ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : คลายเคลียดด้วยคน



(D)
ข้าวต้มงานศพ

นายจิวเป็นคนจีน ปรึกษากับเพื่อนว่า จะนิมนต์พระพยอมมาเทศน์งานศพพ่อ
เพื่อนๆบอกว่า ถ้า***นิมนต์พระพยอมมาเทศน์
รับรองข้าวต้ม***ไม่มีใครกินหรอก
เขาลือกันว่าถ้าพระพยอมเทศน์งานศพ ข้าวต้มเหลือทุกงาน
แกก็สงสัย ว่าทำไมถึงจะไม่มีจนกินข้าวต้ม แต่ในที่สุดก็นิมนต์อาตมาไป
อาตมาไม่ทราบเรื่องก็เทศน์ตามปกติว่า
คนบ้านนี้ตาย...ญาติพี่น้องทุกคนทุกข์ยากลำยากอยู่แล้ว
พวกเรายังมารุมกินกันในบ้านคนตายอีก มันเอาเปรียบกันเกินไป ใจดำ
ไร้ความเมตตาสงสาร การมางานศพควรมาแสดงความเสียใจ มาให้กำลังใจ
มาช่วยเหลือ ไม่ใช่มารุมกินคนตาย
ปรากฎว่า ข้าวต้มเหลือ ไม่มีคนกิน

วัดประหลาด

คนจำนวนมากที่มาวัดสวนแก้วแล้วต้องแปลกใจ
กุฏิเจ้าอาวาสหลังเล็กนิดเดียว แต่ที่เห็นเด่นเป็นสง่าคือ "ส้วม"
จึงมีคนมาถามว่า หลวงพี่ ทำไมสร้างส้วมเสียมากมายใหญ่โต
แต่กุฎิเจ้าอาวาสหลังเล็กนิดเดียว
ส้วมมันสำคัญกว่าเจ้าอาวาสนะโยม.....
วันนั้นมีคนมาวัด 300 กว่าคน ไม่เห็นมีใครถามว่า
กุฎิอาจารย์พยอมอยู่ตรงไหน
คนเกือบจะทั้ง 300 คน มันถามว่า ส้วมไปทางไหน
ขืนสร้างส้วมเล็กกว่ากุฎิ เละแน่...คน 300 คนมันถล่มแหลกเลย
มีหวังเหม็นคลุ้งไปทั้งกุฎิแน่โยม

ไม่เหมาะสม
คุณดำรง พุฒตาล มาสัมภาษณ์เอาประวัติอาตมาไปลงในหนังสือ คู่สร้างคู่สม
โอย...........คนมันโจมตีกันใหญ่ บอกว่าพระพยอมทำไม่เหมาะสม
ไปลงในหนังสือผัวๆ เมียๆ ไปยุ่งเกี่ยวกับทางโลกมากเกินไป......
อาตมาบอกว่า คงคนละหน้ากับเรื่องผัวเมีย
นั่นแหล่ะ ยังไงก็ไม่เหมาะสม มันเป็นรื่องของทางโลก
พระไม่ควรยุ่งเกี่ยว.......
อาตมาชักรำคาญ เลยถามว่า..
อ้าว.....แล้วเวลาที่ญาติโยมแต่งงานกันน่ะ เป็นเรื่องของทางโลกไหม?
ใช่....
แล้วเสือกมานิมนต์พระไปทำไม..?

คิดผิด

ไปถ่ายรูปวันแต่งงานมันก็สวยน่ะซิ ....พออยู่กันไปนานๆ สามีดูรูป
แล้วหันมาดูตัวจริง มันเริ่มสงสัยว่า
***ตัวที่เดินอยู่ในครัวเนี่ย..มันใช่คนที่***แต่งงานด้วยหรือเปล่าว้าา
าาาา
แล้วมันก็จะนั่งดูรูปด้วยตาละห้อยทั้งวัน......คิดในใจว่า
ตอนแต่งงานคิดว่าจะได้เทพธิดามาเคียงคู่......ที่ไหนได้
พอถึงวันนี้มันกลายเป็นสัตว์ประหลาด นอกจากหน้าตาน่าเกลียดแล้ว
ยังพูดมาก ขี้บ่นอีก
พอทะเลาะกันหน้าดำหน้าแดง หันไปดูรูป แหม
***น่ะสวยแต่เฉพาะวันแต่งงานเท่านั้นแหล่ะ ถ้ารู้ว่าแต่งงานนานๆ แล้ว
หน้าจะเป็นอย่างนี้ ***ไม่แต่งหรอก เก็บความโสดไว้ให้เช่าดีกว่า

สาธุ.....


โดยคุณ olympia (3.7K)  [อ. 28 มิ.ย. 2548 - 19:40 น.]



โดยคุณ olympia (3.7K)  [อ. 28 มิ.ย. 2548 - 19:44 น.] #5963 (1/6)
ธรรมวาทะ.......พระพยอม

หวังดูดทรัพย์

อย่างที่เกริ่นไว้ไง...ท่านรักคนอยากให้ฉลาดคิด คิดถูกคิดรอบคอบ กระทั่งไม่กลัวบาปกรรมจะกินเอา เห็นใครชุ่ย เตือนไม่ฟังก็ซัดซะ มาดูเรื่องโง่ ๆ นี่ไง

ชาวพุทธเดี๋ยวนี้...คิดอะไรแปลก ๆ ชอบคิดสวนทางกับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสอนให้ทำทุก อย่างด้วยปัญญา คนเดี๋ยวนี้มันไม่ค่อยใช้ปัญญา ข้างวัดอาตมานี่มีคนโง่อยู่คนหนึ่ง ชื่อโยมกนกวรรณ ไปเสียท่าโยมนิภา ซึ่งเป็นเซลล์แมนขายบุญของธรรมกาย โยมนิภาบอกว่าปีนี้เขาจะรวยใหญ่เพราะเช่าเหรียญ "รุ่นดูดทรัพย์"ไว้เยอะ โยมกนกวรรณพอได้ยินว่าเหรียญรุ่นดูดทรัพย์จะทำให้ร่ำรวยใหญ่ก็ตาโต ...งี่เง่าสิ้นคิด... ไปขอเช่าต่อเขามา 2 องค์ องค์ละ 3 หมื่น สององค์หกหมื่น

เช่ามาได้ 2-3 เดือนยังไม่รวยสักที ก็ไปต่อว่ายายนิภา ทำไมฉันถึงไม่รวยตามที่เธอบอก ยายนิภาได้ทีก็หลอกต่อเลย ก็เธอเช่าน้อยไป...พลังดูดไม่พอ... ยายกนกวรรณนี่ยังโง่ไม่จบ "เออ ท่าจะจริงแรงดูดไม่พอ" งั้นเช่าเพิ่มอีก 7 องค์ กะว่าจะให้ดูดเงินค่อนประเทศมาไว้ที่***คนเดียว รวมเบ็ดเสร็จจ่ายไป 2 แสนเจ็ด....

หลังจากจ่ายเงินเสร็จโยมนิภาก็หายสาปสูญไปจากสายตาของโยมกนกวรรณ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็นอีกเลย ตอนนี้โยมกนกวรรณขยันขันแข็งขึ้นผิดตา ทำงานหามรุ่งหามค่ำตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำงานหาเงินมาใช้หนี้ค่าพระรุ่นดูดทรัพย์ ...ตอนซื้อบอกว่าขอรุ่นดูดทรัพย์ แต่สงสัยคนขายจะหยิบพระผิดให้ ตอนนี้มันดูดหนี้ดูดสินมาให้ท่วมหัวเลย เลยจนถาวร...จนนิรันดร...จนตลอดกาล...เพราะอยากรวยแต่เสือกโง่

... นี่ท่านล่อเองด้วยฝีมือท่านนะ...ไม่มีใส่ไข่...



" รุ่นล่าสุดมันออกมาใหม่อีกรุ่นหนึ่งแล้ว รุ่น...เชื่อแล้วรวย..." มันเที่ยวหลอกขายไปเรื่อย ไปถึงเจอใครขายเลย มันไม่ให้สงสัย..ไม่ให้ถาม..ให้เชื่อเลยจะได้รวย...ไม่รู้ใครรวย.....ถ้าเชื่อแล้วไม่ทำมาหากินจะรวยไหมโยม..?

ธรรมกายนี่มันลวงโลก ทำให้คนหลงงมงายได้เป็นล้าน ๆ คน เรื่องทำบุญมันก็สอนส่งเดช...บุญบ้าบออะไร..ทำสุดฤทธิ์สุดเดช แล้วเทคนิคมันเยอะนะ เป็นเทคนิคการหลอกคนโง่ มันบอกว่า...ถ้ายังไม่มีเงิน...เงิน ไม่พอ ให้วางดาวน์ไว้ก่อนแล้วผ่อนทีหลัง ความคิดมันทันสมัย...มีดาวน์บุญด้วย ผ่อนบ้านผ่อนรถก็จะอดตายอยู่แล้วนี่เสือกต้องมาผ่อนบุญอีก


โม้..อมตะ...

แล้วมันอุตริสอน มันบอกว่ามันเข้าถึงพระพุทธเจ้าได้ นำข้าวปลาอาหารไปถวายพระพุทธเจ้าในเมืองอายัตนนิพพานได้ พระพุทธเจ้ามารับด้วยมือตนเองเลย มันโม้ต่อว่าประเทศไทยทั้งประเทศเนี่ยมีคนเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าได้แค่ 2 คน ...***จะได้รวยกันแค่ 2 คน... คือตัวเจ้าอาวาสและยายชีจันทร์ แล้วยายชีนี่ก็โม้เกินเหตุ เคยอวดวิเศษว่าปัดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ มันคุยว่าตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่จริง เขาทิ้งระเบิดปรมาณูลงที่ประเทศไทย ยายชีจันทร์เห็นเข้าก็เลยใช้พลังวิเศษปัดระเบิดไปให้พ้นประเทศไทย ไปลงที่ญี่ปุ่นแทน ประเทศไทยเลยพ้นหายนะ
ดีนะที่คนญี่ปุ่นฟังภาษาไทยไม่เข้าใจ ถ้ามันเข้าใจภาษาไทย...ยายชีคนนี้ถูกญี่ปุ่นกระทืบตายไปแล้ว ก็เวลาปัดระเบิดปรมณู มันปัดส่งเดชไม่กะระยะให้ดี ดันปัดจากเมืองไทยไปลงญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นตายเกือบหมดเกาะ
อาตมาฟังแล้ว ยายชีคนนี้ทำไมมันถึงโง่นัก ถ้ามันฉลาดปัดลงทะเลซะก็หมดเรื่อง เรื่องก็จบแล้ว นี่เสือกปัดไปลงที่ญี่ปุ่น มันฟังภาษาไทยไม่เข้าใจไม่งั้นยายชีถูกญี่ปุ่นกระทืบอ่วมแน่

อาตมาอยากจะเตือนว่า...คราวหลัง ถ้าจะหัดหลอกคน...คิดให้มันรอบคอบหน่อย



บุญเน่า...

มันพูดเพ้อเจ้อขนาดนี้คนยังไปเชื่อ อาตมาแปลกใจจริง ๆ พระเองก็งง ทำไมคนไทยเดี๋ยวนี้มันถึงงมงายไร้สติได้ขนาดนี้ เมื่อ 2-3 วันนี้ โยมผู้หญิงคนหนึ่งมาหาอาตมาที่วัด ร้องห่มร้องไห้มาเลย พี่น้องทะเลาะกันแบบเอาเป็นเอาตาย พี่สาวไม่รู้ไปหลงคารมเซลล์บุญอีท่าไหน มาขอยืมเงินน้องสาวไปสิบล้านบาท น้องสาวนึกว่าเอาไปลงทุน เบิกเงินสด ๆ ให้พี่ 10 ล้านบาท ที่ไหนได้ เอาไปให้ธรรมกาย เอาไปทำบุญหมดเลยตอนฉลองเจดีย์ใหญ่ น้องสาวรู้เรื่องเข้า...เป็นลม...เงินสะสมมาทั้งชีวิตเอาไปทำบุญสร้างเจดีย์เกลี้ยงเลย ตอนนี้ไม่มีอะไรจะกินพากันเดือดร้อนทั้งตระ***
มันไร้สติ...งมงาย...และโง่สิ้นดี ทำบุญจนหมดเนื้อหมดตัว ทำบุญเสร็จแทนที่จะได้บุญมีความสุข...พี่น้องทะเลาะกัน เกือบจะฆ่ากันตาย

โยม...โยมที่มาฟังเทศน์วันนี้เนี่ย มีลูกศิษย์ธรรมกายมาฟังบ้างไหม..?..ไม่มีเหรอ...เออ ค่อยเทศน์ง่ายหน่อย อาตมาอยากเตือนพวกเราชาวพุทธว่า เวลาทำบุญให้มีสติ ให้พิจารณาให้ดีว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เวลาทำบุญ อย่าหลงบุญ ทำบุญผิดมันจะเดือดร้อนและไม่ได้บุญ กลายเป็นบุญเน่า..เป็นบุญ NPL คือบุญที่ไม่เกิดประโยชน์
ธรรมกายนี่ถือเป็นบุญเน่านะ มันสร้างเจดีย์ใหญ่ที่สุดในโลก วางแผนหล่อพระพุทธรูปตั้งล้านองค์ จะเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาของโลก ตั้งโรงหล่อในวัดเลย หล่อได้ 3 แสนองค์ น้ำเน่าออกไปนอกวัด น้ำข้างวัดเน่าปลาตายเน่า ลอยเกลื่อนไปหมด...บุญบ้าอะไรเน่าทั้งวัด ไหลเน่าออกไปนอกวัด ยังไม่ทันได้เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาของโลกเลย ดันเน่าซะก่อน...เวรกรรม...



ปราสาทยอดด้วน...

ที่นี่ก็เหมือนกัน เลยวัดอาตมาไปหน่อย..."วัดไผ่โรงวัว" ...หลวงพ่อขอมคิดการใหญ่สร้างปราสาท 300 ยอด ไว้ให้คนชื่นชมความงาม สร้างไปได้ 200 ยอด...มรณภาพ..ตาย...ความซวยมาตกอยู่ที่เจ้าอาวาสองค์ใหม่..หาเงินมาสร้างต่อไม่ได้ปล่อยทิ้งอยู่ยังงั้น จนนั่งร้านเน่าไม่มีปัญญาสร้างต่อ หลวงพ่อขอมสร้างพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างไม่ทันเสร็จ...ตาย...เจ้าอาวาสองค์ใหม่ไม่มีเงินสร้างต่อ ปล่อยทิ้งไว้ เศียรพระหัก หัวกับตัวแยกกันอยู่...เห็นแล้วสังเวชใจ



คนใจบุญ...

วันหนึ่งอาตมาไปเทศน์ที่ภาคอิสาน ไปเจอเรื่องหนึ่งน่าคิดมาก อาตมาไปเทศน์ที่ขอนแก่น เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง คนที่นี่เขาร่ำลือกันทั้งจังหวัดว่า เจ้าของมหาวิทยาลัยเป็นคนใจบุญมาก เวลาพระมาเรี่ยไรสร้างเจดีย์ใหญ่ที่สุดในโลก แกถวายทีละล้าน แต่มีนักศึกษาคนหนึ่งพ่อเกิดตกงานเพราะพิษ IMF ไม่มีเงินมาจ่ายค่าเทอม แกไม่ยอมให้เข้าสอบแล้วไล่ออก...ฟังแล้วสะเทือนใจจริง ๆ...ถ้าเป็นอาตมานะ จะเอาเงินครึ่งล้านที่สร้างเจดีย์น่ะมาให้เป็นทุนแก่นักศึกษาที่มันเรียนดีแต่ยากจน เอามาเป็นค่าเทอมให้กับนักศึกษาสัก 100 คนที่พ่อแม่มันตกงานแล้วไม่มีเงินเรียน...มันได้บุญ ได้ประโยชน์มากกว่าเอาไปสร้างเจดีย์บ้า ๆ บอ ๆ นั่นอีก



อานิสงส์...ของการสร้างเจดีย์

ข้างวัดอาตมานี่...มีอยู่คนหนึ่ง ขายที่ได้ 10 กว่าล้าน ลูกหลานมาขอยืมหมื่นสองหมื่นเอาไปทำทุนค้าขายส่งลูกเรียน...แกไม่ให้ เอาเงินไปสร้างเจดีย์หมดเกลี้ยงเลยไม่มีเก็บติดตัวไว้ซะด้วย พอหมดตัวไม่มีกินมาขออาศัยลูกหลานอยู่...ลูกหลานมันไล่ออกจากบ้าน มันบอกว่า...ให้ไปมุดหัวอยู่ในเจดีย์ที่สร้างไว้โน่น....



เรื่องลึกลับ...

ชาวพุทธบ้านเราตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะ ชอบไสยศาสตร์...ชอบทรงเจ้าเข้าผี...ชอบเรื่องลึกลับ วัดไหนสอนเรื่องอิทธิฤทธิ์...ปาฏิหาริย์...วิญญาณ...ใบ้หวย ชอบแห่กันไปทำบุญล้นวัดเลย แต่ถ้าวัดไหนสอนเรื่องลึกซึ้ง ธรรมะของพระพุทธเจ้า...สอนเรื่องการดับทุกข์...เป็นเรื่องลึกซึ้ง มันไม่ฟัง มันไม่ชอบ มันไม่ตื่นเต้น...ไม่ มาทำบุญ พระเณรเลยพากันอดหน้าซีดเลย คนปัจจุบันนี้มันคิดผิด เห็นกงจักรเป็นดอกบัว วันก่อนอาตมาเทศน์เสร็จ กลัวว่าคนฟังจะไม่เข้าใจแจ่มแจ้งในเรื่องที่เทศน์ จึงเปิดโอกาสให้ญาติโยมได้ถามปัญหา

"ที่เทศน์มา...ใครสงสัย...ไม่เข้าใจอะไร...ให้ถาม" โยมผู้หญิงคนหนึ่งถามว่า "ผีมีจริงไหมหลวงพ่อ..?" "แล้วคนเราเมื่อตายแล้วไปไหน..?
เราเทศน์เรื่องการดับทุกข์ มันถามเรื่องผี เรื่องวิญญาณ คนไทยปัญญาอ่อนลงทุกวัน 4-5 คำถามเป็นเรื่องลึกลับหมด



ผีมีจริง...

จะตอบว่าไม่มีมันก็ไม่เชื่อ เพราะพวกทรงเจ้าเข้าผีมันบอกว่ามี ***ครั้นจะตอบว่ามี...ถ้ามันถามว่าพระเคยเห็นไหม ? ก็ไม่รู้จะตอบยังไงเพราะพระไม่เคยเห็น ไม่เคยเห็นแล้วจะตอบว่ามีได้ยังไง แล้วคนไทยเนี่ย นิสัยเสียนะ เลี้ยงลูกไม่เป็น....มันถามว่า..ผีมีไหม..? คนทรงเจ้าบอกว่ามี น่ากลัวไหม...น่ากลัว...มันกลัวขนหัวตั้งเลย

กลัวคนเดียวไม่พอ ไปหลอกลูกอีก..."ระวังผีหักคอ"...ลูกเลยกลัวไปอีกคน พอพระอาทิตย์ตกดิน ทั้งแม่ทั้งลูกไม่ต้องไปไหน...ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม...กลัวผี ปัญญาอ่อนจริง ๆ คนสมัยนี้

โยมผู้หญิงเห็นอาตมาเงียบไปนาน แกถามซ้ำอีก "หลวงพ่อ...ตกลงผีน่ะมีไหม..?" มี...โยม...น่ากลัวไหม..? น่ากลัว...มีผีอะไรบ้าง..?

แน่ะ...ลองภูมิพระ ให้พระจำแนกผีให้ฟังด้วย มันเห็นพระเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องผีไปซะแล้ว ก็มี...ผีบ้า...ผีเปรต...ผีพนัน...ผีปัญญาอ่อน...

แกทำหน้างงงงไม่เคยได้ยิน อาตมาเลยต้องอธิบายให้ฟัง

ผีบ้า...ก็คือพวกที่คิดอะไรไม่ได้เรื่องได้ราว เชื่อเรื่องที่ไม่ควรเชื่อ...บ้าหวย ให้ทุกอย่างเพื่อขอหวย

ผีเปรต...คือพวกที่ไม่คิดทำงานทำการ ไม่ทำมาหากิน ขอเขากิน เกาะพ่อเกาะแม่กิน ทำตัวเป็นเปรต ชอบขอ

ผีพนัน...คือพวกที่ชอบเล่นการพนันจนโงหัวไม่ขึ้น ตีไก่ กัดปลา เล่นม้า เล่นมวย แทงหวย แทงบอล

ผีปัญญาอ่อน...คือ พวกที่ ติดเหล้า ติดบุหรี่ ติดยาเสพย์ติด รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ดี ทำลายสุขภาพ...ก็ยังปัญญาอ่อนไปติดมัน

"หลวงพ่อมั่วหรือเปล่า..?" ผีที่หลวงพ่อพูดถึง หนูไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน

"โอ...อาตมาเป็นห่วงโยมจังเลย...ผีพวกนี้มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ถ้าไม่เคยเห็นแสดงว่าโยมถูกผีสิงซะแล้วหละ"

"ผีอะไรเข้าสิงหรือหลวงพ่อ..?"

" ผีโง่...นะซีโยม..."


ตายแล้ว...ไปไหน...

แกหน้าเสียรีบเปลี่ยนคำถามเลย ตกลงคนเราตายแล้วไปไหนหลวงพ่อ

อ้าว...โตจนป่านนี้ยังไม่รู้อีกเหรอว่าตายแล้วไปไหน "ยังไม่รู้เจ้าค่ะ"

โอ...โง่จริงๆ คนเราตายแล้วก็ไป...ป่าช้า...ซิโยม จะปล่อยให้เหม็นอยู่บ้านรึไง..?

แกยกมือไหว้แล้วเดินจ้ำอ้าวไปเลย...พระตอบไม่ตรงกับที่โยมคิด โยมถามไม่ตรงกับเรื่องที่พระสอน ก็เลย...ทางใครทางมัน...พระสอนให้ลดทุกข์...ดับทุกข์ แต่โยมถามเรื่องที่เพิ่มทุกข์
ถามว่าผีมีจริงไหม..? ตอบว่ามี...มันก็ทุกข์อีก...เพราะกลัวผี

ถามว่าตายแล้วไปไหน..? ตอบว่าไปไม่ดี...มันก็ทุกข์อีก...เพราะมันอยากให้ไปในทางที่ดี

เห็นความโง่ของมนุษย์หรือยัง...

โดยคุณ olympia (3.7K)  [อ. 28 มิ.ย. 2548 - 19:45 น.] #5964 (2/6)
ธรรมวาทะ.......พระพยอม

(๒)

ลอกมาทั้งดุ้นจาก "เทศนาฮาสุดขีด"...พระพยอม ราหู....พูดถึงคนไทยนี่น่าเบื่อนะโยม...ชอบเชื่อเรื่องงมงาย เรื่องผีแม่ม่าย ... ราหู ...เปรต...มีเรื่องมาให้งมงายกันทุกปี ปีหนึ่ง...มันเชื่อเรื่อง ราหู บ้าบออะไรก็ไม่รู้ ต้องทำพิธีไหว้ จนไก่ดำขาดตลาด วันวัน ไม่ต้องทำอะไร...วิ่งหาแต่ของดำ เอามาไหว้ราหู ออกจากบ้านแต่เช้า.... ...กลับเข้าบ้านอีกที...หน้าดำปี๋เลย.. ...เดินตากแดดทั้งวัน. ตีความ....***ราหูนี่มันทำคนเดือดร้อนเยอะนะ มีเงิน ไม่มีเงิน ต้องขวนขวายไปหาเงินมาไหว้ให้ได้ ไม่งั้นอายุสั้น แล้วทำไม่ถูกใจมันก็ไม่ได้....มันโกรธ..มันเอาถึงตาย จะบูชาราหู ต้องบูชาด้วยของดำ ๘ อย่างจึงจะพ้นเคราะห์ บางคนไม่เข้าใจ ไม่รู้วิธี เห็นเขาบอกว่าต้องใช้ของดำ ๘ อย่าง เอากล้วย อ้อย ผลไม้ ไปตากแดดซะดำปี๋เลย พอเอามาถวายพระ...ฉันไม่ได้...เ***่ยวมาเชียว เป็นภาระให้พระต้องเอาขยะไปทิ้ง พระต้องมาพลอยรับกรรมเพราะ***ราหูตัวนี้ไปด้วย ตอนหลังมีคนมาตีความ ทำให้สะดวกขึ้นหน่อย ของถวาย ๘ ดำ.....มันตีความว่า....... เป็น....ไก่ดำ ขนมเปียกปูน เฉาก๊วย ไข่เยี่ยวม้า งาดำ ถั่วดำ และข้าวเหนียวดำ เออ...ค่อยยังชั่วหน่อย...ค่อยยิ้มออก พระจะได้หมดเคราะห์เสียที ที่ไหนได้....***คนทำบุญมันกลัวไม่หมดเคราะห์ มันเสือกตีความเพิ่มเข้าไปอีก เวลามันจะถวายพระ มันเลือกถวายแต่พระดำ ๆ ราหูจะได้พอใจ ไม่ยอมทำบุญกับพระขาวกลัวไม่ถูกใจราหู เพราะความปัญญาอ่อนของมัน...ปีนั้นพระขาวอดข้าวเกือบตาย... ทำพระเดือดร้อน...***ราหูบ้าองค์นี้ ไม่รู้มันเป็นโรคอะไร ชอบแต่ของดำ ๆ วันก่อนผู้หญิงคนหนึ่งมาถวายสังฆทาน...***เราก็ไม่ได้สังเกต พอเขายกประเคน เราก็รับ.....พอชักมือกลับ เอ้ะ...ทำไมมันแฉะ ก้มลงดู โอ้โฮ...มือดำปี๋เลย มันเอาสีดำทาถัง ตอนมาถวายพระ สียังไม่ทันแห้ง เวรกรรมจริง ๆ.....พระไม่ได้ไปเชื่ออะไรกับมันด้วย ยังต้องพลอยเดือดร้อนไปกับมัน

ยมบาลงี่เง่า...คนไทยนี่เชื่อคนง่าย แล้วก็งมงายด้วย คนไทยเป็นคนขี้กลัว ใครลืออะไร กลัวไปหมด แล้วเชื่อทุกเรื่อง.... เมื่อปีก่อนมีคนร่ำลือกันว่า...เทพเจ้ามาเข้าฝัน ว่าจะไปอุบัติในอีกโลกหนึ่ง แต่ตอนนี้ยังขาดบริวาร จึงขอให้ยมบาลมาเอาบริวารจากเมืองมนุษย์ไปส่งให้หน่อย เทพเจ้าองค์นี้งกมาก ต้องการบริวารเยอะ ๆ ที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยตัว สอ มา ***คนลือมันรู้ว่าคนไทยมีอักษรนำหน้าชื่อที่เป็นตัว สอ เยอะที่สุด เพราะในภาษาไทยมีตัว สอ ตั้ง 3 ตัว....ศ..ษ..ส โอ้โฮ...พอข่าวนี้แพร่กระจายออกไป คนที่มีชื่อนำหน้าด้วยสารพัด สอ ...ตกอกตกใจ เดือดร้อนวุ่นวายกันทั้งประเทศ.....กลัวตาย กลัวยมบาลมารับไปเป็นบริวารของเทพเจ้าองค์ใหม่ ***คนให้ข่าวลือนี่มันเข้าใจเล่นนะ.... มันบอกว่า ใครที่ไม่อยากตาย....มีวิธีแก้เคล็ด โดยให้เขียนป้ายปิดไว้หน้าบ้านว่า บ้านนี้ไม่มีคนชื่อ ศ..ษ..ส แล้วให้เอากล้วยแขวนไว้หน้าบ้านหวีหนึ่ง มันบอกว่าเป็นการโกหกยมบาล....พอยมบาลมาถึงหน้าบ้าน เห็นป้ายว่าไม่มีคนชื่อ ศ..ษ..ส ...........จะได้เดินเลยไป........ แหม..***ยมบาลปัญญาอ่อน ทำไมถึงโง่ขนาดนี้ มันติดป้ายหลอก ยังไปเชื่อมันอีก...งี่เง่าสิ้นดี...... ปัญญาอ่อน...เท่านั้นยังไม่พอ มันบอกว่า ยมบาลมาไกล จะหิว พอมาเจอกล้วยที่แขวนไว้หน้าบ้าน จะได้หยิบกล้วยไปกินระหว่างเดินทาง ***ยมบาลงี่เง่า ตั้งใจมาเอาชีวิตคน มาเจอกล้วย......เปลี่ยนใจ ต่อไป พอใครจะตาย ....เอากล้วยมาล่อยมบาล..........รอด..... อาตมา มานั่งสงสัยว่า ***คนที่มารับวิญญาณนี่ ตกลงยมบาลหรือลิงกันแน่วะเนี่ย....กินแต่กล้วย บางคนกลัวมาก หวีเดียวไม่พอ...กลัวยมบาลไม่อิ่ม แขวนเป็นเครือเลย เรียกว่าทั้งแจก ทั้งแถม กินวันนี้ไม่หมด...... แบกไปกินในนรกด้วย..... บางคนมันคิดแปลก คิดรอบคอบ... มันบอกว่า บ้านทรงไทย หน้าบ้านกับหลังบ้านคล้ายๆ กัน ยมบาลไม่ค่อยคุ้นเดี๋ยวเข้าผิดทาง .......มันเอากล้วยไปแขวนทั้งหน้าบ้าน หลังบ้านเลย.... ....***เข้าทางไหน....เจอหมด....... .....อาตมานั่งขำ.... ยมบาลนี่ เป็นยมบาลได้ไง.. เซ่อซ่าจริง ๆ...ไม่รู้กระทั่งว่า ด้านไหนหน้าบ้าน ด้านไหนหลังบ้าน

ผีแม่ม่าย...พอเรื่องอักษร สอ ค่อย ๆ เงียบไป มันมีเรื่องลือกันใหม่อีก ตอนนั้นคนอีสานเป็นโรคไหลตายกันเยอะ นอนหลับอยู่ดี ๆ...ตายไปเฉย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ หมอบอกว่าเป็นโรค "ไหลตาย" คือ หัวใจวายตาย.....แต่คนอิสานไม่เชื่อ มีคนเอาไปลือกันว่า ผีแม่ม่ายกำลังอาละวาด ตอนกลางคืนจะออกมาตระเวณหาผู้ชายไปทำผัว โอ้โฮ...คนเชื่อกันทั้งประเทศ ..... มันเชื่อข่าวลือ...มันไม่เชื่อหมอ.... ผู้หญิงไม่อยากให้ผัวตาย เพราะสมัยนี้ผัวหายาก...เศรษฐกิจไม่ค่อยดี หาวิธีแก้เคล็ดกันยกใหญ่ ....พอตกเย็นก็จับสามีนุ่งผ้าถุง เขียนคิ้ว แต่งหน้า ทาปาก ทาเล็บ ทัดดอกไม้ ใส่ยกทรง..... ...แล้วเข้านอน กลางคืน ผีแม่ม่ายมาหา...จำไม่ได้...นึกว่าเป็นผู้หญิง เลยรอดตาย...... อาตมาฟังแล้วสมเพช... ผีปัญญาอ่อน...อีผีซื่อบื้อ...อีผีไม่รอบคอบ...ทำไมถึงโง่ขนาด นั้น ทำไมมันเชื่อคนง่าย ๆ...เขานุ่งผ้านุ่ง แต่งหน้า ทาปาก ทาเล็บ ใส่ยกทรง หน่อยเดียวเชื่อซะแล้ว....จะเปิดผ้าถุง เอามือคลำดูหน่อยก็ไม่ได้.....

ปีมะ... สมัยก่อนผีมันหลอกคน สมัยนี้คนมันหลอกผี แล้วผีก็เสือกเชื่อเสียด้วย ......อาตมาว่ามันชักจะไปกันใหญ่ ความเชื่อของคนนี่... พอผีแม่ม่ายเริ่มเงียบ....มันเริ่มลือกันต่ออีกแล้ว มันเข้าใจไปหาเรื่องใหม่ๆมาลือ มันบอกว่า ... ใครเกิด "ปีมะ"... ถึงคราวเคราะห์ จะต้องตายในปีนี้ ถ้าไม่อยากตายให้ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ ***พวกที่ให้ข่าวลือนี่ เขาสงสัยกันว่าเป็นสำนักเจ้าเข้าทรงต่าง ๆ พอลูกค้าน้อย...คนไปทำบุญน้อย พวกร่างทรงทำท่าจะอดตาย เลยต้องลือออกมาเป็นระยะ ระยะ คนปีมะก็แห่กันไปทำบุญสะเดาะเคราะห์...เลยไม่รู้ว่าต่อชีวิตใคร ต่อชีวิตคนสะเดาะเคราะห์ หรือต่อชีวิตสำนักทรงเจ้า....... ***พวกนี้มันฉลาดจริง ๆ มันไม่เอาปีจอ ปีชวด ปีฉลู....เพราะมันมีแค่ปีเดียว มันเลือกปีมะ เพราะในรอบ 12 ปี มีตั้ง 4-5 มะ.....มะเมีย มะแม มะโรง มะเส็ง คนเกิดปีมะเยอะที่สุด ***พวกที่กลัวตายก็แห่กันไปทำบุญสะเดาะเคราะห์...ต่อชะตา เสียเงินเสียทอง มากน้อยตามความโง่ของตัวเอง มีแต่สำนักทรงเท่านั้น ที่รับสะเดาะเคราะห์จนรวยไปตาม ๆ กัน



โดยคุณ duckman (92)(1)   [อ. 28 มิ.ย. 2548 - 22:52 น.] #5967 (3/6)

โดยคุณ tanatat (1K)  [พ. 29 มิ.ย. 2548 - 21:46 น.] #5975 (4/6)

โดยคุณ olympia (3.7K)  [อ. 22 พ.ค. 2555 - 17:52 น.] #2259704 (5/6)


(N)
.

โดยคุณ olympia (3.7K)  [พฤ. 31 พ.ค. 2555 - 18:24 น.] #2273008 (6/6)


(N)
.

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM