สร้างในสมัยอยุธยา
เรื่อยมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
สร้างเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาครับ
และเพื่อการแก้บน รวมถึงการทำบุญโดยนำพระไปถวายที่วัด(ในสมัยโบราณ)
เช่น พระรัตนะลงรักปิดทองหรือพระรัชกาลก้นดินไท ก็จัดรวมอยู่ในประเภทเดียวกัน
ร้านสังฆภัณฑ์ในสมัยรัชกาลที่5 เป็นเรือนไม้
จำหน่ายพระบูชาประเภทนี้แหละครับ (ข้อมูลนี้มีรูปถ่ายยืนยันครับ หาชมได้ในพิพิทธภัณฑ์แห่งชาติ)
พระบุทององค์ในภาพเป็นพระดูง่ายครับ
ปัจจุบันของเลียนแบบมีจำนวนมากและก็ทำจากทองคำเหมือนกันเลย
แต่ข้อสังเกตุ
เราจะดูจากงานที่ทำออกมาคือ ของเก่างานบุทองเนื้อทองจะมีความหนาเมื่อเทียบกับพระเก๊เลียนแบบ
และของแท้ไม่รีดเนื้อทองให้แน่นติดองค์พระซึ่งพระเก๊เลียนแบบจะรีดเนื้อทองบางๆและรีดเนื้อทองให้แน่นแนบสนิทไปกับองค์พระและรายละเอียดส่วนต่างๆไม่มีการตกแต่งใดๆ
(เพราะทองบาง ถ้านำมาแต่งหรือเขียนราย ทองก็จะขาดได้)
ของเก๊จะทำรายละเอียดได้สวยงามหน้าตาเด่นชัด โดยทำหุ่นด้านในไว้สวยงามอยู่แล้วและนำทองมารีดติดไปกับองค์พระให้แน่นเพื่อขึ้นรายไปในตัว
ซึ่งต่างจากของเก่าแท้จะมีการแต่งรายละเอียดที่หลังจากบุทองโดยสังเกตุให้ดีจะพบว่ามีการเขียนหน้าองค์พระ
ส่วนเม็ดตาองค์พระจะใช้เหล็กแหลมจิ้มเป็นรูและรายละเอียดส่วนต่างเช่นจีวร,นิ้วมือ,นิ้วเท้า ใช้การเขียนกดลายเพื่อให้เห็นชัดขึ้น
และปลายเกตุ จะนำทองมาม้วนเป็นทรงกรวยแล้วเสียบปักลงไปเฉยๆในเม็ดพระศก
ของเก๊จะทำเนื้อทองส่วนนี้เป็นชิ้นเดียวกันไปเลย
ปล.ทั้งพระบุทองและบุเงินก็สร้างแบบนี้เหมือนกันหมดครับ
ในสมัยโบราณผู้ที่มีฐานะก็จะเช่าพระบุทองไปทำบุญ
ส่วนฐานะน้อยหน่อยก็เช่าพระบุเงินหรือพระตะกั่วไปทำบุญ
ในยุคปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่าพระเงินพระทองที่เราๆนำไปทำบุญจะทำมาจากพลาสติกมีขายตามร้านสังฆภัณฑ์องค์เล็กองค์ละ1บาท
วัตถุประสงค์เหมือนในสมัยโบราณแหละครับ
สุดท้ายถ้าข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้
 |
|