กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

พี่ๆครับ ผมไม่มีเจตนาแอบแฝงครับ เหตุเนื่องมาจากสนใจพระองค์หนึ่งในเวบการันตีพระเป็นของหลวงพ่อท่าน เลยไปหาข้อมูลมาอ่านและไปพบข้อมูลอันนี้เข้า เลยทำให้ต้องหยุดความคิดและความอยากที่จะได้ลงไปเลยครับ ถึงพระจะจริงไม่จริงผมก็ยอมเป็นคนโง่ที่ไม่ซื้อของถูกดีกว่าเป็นคนโง่ที่ซื้อของปลอมครับ

------------------
“พระกรุพระเก่า” ก็คือปฐมบทแห่งการสะสมพระเครื่องของ “นักเลงพระยุคโบราณ” ทั้งนี้เพราะพระกรุสร้างขึ้นก็เพื่อ “สืบสานพระพุทธศาสนา” ให้คงอยู่แล้วบรรจุกรุไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้สืบสานต่อ ซึ่งหลังจากคนรุ่นหลังนำออกมาจากกรุแล้วแรก ๆ ก็มีการแบ่งปันกันไปโดยไม่มีการ “ซื้อขาย” ซึ่งต่อมามีผู้นำติดตัวไว้แล้วเกิดมี “ประสบการณ์” โดยหลาย ๆ คนทำมาค้าขายขึ้น บางคนมีโชคลาภ บางคนประสบอุบัติเหตุแต่ไม่เป็น อะไรจึงทำให้เชื่อว่า “พระกรุ” หรือ “พระเครื่อง” มีความศักดิ์สิทธิ์เลยเกิดการเสาะแสวงหามาอาราธนาเพื่อคุ้มครองป้องกันตัว

ดังได้กล่าวมาแล้วในตอนก่อน ๆ ว่า “วัฏจักรของพระเครื่อง” จะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปตามความนิยมดังเช่นปัจจุบันต่างก็ทราบกันดีว่าพระชุด “จตุคามรามเทพ” ได้จุดกระแสความนิยมที่รุนแรงมากซึ่งเรื่องนี้ผู้เขียนก็ได้กล่าวไปแล้วในตอนก่อน ๆ จึงไม่ต้องกล่าวถึงอีกส่วนที่จะกล่าวถึงวันนี้ก็คือ การสะสมพระเครื่องมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามกระแสความนิยมอย่างเช่นในยุคที่ “พระกรุ” เฟื่องฟูพระกรุอะไรที่ไหนมีเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอให้เซียนนำมาซื้อขายกันหรือในยุคที่ “พระกริ่ง” เป็นที่นิยมก็จะมี “พระกริ่งสร้างใหม่” พาเหรดกันสร้างออกมาหรือในยุคที่ “พระวัดปากน้ำ” เป็นที่นิยมก็จะมี “พระวัดปากน้ำรุ่นใหม่ ๆ” สร้างออกมาให้นักสะสมเลือกบูชาเอง

โดยเฉพาะเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๕-๒๕๒๙ ความนิยมสะสมพระเครื่องเริ่มรุนแรงขึ้น “พระกรุพระเก่า” จึงเริ่มหายากเพราะมีจำนวนจำกัดเลยทำให้บรรดา “นักขาย” ที่ไม่เกรงกลัว “บาป” สร้างเลียนแบบแล้วนำไปยัดกรุไว้กระทั่ง “วันดีคืนดี” ก็นำออกมาจากกรุที่ยัดไว้พร้อมสร้าง “นิยายน้ำเน่า” เป็นพระยุคเก่าเพื่อหลอกขาย “ผู้ปัญญาเบา” ว่าเป็นพระที่สร้างในสมัยโบราณแล้วบรรจุกรุไว้มีคนไปพบเข้าจึงนำมาขาย เช่น “พระสมเด็จกรุถ้ำสิงโตทอง จ.ราชบุรี” ซึ่งทำเป็นแบบ “พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม” พร้อมมีความพยายามที่จะบรรจุเข้า “รายการประกวดพระเครื่อง” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการขายกระทั่งมีการนำ “ความจริง” ออกมาตีแผ่พระสมเด็จกรุนี้จึงหายไปจากสารบบการสะสมซึ่งนอกจาก “พระสมเด็จกรุถ้ำสิงโตทอง” แล้วยังมี “พระยอดธงกรุวัดพระธาตุแหลมลี่ จ.ลำพูน, พระซุ้มกอกรุวัดป่ามืด, พระซุ้มกอกรุวัดดอกไม้ ฯลฯ” ที่ล้วนแต่เป็นเทคนิคของนักขายพระที่ไม่กลัวบาปตามสนองจนภายหลังมีการพิสูจน์ว่าไม่ใช่ “ของแท้” พระเครื่องที่เป็น “ผียัดกรุ” เหล่านี้จึงหายไปจากสารบบการสะสมพระเครื่อง

ถึงกระนั้นก็ยังมีการนำ “พระผียัดกรุ” ออกมาขายแต่นักสะสมส่วนใหญ่ “รู้ทัน” และไม่เล่นด้วยพระผียัดกรุหลาย ๆ รุ่นจึงหายไปจากวงการแต่เมื่อพระรุ่นนี้ “เซียนผู้ปัญญาดี” รู้ทันแล้วก็ยังมีการนำ
“พระยัดวัด” ออกมาอีกด้วยไม่จบสิ้นอย่างล่าสุดที่ผู้เขียนไปเจอมาก็คือพระ “หลวงพ่อคร้ามวัดพระเงิน” บางใหญ่ จ.นนทบุรี ที่กำลัง “ต้มยำผู้ปัญญาเบา” อยู่เวลานี้เพราะนำ “พระเก๊” มายัดเป็นพระแท้ของ
“หลวงพ่อคร้าม” พร้อมมีการอวดอ้างสรรพคุณว่าพระเครื่องของ “หลวงพ่อคร้าม” นี้มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์นานาประการรวมทั้งหากผู้ใดมี “คดีความ” ขึ้นศาลให้อาราธนาพระของหลวงพ่อคร้ามแล้ววางทับลงบนกระดาษที่เขียน “ชื่อ-นามสกุล-วันเดือนปีเกิด” ของคู่กรณีก็จะทำให้ “ชนะความ” หรือ “ยอมความโดยง่าย” จึงทำให้เกิดกระแสต้องการขึ้นมาเพราะพระชุดนี้ที่อ้างว่า “หลวงพ่อคร้าม” เป็นผู้สร้างก็สร้างด้วย “เนื้อดินเผาผสมผงพุทธคุณ” เช่นกันกับพระของ “หลวงพ่อปานวัดบางนมโค” และมี “หลายพิมพ์” แถมเป็นพระพิมพ์ประทับอยู่บนสัตว์เหมือนของ “หลวงพ่อปาน” ทุกประการซึ่งเท่าที่สอบถาม “ผู้รู้” ปรากฏว่าผู้รู้ต่างก็ “ไม่เคยพบเห็น” มาก่อนแต่ปัจจุบันมีออกมาขายในรูปแบบ “พระพิมพ์ทรงประทับสัตว์” เพียงแต่เนื้อจะออก “สีดำ” ที่สำคัญมีการนำเข้าบรรจุรายการประกวดพระมาหลายงานแล้วโดยอ้างว่า “พระพิมพ์ทรงประทับสัตว์” นี้เป็นพระสร้างขึ้นในสมัยหลวงพ่อคร้าม “ยังมีชีวิต” แล้วนำไปบรรจุไว้ใน “พระเจดีย์ของวัดอีกแห่งหนึ่ง” นอกจากนี้ยังมีพิมพ์แปลก ๆ เพิ่มเติมมาอีก เช่น “พิมพ์ขุนแผน, พิมพ์หลวงพ่อโต, พิมพ์กรุวัดบางกระทิง” และยังมีเนื้อพิเศษ “ว่านสบู่เลือด” อีกด้วย

ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลที่ “วัดพระเงิน” พร้อมเซียนในละแวกนั้นปรากฏว่า “พระพิมพ์ทรงประทับสัตว์” และ “พระเครื่องพิมพ์แปลก ๆ” ที่ด้านหลังเป็นยันต์พญาเต่าเรือนนี้ในสมัยที่หลวงพ่อคร้าม “ยังมีชีวิต” ไม่เคยเห็นมีการนำพระพิมพ์เหล่านี้มาแจกเลยจึงไม่ทราบว่า “มาจากไหน” จึง “ไม่น่าเชื่อถือ” และที่แน่ ๆ คนในละแวกวัดไม่มีใครสะสมกันเลยเพราะ “เนื้อหา” ไม่เหมือนรุ่นที่หลวงพ่อคร้ามแจกให้แก่ศิษยานุศิษย์จะมีส่วนคล้ายบ้างก็คือมี “ยันต์พญาเต่าเรือน” อยู่ด้านหลังเท่านั้นแถมมี “จำนวนมาก” และหากนำมาเปรียบเทียบกับพระหลวงพ่อปานแล้วก็จะเป็นพิมพ์แบบเดียวกัน

จึงเตือนมายังท่าน “ผู้อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” ทั้งหลายระวัง “พระยัดวัด” ดังกล่าวนี้ด้วยนอกจากกำลังอาละวาดแล้วถ้าไปบูชามาพอจะนำไปคืน “คนขาย” ก็บ่ายเบี่ยงขอหักเปอร์เซ็นต์บ้าง คืนเงินให้บางส่วนบ้าง ฉะนั้นต้องระวังอย่าไป “อยากได้” เป็นดีที่สุดเลย.
--------------------------------------------