 (N)

การสร้างพระปิดตารุ่นแรก พ.ศ. 2516
การสร้างพระปิดตาครั้งนี้นับว่าเป็นการสร้างพระเนื้อผงครั้งแรกและถือว่าเป็นรุ่นแรกของหลวงพ่อและเป็นรุ่นเดียวเท่านั้นที่หลวงพ่อลงมือตำผงผสมมวลสาร กดพิมพ์พระด้วยมือท่านเองทีละองค์ และปลุกเสกจนครบกระบวนพิธี
การสร้างพระครั้งนี้ก็เนื่องจากท่านนาวาโทมานิตย์ ปัทพี ผู้มีความประสงค์จะขอนำมวลสารพระเก่า พระโบราณ และชิ้นส่วนพระผงที่ชำรุดแตกหักที่ตนเองเก็บสะสมมานานปีมาสร้างเป็นองค์พระขึ้นใหม่ ซึ่งนาวาโทมานิตย์ฯ ได้ปรารภเรื่องนี้กับพลเรือโทประชุมฯ ซึ่งท่านก็มีความยินดีและนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับคุณเชิดศักดิ์ฯ แล้วไปกราบขออนุญาตต่อหลวงพ่อ ซึ่งหลวงพ่อก็อนุญาตให้ทำ
นาวาโทมานิตย์ฯ ปัทพี เป็นใคร ทำไมจึงมีมวลสารพระสมเด็จวัดระฆัง พระโบราณมากมายจนนำมาสร้างพระได้เป็น 100 องค์ ผู้เขียนจึงอยากจะกล่าวถึงนายทหารผู้นี้ เนื่องจากผู้เขียนได้มีความรู้จักผูกพันกับนายทหารท่านนี้เป็นเวลานาน โดยผู้เขียนได้ติดตามท่านในฐานะลูกศิษย์ที่ได้ศึกษาพระเครื่องกับท่านผู้นี้ ท่านได้นำพระสมเด็จวัดระฆังและบางขุนพรหมรวมทั้งพระยอดนิยมให้ผู้เขียนได้ศึกษาผ่านตานับสิบๆ องค์ ในสนามพระท่าพระจันทร์ และสนามพระที่วัดราชนัดดาเมื่อ 50 กว่าปีที่ผ่านมา นักนิยมพระเครื่องสมัยนั้นถ้าท่านใดไม่รู้จักจ่ามานิตย์ฯ ก็ยังนับไม่ได้ว่าเป็นผู้นิยมพระเครื่องที่อยู่ในวงการอย่างแท้จริง
นาวาโทมานิตย์ฯ ได้เป็นคณะกรรมการในพิธีเปิดกรุเจดีย์ที่วัดบางขุนพรหมเมื่อปี พ.ศ. 2500 ณ.โอกาสนี้ทำให้ท่านได้มีโอกาสเก็บสะสมพระสมเด็จบางขุนพรมที่แตกหักชำรุดได้จำนวนหนึ่ง และในปี พ.ศ. 2509 ทางวัดบางขุนพรมได้ประกอบพิธีจัดสร้างพระสมเด็จวัดบางขุนพรหมขึ้น โดยใช้ผงสมเด็จที่แตกหักชำรุดในคราวเปิดกรุปี พ.ศ. 2500 มาเป็นมวลสาร และนาวาโทมานิตย์ฯ ท่านนี้ก็ได้เป็นกรรมการร่วมจัดสร้างด้วย ในการนี้ท่านยังได้นำพระชุดนี้มาฝากให้ผู้เขียนนับสิบองค์ ท่านเป็นบุคคลที่มีน้ำใจกว้างขวางไม่หวงของ และชอบนำพระที่ท่านสร้างขึ้นให้วัดต่างๆ มาแจกให้เพื่อนฝูงอยู่เสมอ อย่างเช่นพระสมเด็จบางขุนพรหมปี พ.ศ. 2509 เป็นต้น
นอกจากเป็นผู้นิยมพระเครื่องระดับแนวหน้า จนถึงขั้นเป็นผู้ชำนาญการในวงการแล้วท่านผู้นี้ยังเป็นนักอนุรักษ์พระเครื่องชั้นนำผู้หนึ่ง คือผู้ชำนาญในการซ่อมพระเครื่องที่ชำรุดหัก หรือบิ่นมีเนื้อไม่ครบองค์ให้กลับคืนสภาพสมบูรณ์ให้กับเพื่อนฝูงเสมอ ท่านจึงชอบเก็บชิ้นส่วนพระแท้ๆ เช่นพระสมเด็จ พระกรุ พระโบราณ ซึ่งในสมัยนั้นยังหาได้ง่ายในสนามพระ เพราะนักนิยมพระเครื่องไม่ค่อยสนใจ ท่านได้ใช้ชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นมวลสารในการซ่อมทำตามชนิดของพระที่ซ่อม เช่น พระสมเด็จก็ใช้เนื้อพระสมเด็จ พระกรุ พระโบราณชนิดใดก็จะใช้เนื้อพระชนิดนั้นซ่อมทำให้ ดังนั้นท่านจึงมีชิ้นส่วนพระแท้ๆ เก็บสะสมไว้ได้จำนวนพอสมควร จนในที่สุดก็ได้นำชิ้นส่วนเหล่านี้มาเป็นมวลสารถวายให้หลวงพ่อเมตตาสร้างเป็นองค์พระใหม่เพื่อให้ลูกศิษย์ได้สักการบูชาต่อม
ภาพตัวอย่างพระสมเด็จวัดระฆัง ชิ้นส่วนพระชำรุด
เป็นชิ้นส่วนด้านฐานพระสมเด็จวัดระฆังที่นาวาโทมานิตย์ฯ นำมาแกะเป็นองค์พระและมอบให้ผู้เขียนไว้บูชา
นี่เป็นสภาพพระปากน้ำรุ่น 1 ที่มีสภาพสึกจนไม่เห็นองค์พระ หากน้ำมาแขวนก็จะขาดความสวยงาม
กระบวนการพิธีการจัดสร้าง
เมื่อได้รับอนุญาตจากหลวงพ่อแล้ว นาวาโทมานิตย์ฯ จึงได้ทำการแกะแม่พิมพ์เป็นพิมพ์พระปิดตาขึ้น 1 พิมพ์ แล้วจัดหาอุปกรณ์ครก สาก สำหรับใช้ตำชิ้นส่วนพระ (โดยซื้อมาใหม่เป็นการเฉพาะ) เมื่อทุกอย่างพร้อมจึงได้นัดการเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อ การเดินทางครั้งนี้มีสมาชิกใหม่อีกท่านหนึ่งที่เป็นเพื่อนสนิทกับนาวาโทมานิตย์ฯ คือ พันจ่าเอกเฉลิม จันทมาลา (ปัจจุบันปี 2556 ท่านอายุ 81 ปีแล้ว) ได้ติดตามไปเป็นผู้ช่วยด้วย การเดินทางได้เริ่มต้นตอนเช้ามืดของวันเสาร์ไปถึงวัดสระแก้วเวลาประมาณ 10 โมงเช้า ของวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2516 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 วันเวลาดังกล่าวถือได้ว่าเป็นวันเสาร์ 5 เมื่อเดินทางไปถึงทางคณะจึงรีบนำสิ่งที่เตรียมไว้ขึ้นไปถวายหลวงพ่อ เมื่อหลวงพ่อเห็นมวลสารก็กล่าวว่าไอ้นายของนี้เป็นของวิเศษ เป็นของสูง ครูบาอาจารย์ท่านทำมาวิเศษแล้ว กูก็ได้สร้างพระเป็นครั้งแรกแหละลูกหลานเอ๊ย จากนั้นพิธีการตำผงก็เริ่มขึ้น เนื่องจากผงเป็นผงเก่าแห้งกรอบการตำจึงทำได้ง่าย ไม่นานผงก็ละเอียด นาวาโทมานิตย์ฯ จึงได้ผสมมวลสารต่างๆ อันได้แก่ผงว่านวิเศษและแร่ทนสิทธิ์ต่างๆ เกศาของหลวงพ่อ และผงอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งใส่น้ำประสานจนเนื้อรวมกันออกเป็นสีน้ำตาลเข้มอมดำ เมื่อมวลสารพร้อมแล้วหลวงพ่อก็ลงมือพิมพ์พระ โดยนาวาโทมานิตย์ฯ เป็นผู้กำหนดมวลสารทำเป็นก้อนกลมถวายให้หลวงพ่อกดพิมพ์เป็นองค์พระออกมาจนมวลสารเหล่านั้นหมดลงชนิดเกลี้ยงครกทีเดียว ได้องค์พระทั้งสิ้น 175 องค์ นับว่าเป็นจำนวนน้อยจนลูกศิษย์ที่นั่งอยู่ ณ. ที่นั้น ต่างกล่าวว่าน่าจะหาผงอื่นผสมลงไปด้วยเพื่อให้พระมีจำนวนมากพอ แต่ด้วยเจตนารมณ์ของเจ้าของมวลสารมีความต้องการที่จะให้มวลสารศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ได้รวมกลับคืนเป็นองค์พระใหม่โดยสมบูรณ์ มิได้หวังจะเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น เรียกว่ามีมวลสารเท่าใดเอาเท่านั้นไม่ต้องการส่วนผสมเพิ่มขึ้น เพราะมิได้ประสงค์จะเอาไปจำหน่ายแต่อย่างใด จึงจัดอยู่ในประเภทของดีมีน้อย เมื่อการพิมพ์พระเสร็จสิ้นแล้วหลวงพ่อก็กล่าวว่านี่แหละของดี ของวิเศษแล้ว ไม่ต้องปลุกเสกก็ใช้ได้เลยแต่กูได้มีโอกาสได้สร้างพระเป็นครั้งแรกกูก็จะทำพิธีให้ครบถ้วนต่อไป แล้วหลวงพ่อก็สั่งให้เอาพระทั้งหมดไปไว้ที่หน้าโต๊ะบูชาของท่าน การสร้างพระปิดตารุ่นนี้ก็เสร็จสิ้นลงเหลือเพียงพิธีการปลุกเสกต่อไป
มีหลายท่านตั้งข้อสงสัยว่าทำไมหลวงพ่อต้องมานั่งตำผง ซึ่งการสร้างพระของคณาจารย์ทั่วไปก็จะทำแต่ผสมผงเท่านั้น คำอธิบายก็คือ ผงที่ทำพระครั้งนี้นำมาจากพระหัก พระกรุ พระโบราณ เนื้อวัสดุมวลสารจึงมาในสภาพชิ้นส่วนยังมิได้เป็นผงมวลสาร หลวงพ่อจึงต้องทำพิธีตำผง และหลวงพ่อท่านได้แสดงภูมิปัญญาเคล็ดลับในการตำผงให้ลูกศิษย์ได้เห็นโดยมิได้มีผู้ใดคิดมาก่อนว่าท่านจะกลับสากตำ โดยเอายอดสากตำ
การทำพิธีปลุกเสกพระ
ในการปลุกเสกพระของหลวงพ่อจะสังเกตได้ว่าจะไม่เน้นในพิธีการที่ต้องตั้งเป็นประรำพิธี มีฉัตรห้าชั้น เจ็ดชั้นโดยรอบทั้งสี่ด้านเหมือนพิธีพุทธาภิเศกทั่วๆไป หลวงพ่อจะปลุกเสกด้วยตนเองเสมอ โดยใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาพร้อมกับพลังจิตที่หลวงพ่อได้ฝึกฝนมาเป็นเวลาช้านาน
ในการปลุกเสกพระปิดตาครั้งนี้ก็เช่นกัน ในคืนวันนั้นบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้พักหลับนอนกันที่บริเวณศาลาหน้ากุฏิหลวงพ่อ โดยหลวงพ่อขอให้พระเณรในวัดจัดหาที่นอน มุ้งหมอนให้ หลวงพ่อได้สวดมนต์ทำวัตรแต่หัวค่ำ เมื่อทำวัตรเสร็จสิ้นหลวงพ่อก็ดับไฟและเข้าจำวัดเลย บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายก็พลอยพากันเข้ามุ้งนอนไปด้วย ประมาณเที่ยงคืนผ่านไปผู้เขียนได้รู้สึกตัวขึ้นจากการสะกิดเรียกจากใครไม่ทราบที่ตื่นก่อนแล้ว เวลานั้นบริเวณโดยรอบมืดมาก แต่ในกุฏิของหลวงพ่อกับมีแสงสว่างลอดออกมาตามแนวรอยแตกของฝาไม้กุฏิ ผู้เขียนพร้อมด้วยสมาชิกต่างค่อยๆ คลานไปดูตรงรอยแยกของฝากุฏิ ได้เห็นภาพภายในกุฏิหลวงพ่อครองจีวรอย่างเรียบร้อย นั่งสมาธินิ่งท่ามกลางแสงเทียน ผู้เขียนจึงคิดได้ว่าหลวงพ่อกำลังทำพิธีปลุกเสกพระปิดตาที่สร้างไว้เมื่อตอนกลางวัน และได้นั่งเฝ้าดูเป็นระยะเป็นชั่วโมงจนทนง่วงนอนไม่ไหวจึงกลับมานอนมารู้สึกตัวอีกครั้งในช่วงเช้ามืด เห็นหลวงพ่อเปิดประตูกุฏิออกมา แสดงว่าหลวงพ่อได้ปลุกเสกพระปิดตาชุดนี้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
พิธีการตำมวลสารที่สร้างพระปิดตารุ่นแรก (รุ่น จัมโบ้) เมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2516
เป็นภาพที่หลวงพ่อตั้งใจกดมวลสารลงแม่พิมพ์ด้วยสมาธิ โดยมีนาวาโทมานิตย์
เป็นผู้ปั้นมวลสารให้หลวงพ่อ
การแจกจ่ายพระปิดตา
ในตอนสายของวันรุ่งขึ้นหลังจากหลวงพ่อได้ทำกิจวัตรเสร็จสิ้น หลวงพ่อจึงได้นำพระทั้งหมดยกให้ท่านนาวาโทมานิตย์ฯ นาวาโทมานิตย์ได้นับพระแยกลงกล่องพลาสติกที่เตรียมมากล่องละ 9 องค์ แล้วแจกให้ทุกคนที่อยู่ในวันนั้นคนละ 1 กล่อง มีบางส่วนที่คุณเชิดศักดิ์ฯ และคุณสมพิทย์ฯ ได้ขอไว้จำนวนหนึ่งเพื่อนำไปมอบให้ผู้ใหญ่ที่กรุงเทพฯ จากนั้นนาวาโทมานิตย์ฯ ได้ถวายพระชุดนี้ให้กับหลวงพ่อสำหรับแจกญาติโยมเท่าที่สังเกตจำนวนไม่น้อยกว่า 30 ถึง 40 องค์ ส่วนที่เหลือนาวาโทมานิตย์ฯ ได้นำกลับกรุงเทพฯ ต่อมาได้ทราบว่าท่านได้แจกพระชุดนี้ให้สมาชิกและพรรคพวกที่สนิทสนมที่ทราบข่าวมาขอกันจนพระหมดไป ในส่วนของหลวงพ่อก็ได้แจกให้กับญาติโยม และลูกศิษย์ที่มานมัสการท่าน ยกตัวอย่างเช่น ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ และท่านรองศาสตราจารย์ ม.ร.ว.แหลมฉาน หัสดินทร (กราบขออนุญาตและขออภัยต่อท่านทั้งสองที่นำนามของท่านมากล่าวไว้ในบันทึกนี้) ซึ่งท่านได้บันทึกไว้ว่าในปี 2516 ท่านทั้งสองได้รับแจกพระชุดนี้จากหลวงพ่อเมื่อคราวที่ท่านได้ไปนมัสการหลวงพ่อ หลวงพ่อได้มอบให้พร้อมกับบอกกับท่านทั้งสองว่าเป็นพระที่หลวงพ่อสร้างเป็นรุ่นแรก เป็นของดีให้เก็บไว้คุ้มครองตัว เรื่องนี้ผู้เขียนได้นำมาจากบันทึกในพ็อตเกตบุคส์เล่มที่หน้าปกเขียนว่า พระเงินล้านสุดยอดพระแท้ หน้าที่ 138 ที่ ผ.ศ.รังสรรค์ฯ ท่านได้บันทึกไว้ครับ
พระชุดนี้ถือว่าเป็นสุดยอดวัตถุมงคลของหลวงพ่อที่สมควรบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์สุดยอดวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ซึ่งยากนักที่จะมีการจัดสร้างใหม่ให้ได้ในลักษณะนี้ เนื่องจากทั้งมวลสารของพระที่ได้รวบรวมจากมวลสารของพระยอดนิยมที่ทุกคนใฝ่ฝันหามารวมไว้ในพระองค์เดียว (ปัจจุบันไม่ต้องไปหาหรอกครับผงวิเศษเหล่านี้) ทั้งวิธีการจัดสร้าง (รุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวเท่านั้นที่หลวงพ่อลงมือทำเองตั้งแต่ต้นจนจบเป็นองค์พระด้วยมือของท่านครั้งละ 1 องค์ จนหมดมวลสารที่มีอยู่) รวมทั้งการปลุกเสกที่หลวงพ่อตั้งใจอย่างเต็มกำลังตลอดจนความตั้งใจในเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ของบรรดาศิษย์ที่มุ่งสร้างพระ รุ่นนี้ไว้เพื่อบูชาและคุ้มครองตน และเพื่อจะได้เป็นมรดก เป็นอริยะสมบัติของคนรุ่นหลังต่อไป
ปัจจุบัน (ปี พ.ศ. 2556) ศิษย์ที่ได้รับมาได้มีการแบ่งแจกจ่ายให้ญาติมิตรผู้สนิทชิดชอบไปกันเป็นส่วนใหญ่ โดยผู้เขียนได้พบเห็นทั้ง Web และตามศูนย์พระเครื่องโดยทั่วไป แม้จะไม่บ่อยนักเพราะพระมีจำนวนไม่มากแต่ก็ถือว่าพระชุดนี้ได้กระจายอยู่ในวงการพระเครื่องทั่วไป และอยู่ในครอบครองของท่านผู้รู้และทราบถึงคุณค่าได้ใฝ่หาไว้ครอบครอง |