| หัวข้อกระทู้ : ................ ชั่วโมงนี้ คงไม่มีใคร ไม่รู้จักท่านแล้วละครับ ............... |
 (N)
ส่วนใหญ่พี่ๆทุกท่าน มักจะรู้จักแต่ชื่อเสียงของท่าน มานานมากๆ
ครั้งนี้ลองมารู้จักประวัติของท่านกันสักหน่อย ดีไหมครับพี่
ท่านก็คือ ................. พระครูอนุศาสน์กิจจาทร (พ่อท่านเขียว กิตติคุณ ยังไงละครับ)
เกจิดังเมืองใต้ ที่ร่วมกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ ปลุกเสกพระหลวงปู่ทวด รุ่นแรก อันโด่งดังครับ
พ่อท่านเขียว ท่านเกิดเมื่อเดือน สิงหาคม พ.ศ. 2472 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ณ ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
เป็นบุตรของนายทอง เพชรภักดี และ นางกิ๊ม นวลศรี ครอบครัวชาวนาในจังหวัดยะลา เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 7 คน
ช่วงชีวิตในวัยเด็ก ท่านเรียนจบแค่เพียงชั้นระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพราะบิดาถึงแก่กรรม จึงต้องออกมาช่วยมารดาทำงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัว
จนกระทั่งเมื่อมีอายุได้ 20 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดนางโอ (หรือวัดบุพนิมิต) ในปัจจุบัน ตำบลแม่ลาน (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น อำเภอแม่ลาน) จังหวัดปัตตานี
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2492 โดยมีพระครูมนูญสมณการ วัดพลานุภาพ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการแดง ธมฺมโชโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์
และพระอธิการคำ ติสสโร เป็นพระอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสานความรู้วิชาให้แก่ พ่อท่านเขียว ก่อนอุปสมบท
หลังจากนั้นท่านจึงได้ฝึกฝน สวดมนต์ บทต่าง ๆ ในเจ็ดตำนาน และการสวด ภาณยักษ์
พรรษาที่ 2 ท่านได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสุนทรบัญชาราม อำเภอรามัน จังหวัดยะลา
พรรษาที่ 3 พ่อท่านเขียวได้กลับไปที่วัดนางโออีกครั้ง พร้อมกับได้ศึกษาวิชา ตาเลี่ยม กับฆราวาสที่เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐาน
รวมทั้งศึกษาสรรพวิชาต่าง ๆ จากฆราวาสอีกหลายท่าน พ่อท่านเขียวยังสอบได้นักธรรมชั้นโท
แล้วยังได้รับตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดนางโอ ก่อนที่จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในเวลาต่อมา
พ่อท่านเขียวเป็นคนที่รักความสันโดษ และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มัธยัศถ์ อดออม และรักการอ่านและการศึกษาหาความรู้
ไม่ว่าจะเป็นทางด้านกฎหมายหรือทางด้านเกษตรกรรม หรือในทางด้านทางธรรม ท่านก็ศึกษาพระปริยัติธรรม บาลีไวยากรณ์ และ นักธรรม รวมทั้งสวดมนต์พิธีต่างๆ
พรรษาที่ 5 สามารถสวดปาฏิโมกข์ได้ มีความเคร่งครัด ไม่ยึดติดในลาภยศ สรรเสริญ
ท่านได้เข้าร่วมปลุกเสกใหญ่ใน หลวงปู่ทวด ทุกครั้ง ตั้งแต่สมัย พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้
พ่อท่านเขียว เป็นผู้หนึ่งที่คลุกเนื้อผสมว่าน และร่วมอยู่ในพิธีกรรมเจริญพุทธมนต์
ในระหว่างที่ ท่านอาจารย์ทิม อัญเชิญดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวด เพื่อปลุกเสกพระเครื่องเนื้อว่านในคราว ปี 2497
และร่วมพิธีกรรมปลุกเสกอีกหลายวาระจนเมื่อ อาจารย์ทิม ท่านมรณภาพแล้ว ยังมี พิธีกรรม ที่สำคัญอีก 1 วาระ
คือปลุกเสกหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี 2524 ปัจจุบันเป็นที่เสาะหากันมาก เพราะมีประสบการณ์คุ้มภยันตราย แคล้วคลาดปลอดภัยแก่ผู้ที่นับถือ
วัตถุมงคลที่โด่งดังของ พ่อท่านเขียว มี พระราหูรุ่นแรก ปี พ.ศ. 2538 ทั้งเนื้อว่านและเนื้อกะลาแกะ พระปิตตามหาทรัพย์ ขุนช้างโภคทรัพย์รุ่นแรก
เป็นเนื้อว่านผสมผงภูติ ส่วนปลัดขิกของท่านก็ดังระบิดระเบ้อ จนกล่าวติดปากกันว่า หน้ากันภัย ซ้ายเสน่ห์ ขวาเมตตา หลังเหนียว
(เป็นวิธีคาดปลัดขิกเหมือนกับวิธีคาดตระกรุดมหารูดพของภาคกลาง)
นอกจากนี้ พ่อท่านเขียวยังได้รับนิมนต์ ไปปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ในหลายพิธีตลอดมาทั้งไกลและใกล้จนถึงปัจจุบัน นับว่า
พ่อท่านเขียว เป็นพระเกจิสำคัญถือเป็นเพชรอีกรูปหนึ่ง แห่งเมืองใต้ เลยทีเดียว เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2500 พ่อท่านเขียวได้ตรวจสอบธรณีสงฆ์รอบวัดนางโอ พบการรุกล้ำที่วัดของชาวบ้านละแวกวัด
ทำให้ชาวบ้านเหล่านั้นไม่พอใจ กระทบกระทั่งกันหลายวาระ ในที่สุดหลวงพ่อเขียว จึงตัดสินใจ ออกจากวัดไปจำพรรษา
ที่ วัดภมรคติวัน และที่วัดนี้ก็มีปัญหาเดียวกันกับ วัดนางโอ ท่านจึงย้ายวัดไปจำพรรษาที่ วัดนาประดู่ อีกครั้ง
และในระหว่างนี้ ท่านธีร์เจ้าอาวาส วัดห้วยเงาะ ในเวลานั้นจึงได้มานิมนต์พ่อท่านเขียวไปอยู่ที่วัดห้วยเงาะ เนื่องด้วยพรรษาท่านมากจะได้ดูแลและไม่ต้องพบกับภาระเหนื่อยหนักอีก
พ่อท่านเขียวท่านเป็น พระสงฆ์ที่มัธยัสถ์อดออมและรักสันโดษ ท่านชอบการอ่านหมั่นศึกษาหาความรู้ในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นด้านกฏหมายบ้านเมือง
การเกษตรกรรม โหราศาสตร์ สมุนไพรกลางบ้าน รวมถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในอันที่จะนำไปสงเคราะห์ผู้อื่นได้ พ่อท่านมีเมตตาสูงกับเหล่าศิษย์
และผู้ที่ไปขอให้ท่านเสกเป่าบรรเทาทุกข์ แก้ไขสิ่งที่ขัดข้องในชีวิต ท่านเมตตาเสมอเหมือนกันหมด ไม่ว่ายากดีมีจนมาจากไหนไม่ว่าจะไกลหรือใกล้
โดยไม่แบ่งแยกไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดและพ่อท่านเขียวไม่จับ หรือรับเงินที่มาถวายเลย
พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ หรือ พระครูอนุศาสน์กิจจาทร วัดหัวยเงาะ ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
หรืออีกนามที่ชาวบ้าน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขนานนามว่า เทพเจ้าฝ่ายบู๊แห่งเมือง ลังกาสุกะ ท่านเป็นพระสมถะ ไม่สะสมทรัพย์ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรฉันก็ฉันง่ายๆ
บางทีก็แบ่งข้าวที่ท่านกำลังฉันให้สุนัขที่ท่านเลี้ยงกินด้วยกันท่านมีเมตตากับทุก ๆ คน เดือดร้อนอะไรมาท่านก็ช่วยไม่เว้นแม้สุนัขที่ถูกทอดทิ้งท่านก็รับมาเลี้ยงอย่างดี
ท่านชอบสอนทุก ๆ คนที่ไปหาท่านให้ทำดี ละเว้นชั่ว ตั้งมั่นในความซื่อสัตย์กตัญญู อดออมทรัพย์สินใช้จ่ายอย่างประหยัด
ดังที่ท่านเคยสอนให้เลิกใช้คำว่า ... ทำมาหากิน ... แต่ให้ใช้คำว่า ... ทำมาหาไว้ ... แทน ในทำนองว่าทำมาหาไว้ อย่ากิน อย่าใช้ จนหมด นั่นเอง
ประวัติคร่าวๆของสุดยอดพระ เกจิ ชื่อดัง แห่งยุคแดนใต้ ที่เราๆท่านๆสามารถกราบได้สนิทใจครับ
ถ้าพี่ๆท่านใด มีโอกาสเดินทางไป จ.ปัตตานี อย่าลืมหาโอกาสไปกราบท่านเพื่อเป็น สิริมงคล ของชีวิตนะครับ
 |
|
|