาน พุทธาคมโดยฝึกวิชากสินจนชำนาญในกสิน ๑o รวมทั้งวิชาทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ หลวงพ่อเขียนท่านวาจาสิทธิ์มากหากพูดอะไรจะเป็นไปตามปากของท่านจนชาวบ้านขนานนามหลวงพ่อเขียนปากพระร่วง ตลอดการช่วยงานหลวงพ่อเขียนนั้น หลวงพ่อเขียนท่านสอนให้หมดจนเป็นที่ไว้ใจมอบหมายให้หลวงพ่อพวงทำน้ำมนต์อาบน้ำมนต์ให้ชาวบ้านแทนท่าน เรื่องเด่นอีกเรื่องของหลวงพ่อเขียน การให้หวยของหลวงพ่อเขียน ถูกกันทุกงวดจนเจ้ามือเจ้งกันไปหลายราย เมื่อสำเร็จธรรมจากหลวงพ่อเขียนแล้วจึงได้กราบลาหลวงพ่อเขียนเดินทางกลับมาเพชรบูรณ์อีกครั้งได้ไปกราบนมัสการหลวงพ่ออ้วน ที่วัดดงขุย หลวงพ่ออ้วน ท่านรับศิษย์ยากท่านต้องทดสอบกำลังใจเสียก่อน หลังจากทดสอบผ่านแล้วท่านจึงรับเข้าสำนักถ่ายทอดวิทยาคมให้หมดสิ้น ช่วงที่อยู่ที่วัดดงขุย ได้เห็นหลวงพ่อทบ กับ หลวงพ่ออ้วนได้ลองอาคมกันกลางอาอาศ ใครตาดีมีบุญจึงได้เห็น ช่วงที่จำพรรษาได้ช่วยงานวัดมิได้ขาด หลังจากที่ได้ร่ำเรียนจนสำเร็จแล้วจึงได้กราบลาหลวงพ่ออ้วนเพื่อออกธุดงค์ปลีกวิเวกตามป่าเขา ตามถ้ำต่างๆ หมั่นฝึกปฏิบัติวิชาอาคมต่างๆตามที่ได้ร่ำเรียนและได้รับการถ่ายทอดมาจนมีความชำนาญในวิปัสนากัมมัฏฐาน มีพลังสมาธิญาณอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อการปฏิบัติธรรมแก่กล้าแล้วจึงได้เดินทางมากราบนมัสการหลวงพ่อทบ ที่วัดชนแดน หลวงพ่อทบ วาจาสิทธิ์ ท่านบอกจะต้องห่มจีวรตลอดชีวิตเพื่อสงเคราะห์ผู้คน อยู่ปรนนิบัติหลวงพ่อทบอยู่ชั่วระยะหนึ่ง จึงได้ออกแสวงหาธรรมอีกครั้ง ได้ธุดงค์เข้าป่ารกชัชขึ้นเขา ลงเขา จนมาถึงเทือกเขารัง ณ บ้านน้ำพุ จ. เพชรบูรณ์ พ.ศ. ๒๕oo ได้ปักกลดจำวัด ณ ที่แห่งนี้ ตอนที่มาอยู่ใหม่ๆชาวบ้านมาถวายข้าวปลาอาหารหลวงปู่พวง พร้อมกับบอกว่า ให้ระวังผีดุ โดนหลอกทั้งกลางคืนกลางวัน หลวงปู่พวง ท่านได้แต่ยิ้มๆให้ชาวบ้าน หลังจากชาวบ้านเห็นพระองค์นี้อยู่ได้ถึง ๗ วันไม่หนีไปใหน จึงได้มาสอบถามว่าไม่เจอดีบ้างหรือ หลวงพ่อได้ตอบไปว่า เขามาดีเราให้บุญเขาก็ไปหมดไม่อยู่ที่นี่แล้ว ชาวบ้านจึงได้ศรัทธานิมนต์ให้สร้างวัด ที่นี่ |