(D)
สธ.โผล่เตือนเล่นคอมพ์นานเสี่ยง'ตาบอด'
นั่งเฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ มีโอกาสตาบอด สาธารณสุขออกโรงเตือนพวกสายตาสั้นแล้วคลั่งคอมพิวเตอร์ เสี่ยงเป็นโรคต้อหินลุกลามทำลายจอประสาทถึงขั้นบอดได้ แถมยังมีโอกาสเป็นโรคอ้วน แนะนำควรพักสายตา 10 นาทีต่อ 1 ชั่วโมง โดยใน 1 วันไม่ควรทำงานกับจอภาพเกิน 4 ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นางนิตยา จันทร์เรือง มหาผล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าปัจจุบันคอมพิวเตอร์เข้ามามีอิทธิพลต่อคนไทยมากขึ้น และคอมพิวเตอร์อาจเป็นตัวการทำให้คนไทยออกกำลังกายน้อยลง เนื่องจากใช้คอมพิวเตอร์ทำงานอยู่กับที่ ซึ่งขณะนี้ประชาชนในประเทศพัฒนาแล้วกำลังมีปัญหาโรคอ้วน โดยเฉพาะเด็ก ๆ
นอกจากนี้ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ คือ ปัญหาความล้าของสายตา สาเหตุเกิดจากการมองจอภาพ แป้นพิมพ์ และเอกสารสลับกันตลอดเวลา รวมทั้งระยะความห่างที่แตกต่างกันในการมองเห็นวัตถุทั้ง 3 ทำให้สายตาต้องปรับโฟกัสตลอดเวลา และการใช้สายตาเพ่งหน้าจอนาน ๆ ยังทำให้ตาแห้ง เกิดการระคายเคืองตาได้
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีงานศึกษาวิจัยในต่างประเทศพบว่า การใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีสายตาสั้นอยู่แล้ว จะมีความเสี่ยงสูง ต่อการเป็นโรคต้อหินได้ ซึ่งโรคดังกล่าวจะทำลายจอประสาท ทำให้ตาบอดได้ในที่สุด โดยพบได้ 3 ใน 10,000 คน ของกลุ่มที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ระบบประสาทของคนสายตาสั้น จะมีความเครียดมากกว่าคนสายตาปกติ ดังนั้นเรื่องความเครียดของสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์ อาจกลายเป็นปัญหาในอนาคตอันใกล้นี้
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า เวลาขลุกอยู่กับคอมพิวเตอร์นาน ๆ ไม่ว่าจะทำงาน เล่นเกม หรืออินเทอร์เน็ต ควรนั่งให้ห่างจอภาพไม่น้อยกว่า 30 ซม. เพื่อลดปริมาณรังสีที่แผ่ออกมาให้ได้รับน้อยที่สุด ส่วนการติดแผ่นกรองแสงหน้าจอฯ สามารถลดระดับปริมาณ รังสีที่แผ่ออกมาจากจอภาพลงได้บ้างในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถลดลงได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามแผ่นกรองแสงก็มีข้อดีตรงที่ช่วยลดแสงจ้า แสงสะท้อน และไฟฟ้าสถิต ช่วยให้ความล้าของสายตาลดลง
ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนหันมาถนอมและ ส่งเสริมสุขภาพสายตา โดยปรับระยะห่างระหว่างตากับจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ให้สามารถอ่านตัวหนังสือเล็ก ๆ บนจอได้อย่างสบาย ไม่ต้องเพ่ง ต้องปรับความสว่างของจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับตา ไม่ควรสว่างหรือมืดเกินไป และควรพักสายตา 10 นาที ต่อ 1 ชั่วโมง โดยการหลับตา หรือมองไปไกล ๆ ที่สำคัญคือไม่ควรทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เกินวันละ 4 ชั่วโมง.
ที่มาจาก"หนังสือพิมพ์เดลินิวส์"
|
|