กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ศีล๕ ครับ

(D)

ศีลข้อ๑ ปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
คือ ผู้ที่ขาดเมตตาธรรม มีจิตใจโหดเหี้ยมทารุณ
ได้แก่ทำลายล้างผลาญ
บีฑากันประหัตประหารเหมือนผักเหมือนปลา โดยถือว่าตัวเองมีอำนาจ อิทธิพล
มีพละกำลังจึงประหัตประหารหรือเบียดเบียนรังแกผู้ที่มีกำลังน้อย
โดยเฉพาะอย่างนิ่งพวกสัตว์ที่มีคุณมากเช่น ช้าง ม้า โค กระบือ ถือว่าเป็นสัตว์ใหญ่มีพระคุณต่อชาวโลก
ยิ่งทำด้วยจิตใจอาฆาตพยาบาทจองเวรแล้วยิ่งมีเวรมีกรรมติดต่อเสมือนหนึ่งเงาติดตัวไป

โดยคุณ aumphorn (771)

[พฤ. 11 ม.ค. 2550 - 10:46 น.]

โดยคุณ aumphorn (771)

[พฤ. 11 ม.ค. 2550 - 10:47 น.] #70561 (1/36)

ศีลข้อ๒ อทินนาทาน ลักขโมยทรัพย์สิน
คือผู้ประพฤติผิดศีลข้อสอง อทินนาทาน เช่น ขโมยของพระสงฆ์ ฉ้อโกง ตลอดทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง
และทำลายทรัพย์สินของผู้มีพระคุณ เป็นต้น
พูดง่ายๆ ก็คือมีเจตนาลักหรือถือเอาสิ่งของผู้อื่นโดยอาการขโมยโดยที่เจ้าของไม่ได้อนุญาต
และการล่วงเกินสิทธิของผู้อื่น เช่น โกงเลือกสวนไร่นา โกงแผ่นดิน โกงชาติ โกงศาสนา

โดยคุณ aumphorn (771)

[พฤ. 11 ม.ค. 2550 - 10:47 น.] #70562 (2/36)

(D)
ศีลข้อ๓ กาเมสุมิจฉาจาร ผิดลูกผิดผัว-เมียผู้อื่น
คือบุรพกรรมของหมู่สัตว์นรก ผู้กระทำผิดศีลข้อ๓ คือข้อกาเมสุมิจฉาจาร
อันได้แก่ ประพฤติผิดลูกผิดเมียและผิดสามีของผู้อื่น
อย่างนี้เรียกว่า ล่วงประเวณี อันเป็นที่รักที่หวงแหนของผู้ที่เป็นเจ้าของ
โดยที่สุดกระทั่งผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย เรียกว่าพรากผู้เยาว์ หรือผิดจารีตประเพณีแบบแผนโบราณ
ผิดทำนองคลองธรรม เหล่านี้ต้องถูกส่งลงนรกหรือปีนต้นงิ้วโดยไม่ต้องสงสัย ฯลฯ
สรุปคือเป็นผู้มีราคะตัณหามาครอบงำอย่างหนาแน่น

โดยคุณ aumphorn (771)

[พฤ. 11 ม.ค. 2550 - 10:48 น.] #70563 (3/36)

(D)
ศีลข้อ๔ มุสาวามา พูดโกหก หลอกลวง ต้มตุ๋น
คือเหล่าสัตว์นรกที่มักพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อเหลวไหลไร้ความจริง หรือมักใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นก็เหมือนกัน
ตลอดทั้งผู้ที่มักโกหกหลอกลวง ด่าว่าบิดามารดา ครูบาอาจารย์
แม้การดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือว่ามีพระคุณใหญ่หลวง
หากใครผิดเข้าคือทำผิดหลายกระทง ผิดศีลข้อ๔ แล้วยังถือว่าเป็นคนอกตัญญูด้วย
ทั้งยังถือว่าเป็นผู้หาความเจริญไม่ได้ ฯลฯ
(ถูกตัดสินให้เป็นบ้า ใบ้ เสียจริต เป็นต้น)

โดยคุณ aumphorn (771)

[พฤ. 11 ม.ค. 2550 - 10:49 น.] #70564 (4/36)

(D)
ศีลข้อ๕ สุราเมระยะ เสพสิ่งเสพติด เช่น สุรา ยาบ้า
คือพวกเหล่าสัตว์ที่มักลืมตัวขาดสติความยับยั้งชั่งใจ
ดื่มแล้วฤทธิ์เมาทำให้ประมาทล่อแหลมต่อการขาดศีลข้ออื่นๆตามาด้วย
เรียกว่าเป็นทางแห่งความเสื่อมเสีย กล่าวคือ เสียสติ เสียคน เสียเงิน เสียเกียรติยศและศักดิ์ศรี
ประการสำคัญ ผู้ดื่มสุรามักก่อการอาละวาท มักพาลหาเรื่อง มักอวดเขื่องโต
พวกนี้กระทะทองแดงรออยู่แล้ว

โดยคุณ leela (1.2K)

[พฤ. 11 ม.ค. 2550 - 12:55 น.] #70578 (6/36)

ศีลข้อ 4 นี้ ใช้อยู่กับวงการพระเครื่องมาก ธรรมดาวันๆไม่ค่อยได้พูดโกหกกัน แต่พอเข้ามาเล่นพระเครื่อง โกหกกันสารพัด

สมมุติเช่น
1 ทุนมา 500 บาทก็บอกว่าทุนมา 800 บาท
2 กำไร 500 บาทก็บอกว่ากำไร 200 บาท
3 ของเก๊ ก็บอกว่าเป็นของแท้
4 ซื้อต่อจากเพื่อน ก็บอกว่ารับมาจากวัด จากมือหลวงพ่อ
5 ขอเช่าไว้บูชาราคาพิเศษ อ้างว่าไม่มีเงิน (อ้างความยากจนสารพัด) พอได้แล้วก็เอาไปปล่อยต่อ
ยังมีเรื่องโกหกเกี่ยวกับการซื้อ ขาย พระอีกมาก ใครเคยโกหกแบบไหน ถามใจตัวเองครับ มีคำตอบอยู่แล้ว นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น ใครไม่เคยโกหกกับการซื้อขายพระ ผมขอนับถือครับ
สำหรับผมนั้นธรรมดา ก็ไม่ค่อยได้พูดโกหก แต่เข้ามาเล่นหาพระเครื่องนี่โกหกเก่งขึ้นครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อ 1 และ ข้อ 2 ... พูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม

โดยคุณ aumphorn (771)

[พฤ. 11 ม.ค. 2550 - 13:24 น.] #70580 (7/36)

จริงอย่างที่พี่ leela บอกครับ
เรื่องโกหก ชีวิตจริงของผมก็ใช้การโกหกสารพัด สำคัญแต่ว่าไม่ให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนเท่านั้นเอง ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปสมัยนี้ถ้าไม่โกหกกันบ้างอยู่ไม่รอดครับ ยิ่งความก้าวหน้าในหน้าที่การงานยิ่งแล้วใหญ่
เรื่องการเช่าบูชาพระแต่ละคนก็มีความหวังไปคนละแบบ เช่น
1.นำมาห้อยคอ(ใช้เอง) ด้วยความที่อยากได้ก็สู้ราคากันไป แต่พอมีองค์แรกก็อยากมีองค์ที่สอง แล้วองค์แรกละ มีกี่คนที่เก็บไว้ มีกี่คนที่ให้บูชาต่อต่ำกว่าทุน มีกี่คนที่ให้บูชาราคาทุน มีกี่คนที่นำมาให้บูชาบวกกำไร
2.นำมาเพื่อตั้งใจให้บูชาต่อเพื่อหวังผลกำไร
3.เก็บไว้เพื่อเก็งราคา เพื่อให้บูชาต่อแล้วได้กำไร(เหมาะสำหรับผู้ที่ทุนสูง)
4.เก็บอย่างเดียว(พวกนี้จะโกหกน้อยหน่อย)
ฯลฯ
สรุปกิเสศ ตันหา สารพัด ทำให้มนุษย์ ต้องฝ่าฝืนศีล

โดยคุณ leela (1.2K)

[พฤ. 11 ม.ค. 2550 - 16:19 น.] #70601 (8/36)

ขอเสริมอีกเรื่องก็คือศีลข้อ 5 มีให้เห็นประจำสำหรับศูนย์พระเครื่อง และนักเล่นพระเครื่องทั้งหลาย เห็นมาหลายครั้ง และเห็นมาหลายศูนย์ หลังตู้ก็จะมีโต๊ะตัวหนึ่ง มีเหล้าวางอยู่ พร้อมโซดา กับแกล้ม หรือไม่งั้นก็มีเบียร์วางอยู่บนโต๊ะ เสร็จแล้วเจ้าของตู้ กับตู้ข้างเคียง ก็มานั่งบรรเลงเหล้าไป พร้อมกับขายพระไป ถ้ามีคนเข้ามาดู บางครั้งก็เอาพระมานั่งส่องดู ส่องทีกระดกเหล้าเข้าปากที เล่นผิดศีลกันซึ่งๆหน้าต่อหน้าพระเจ้า ... คนธรรมดาสู้ไม่ได้เลยครับ ... นับถือจริงๆเลยครับ

โดยคุณ jonny23 (629)

(4)

[ศ. 12 ม.ค. 2550 - 08:17 น.] #70856 (14/36)

เห็นด้วยกับพี่ ๆ ทุกท่านเลย โกหกอย่างไรทำให้มีความสุข โกหกอย่างไรมีความทุกข์?
ขอฝากสิ่งนี้ไว้เตือนใจตนเองนะครับ
เห็นเสือหมอบ อย่าเชื่อว่า เสือไหว้
เผลอเมื่อไร เสือกิน สิ้นทั้งขน
เป็นคนต้อง เกรงยำ น้ำใจคน
เขาถ่อมตน อย่าเหมา ว่าเขากลัว
เขาไม่สู้ อย่าเหมา ว่าเขาแพ้
คชสีห์แท้ หรือจะสู้ หมูชั่ว
วางตนสม คมประจักษ์ ในฝักตัว
ชาติคนชั่ว ลบหลู่ อย่าสู้มัน
เมื่อน้ำไหว ไหลเชี่ยว เป็นเกลียวกล้า
เอานาวา ขวางไว้ ภัยมหันต์
ชีวิตคน ปนยุ่ง พังพุ่งครัน
ต้องปล่อยมัน เป็นไป ใจสบาย
อวดฉลาด พูดออก บอกว่าโง่
ฟังเขาโอ้ อวดอ้าง อย่าขวางเขา
ขัดขอเขา เขาโกรธ พิโรธเรา
เป็นเรื่องเร่า ร้อนใจ ไม่เป็นการ
ใครมีปาก อยากพูด ก็พูดไป
เรื่องอะไร ก็ช่าง อย่าฟังขาน
เราอย่าต่อ ก่อก้าว ให้ร้าวราน
ความรำคาญ ก็จะหาย สบายเอย....
.......................สาธุ....สาธุ...........

โดยคุณ T_lek (92)

[ศ. 12 ม.ค. 2550 - 10:33 น.] #70891 (15/36)

ผมเก็บสะสมอย่างเดียว ก็เลยโกหกน้อยมากๆ เช่าพระมาจากวัด ก็ปล่อยราคาวัด หรือไม่ก็แจก (ถ้าพระอาจารย์ท่านให้มา) ราคาตลาดก็ติดตามเอาไว้ชื่นชมของที่มีเท่านั้น (เอาไว้โม้กับเพื่อนๆ) ปาณา ก็ไม่มีนอกจาก สังหารมด ปลวก ยุง ไม่ได้ไปตกปลาเหมือนก่อน อทินนนา ก็เกลียดมากๆ กาเมไม่ยุ่ง เพราะยุ่งแล้วปัญหาตามหลังไม่รู้จบ (เห็นเพื่อนๆ หลายคน ประสบอยู่) มุสา ก็ไม่ประพฤติ จะใช้วิธีการไม่พูด เป็นหลัก สุรา ก็ไม่แตะต้อง เพราะสุขภาพไม่อำนวย เมาแล้วปวดหัว หายใจไม่ออก ไม่สนุก ก็เลยเลิกดื่มไปโดยปริยาย อีกอย่างไปเป่ยันต์เกราะเพชรมา ข้อห้ามก็คือห้ามดื่มสุราด้วย เหลือบุหร่อย่างเดียวที่ยังคงสูบอยู่
เรากำหนดชะตาชีวิตไม่ได้ แต่เราสามารถกำหนดวิถีชีวิตของตนเองได้

โดยคุณ ผดุงชอบ (486)

[ศ. 12 ม.ค. 2550 - 19:58 น.] #70969 (19/36)

เห็น ด้วยกับ พี่ ๆ ทุกท่านครับ การโกหก เกิดกับ ทุกเพศ ทุกวัย ไม่สามารถ หลีกหนีได้ ฉนั้น เราควรทำไม่ให้ใครเดือดร้อนดีกว่าครับ ส่วนเรื่องการเช่าพระ ของแต่ละบุคคล ไม่ควรถามราคาทุนเค้าครับ เพราะว่า จะได้ผลตอบกลับมาเหมือนการโกหก ผมว่าถ้าเราพอใจหรือ ศรัทรา พระองค์นั้น ควรสู้ราคากันดีกว่า สวย ก็ แพง หน่อย ไม่สวยก็ถูกหน่อย นี่และครับ มนุษย์โลก และในวงการพระเครื่องมีมากมาย มิอาจพูดได้ครับ
ดังนั้น กระผมเอง ก็ ชอบ เรื่องพระเครื่อง และ ถ้ามีเวลาว่าง ก็ไปทำบุญครับ เพื่อ เป็น ศิริมงคลกับชีวิตครับ

ผมแบ่งให้เช่าแบบเอาเพื่อนฝูงครับ

โดยคุณ Lalit (1.3K)

[ส. 13 ม.ค. 2550 - 11:48 น.] #71027 (22/36)

เมื่อก่อนก็ผิด ข้อ 4(มุสา) กับ ข้อ 5 (สุรา) บ่อย มากๆ ข้อ 4 ส่วนใหญ่ไม่ค่อยตั้งใจ แต่ข้อ 5 นี่ตั้งใจมากๆ

แต่เดี๋ยวนี้รักษาครบ 5 ข้อได้สบายมาก ขอให้มีสติ ไม่จำเป็นว่าถ้าไม่โกหกแล้วจะไม่มีกิน จะเดือดร้อน เพราะถ้ามีสติจะสามารถใช้ปัญญา แก้ไขได้โดยไม่ต้องผิดศีล สุราผมอดตั้งแต่เข้าพรรษาปี 49 เป็นปีแรก ออกมา เมียกินเจ เลยติดเจต่อ จากนั้นเลยยาว ไม่รู้ใครจะเชื่อบ้าง (บอกซะก่อนเลิกโกหกแล้ว) เมื่อก่อนครอบครัวค่อนข้างแย่ อาศัยโกหกเพื่อเอาตัวรอดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่หลังจากเคร่งจริงๆแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าสถานการการเงินดีขึ้นมากมีเงินหมุนได้โดยไม่ต้องโกหก (เวลาผิดศีลก็รีบต่อศีลเลยอย่าให้ขาดนาน เพราะขาด 1 ข้อถือว่าศีลขาด ถือศีล 5 ต้องให้ครบ 5 ข้อ) ผมบูชาพระยึดพระพุทธคุณเป็นหลัก ยึดหลักคุณธรรม ไม่สนใจว่าพระเขาเช่ามาเท่าไร โกหกอย่างไร ผมพอใจเช่าผมก็เช่าต่อ กำไรที่เขาได้จากเราไปก็ทำให้เขาดีขึ้นมีกิน เราก็ได้บุญ ถือว่าเป็นการทำทานอย่างหนึ่ง ได้พระมาก็ยึดถือคำสอนของพระพุทธองค์เป็นหลัก ระลึกถึงคุณความดีและปฏิบัติดี ตามแบบอย่างพระที่เราได้มา แทบไม่ต้องขอโชคลาภ มีบ้างบางครั้งทุกข์ใจมีปัญหาหนัก ก็ขอบารมีท่านช่วยชี้แนะให้ได้พบหนทางแก้ไข และจะสำเร็จแทบจะทุกครั้ง และแปลกตอนหลังๆนี่บางครั้งพระท่านมาหาเราเอง ยกตัวอย่าง ผมเคยช่วยคนงานเอาไว้ พ่อเขาไม่รู้จะตอบแทนอะไรก็ให้พระมา เป็นสมเด็จเก่ามาก ข้างหน้าคล้ายวัดระฆัง แต่ข้างหลังมี อรหันต์ให้คนพอรู้ดู ก็บอกว่า ของดีให้เก็บไว้ แต่บอก ยากว่ามาจากที่ใหน นี่ว่ากำลังจะให้ G-Pra ตรวจอยู่ เพราะสภาพใช้งาน อีกครั้งหนึ่งทำงานอยู่ลูกน้องก็เอาพระมาให้ บอกว่าเจอมาข้างถนน สภาพยังมัดลวดทองแดงอยู่เลย ตรวจดูพบว่าเป็นพระสามลำพูนแท้ และยังมีอีกหลายเหตุการณ์ แค่นี้พอหอมปากหอมคอ พระที่ได้ได้มาก็เก็บไว้เพื่อลูก เพื่อหลานในอนาคต ไม่ได้ให้เช่าต่อ ที่เล่ามายาวนี่ ก็แค่จะบอกว่าลองรักษาศีลกันดู ชีวิตอาจจะผลิกผันแบบผมก็ได้ ลองดูนะครับ

โดยคุณ ผดุงชอบ (486)

[ส. 13 ม.ค. 2550 - 16:23 น.] #71039 (24/36)

เห็นด้วยกับคุณ Lalit และคุณ ปลาดุก ครับ เป็นแนวทางแก้ไขที่ดีมาก ๆ ครับ พอใจจะเช่า พระแท้ เงินต้อง แท้ แต่มาโกหกว่า เก๊ เป็น แท้ รับไม่ได้ครับ แต่ก็มีอยู่ทุกที่ เสมอครับ ดังนั้น เราจะเช่าบูชา พระอะไรควรตรวจสอบให้แน่ ก่อนครับ แล้วควรเช่าบูชา แต่ที่ เว๊ป G-pra แห่งนี้ ดีมาก ๆ ควรตรวจสอบให้ตลอด เก๊ไม่ดีก็สามารถ คืนได้ เป็น Web ที่มี มาตราฐานมาก ครับ เช่าในนี้ ของแท้มีมากครับ สวยก็ สู้ราคาหน่อย นะครับ แล้วแต่ความพอใจของแต่ละบุคคลด้วย ถ้ารอถูกเราต้องไปเดิน สนาม เองครับ ถึงได้ของถูก ( อาจจะเจอเก๊ ) ด้วยนะครับ และ ไม่สามารถ คืนได้ แต่เช่าหาใน Web G-pra ถ้าตรวจสอบแล้วว่า เก๊ ก็สามารถ คืนได้ แถมรับประกันความพอใจให้ 7 วันด้วยครับ สวยก็แพงหน่อย ไม่สวยก็ถูกหน่อย เพราะว่าจะมีราคา มาตราฐานของพระองค์นั้น ๆ อยู่แล้วครับ บางแห่งตามศูนย์แพงกว่าซะอีก รับประกันได้ครับผมเดินบ่อย นี่และครับ สุดยอด Web ที่มีมาตราฐาน ระดับโลก ครับ

โดยคุณ 120000 (2.2K)

[อ. 23 ม.ค. 2550 - 02:12 น.] #73030 (31/36)

บังคับบัญชาไม่ได้ ทุกสรรพสิ่งที่เกิดมาในโลกนี้ ย่อมเป็นไปตามวิถีทางของตนเอง เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นไปล้วนเกิดมาจากเหตุและปัจจัยที่ได้สั่งสมมาแล้วทั้งสิ้น เมื่อเหตุมีผลย่อมมีเป็นธรรมดา เหตุกับผลต้องเกิดตรงกันเสมอ เป็นปัจจัยที่เกื้อกูลต่อกัน อุปมาเหมือนดั่งว่าปลูกข้าวก็ต้องเป็นต้นข้าว ปลูกมะม่วงก็ต้องเป็นต้นมะม่วง จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย นี่คือเหตุและผลจะต้องตรงกันเสมอ สัตว์โลกที่ได้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏนี้ ย่อมมีอัธยาศัยที่แตกต่างกันออกไป เป็นไปตามการสั่งสมของสันดานตนมาแล้วทุกชาติ มีความคิด ความชอบ ความเกียจ ความชัง ความหลง แตกต่างกันไป บางคนชอบอย่างหนึ่ง แต่อีกคนกลับไม่ชอบอย่างเดียวกัน บางคนชอบสิ่งนี้ แต่อีกคนกลับไม่ชอบสิ่งนี้ เด็กทารกที่คลอดออกมาจากท้องแม่ใหม่ๆ ยังร้องเสียงดังแตกต่างกัน บางคนร้องเสียงดัง บางคนร้องเสียงเบา เพราะเหตว่าคนร้องเสียงดังอาจมีโทสะมากหน่อย คือสั่งสมโทสะจากชาติก่อนมามาก เมื่อออกจากท้องแม่แล้ว กระทบกับสิ่งต่างที่ไม่ชอบ ก็จะเกิดโทสะมากหน่อยร้องเสียงดังหน่อย และร้องนานด้วย ตรงข้ามกับคนที่สั่งสมโทสะมาน้อย ผู้ที่เกิดมาเป็นหมอ ก็ต้องเป็นหมอ เพราะสั่งสมความชอบ และความชำนาญในด้านนี้มาแล้วทุกชาติ จะให้เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย สั่งสมมาที่จะเป็นนักร้องก็ต้องเป็นนักร้อง สั่งสมมาที่จะเป็นนักกีฬาก็ต้องเป็นนักกีฬา เป็นอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น หนีไม่พ้น มีความสั่งสมความคิดความเอาใจใส่สิ่งต่างๆแตกต่างกันออกไป จึงมีความชำนาญแตกต่างกันออกไป ผู้ที่สั่งสมความโลภมามาก ก็จะมีความโลภมาก ผู้ที่สั่งสมความโกรธมามาก โทสะก็จะเกิดบ่อยและเกิดง่ายด้วย คราวนี้มาถึงเรื่องศีลห้า ตามหัวข้อกระทู้ครับ อย่างที่กล่าวแหละครับ ท่านผู้ใดจะรักษาศีลได้มากน้อยแค่ไหนก็เป็นไปตามการสั่งสมมาแล้วทั้งสิ้น ถ้าสั่งสมความละอายและเกรงกลัวต่อบาปมามากหน่อย ก็จะรักษาศีลได้มากหน่อย สั่งสมค วามละอายเกรงกลัวต่อบาปมาน้อย ก็จะรักษาศีลได้น้อย ถ้าผู้ใดไม่ได้สั่งสมความละอายเกรงกลัวต่อบาปมาเลย ก็จะไม่มีศีลอยู่ในจิตใจเลย คนแบบนี้น่ากลัวครับเพราะมีความเห็นผิดอยู่ จะกล้าทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

โดยคุณ 120000 (2.2K)

[อ. 23 ม.ค. 2550 - 03:02 น.] #73032 (32/36)

ต่อจากกระทู้ข้างบนนะครับ จะขอกล่าวถึงการผิดศีล หรือการละเมิดศีลนั้นว่า มีเหตุว่ามาจากตัว ตัณหา นั่นเอง ดังที่ได้มีบางท่านได้กล่าวไว้ ตัณหาคือความ ติดข้อง ต้องการ ความยินดีพอใจ ปราถนาในสิ่งต่างๆ ถ้าตัวตัณหานี้สั่งสมมาจากชาติก่อนๆมามากหน่อย ก็จะมีความติดข้องต้องการมาก ก็จะละเมิดศีลได้มากหน่อย เพราะอยากจะให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการนั่นเอง ทำให้เกิดการละเมิดทางกาย วาจา ใจ คือละเมิดศีลห้านั่นเอง ตัว ตัณหา หรือความ ติดข้อง ต้องการ ที่เกิดขึ้นมาจากใจได้บ่อยนั้น เพราะเหตุว่าเกิดมาจาก ความยึดติดในสิ่งต่างๆว่าเป้นตัวตนทั้งสิ้น ความคิด ความจำ ความเห็น ในสิ่งต่างๆที่กำลังปรากฏอยู่นั้น มีอยู่มีตัวตนอยู่ ตัวตัณหาที่นอนเนื่องอยู่ในใจของตน ที่สังสมมาแล้วทุกชาติ ถ้าเป็นสิ่งที่ตัณหาต้องการและปราถนา ตัวตัณหาก็จะเกิดขึ้นจากใจของตนและติดในสิ่งนั้น และถ้าตัวตัณหาที่ได้สั่งสมมา แล้วทุกชาติ จนมีกำลังมาก ก็จะเกิดการละเมิดศีลเกิดขึ้น เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพราะฉนั้นการที่จะรักษาศีล ห้า ให้บริสุทธิ์ได้ ก็จะต้องละความยึดติดความเป็นตัวตนให้ได้นั่นเอง เมื่อละความยึดติดความเป็นตัวตนได้ ก็จะรู้ว่าทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ล้วนไม่มีอะไรที่เป็นแก่นสารเลย ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ ล้วนไม่ใช่ตัวตนทั้งสิ้น เมื่อรู้แล้วความติดข้อง ต้องการ ของตัวตัณหาก็จะเบาบางลง ก็จะไม่มีการผิดศีล หรือละเมิดศีลอีกเลย ศีลห้าก็จะมั่นคงถาวรตลอดไป....

โดยคุณ นพกรณ์ (69)

[อ. 13 มี.ค. 2550 - 21:05 น.] #83761 (34/36)

สวัสดีครับผมมือใหม่ครับถูกหลอกถูกต้มมาเยอะครับ แต่ก็ไม่เข็ดสักที ผมอยู่ในประเภทเก็บอย่างเดียวครับ ยังไงๆก็เอ็นดูสมาชิกใหม่หน่อยน่ะครับ ที่เข้ามาเล่นเพราะเชื่อมั่นเวปนี้ครับขอฝากกลอนศึลห้าไว้สักหน่อยน่ะครับ
การปฎิบัติถือศีลห้า
หนึ่งตรัสไว้อย่าได้หมายชีวิต
มุ่งปลงปลิดชีวิตอื่นขมขื่นสิ้น
สองมีว่าอย่าลักเอาของเขากิน
หวังทรัพย์สินผู้อื่นมาชื่นชม
สามอย่าปลิ้นป้อนหลอนปอกหลอกผู้อื่น
หวังตนชื่นมุสาวาทบาดจิตขม
สี่ห้ามชื่นชูเป็นชู้เขาเฝ้าเล้าโลม
หวังสุขสมลูกเมียเขาน่าเศร้าใจ
ห้าอย่าเสพยาฯกินสุรายาบ้าบอ
ทำได้หนอจะสุขสมภิรมย์ใส
ศีลทั้งห้าจงยึดมั่นหมั่นทำไป
สิ่งที่ได้คือคุณธรรมผลกรรมดี
อันบาปกรรมเป็นกงเกวียนเวียนว่าย
ทดแทนให้ตามผลกรรมที่ทำนี้
หากเชื่อมั่นจงกระทำแต่ความดี
ผลที่มีคือความสุขทุกข์อันตรธาน…

สวัสดีครับ
*********************************************

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!