(N)
โครงการ 90 ปีแข็งแรงวันนี้เรามาเริ่มต้นกันที่วิธีการกินอาหารกันก่อนเลยครับ
ว๊า !! ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกอะไรเลยใช่ไหมครับ มีตังค์ก็ซื้ออาหารดีๆมากินก็สิ้นเรื่องแล้ว 555 ยังครับ ยังไม่ถูกต้อง อาหารดีหรือไม่ดีไม่ได้อยู่ที่ราคาครับ แต่อยู่ที่ชนิดและประเภทของอาหารต่างหาก
แต่ผมว่า เรายังไม่ต้องลงลึกในรายละเอียดของอาหารกันมากก็ได้ครับ เอาแค่หลักใหญ่ๆกันก่อน เพราะหากทำได้ก็จะเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้นมากกว่า 90% เลยนะครับ
ปัจจุบันนี้คนเรากินอาหารเปลี่ยนไปจากเดิมมากขึ้นทุกวัน และไม่สมดุลย์กับการใช้พลังงานในแต่ละวันมากขึ้น เปรียบง่ายๆโดยร่างกายคนเราเหมือนรถยนต์ อาหารเหมือนน้ำมัน ดังนั้นทุกๆเช้าหากเราจะขับรถเดินทางไกล เราจะต้องเติมน้ำมันตอนเช้าให้เต็มถังก่อน เมื่อวิ่งถึงเที่ยงก็เติมน้ำมันในส่วนที่หมดไป และตอนเย็นไม่ต้องเติมน้ำมันเลยก็ได้ เพราะไม่ได้วิ่งแล้ว พรุ่งนี้เช้าค่อยเติมเต็มถังอีกครั้ง
- ดังนั้นหากจะให้ร่างกายของเราทำงานให้สมดุลย์กับอาหารที่กินเข้าไป ก็ต้องเหมือนเติมน้ำมันรถ คือ
..... เช้า ให้กินอาหารให้มากเข้าไว้ ปริมาณ 50% ของทั้งวัน เน้นข้าวหรือแป้ง-น้ำตาล-ผลไม้
..... เที่ยง ให้กินอาหารจานเดียว ปริมาณ 30% ของทั้งวัน
..... เย็น ให้กินอาหาร ปริมาณ 20% ของทั้งวัน เน้นผักเป็นหลัก-เนื้อสัตว์บ้าง ( งดหรือลด ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง ขนมหวาน ผลไม้ทุกชนิด )
- หรือกินอาหารตามสโลแกนนี้เลยครับ ** หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น เว้นดึก **
- งดอาหารเสริมทุกชนิด งดนมและผลิตภัณฑ์จากนมทุกชนิด ( กินได้เป็นบางโอกาส )
หากปฏิบัติตามข้างต้นได้เต็ม 100% ตอนกลางวันร่างกายของเราจะได้พลังงานจากอาหารอย่างเต็มที่ สมองจะปลอดโปร่ง ไม่หงุดหงิดจากการขาดน้ำตาล ไม่เหนื่อยง่าย ขณะเดียวกันตอนกลางคืน เมื่อเราพักผ่อนไม่ต้องการอาหารมาก ไม่ต้องใช้พลังงานมาก และเรากินแต่ผักกับโปรตีน จะทำให้อาหารหรือแป้งน้ำตาลไม่เหลือสะสม ผักให้วิตามิน-กากอาหาร โปรตีนร่างกายจะเอาไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหลอตอนเรานอน ทำให้เราจะไม่อ้วน ตื่นตอนเช้าเราจะหิวเร็ว เนื่องจากไม่มีน้ำตาลสะสมตอนกลางคืน และเราจะกินอาหารเช้าได้มากขึ้นครับ
ส่วนปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดมีการกินที่ยังไม่ถูกต้อง ซึ่งมักจะเป็นแบบ 20%-30%-50% คือ
..... เช้า กินน้อย กินกาแฟกับขนม ช่วงเช้าๆเมื่อเราทำงานมาก ต้องการพลังงานมาก แต่เรากินน้อย เราจะหงุดหงิดบ่อยจากน้ำตาลต่ำ สมาธิไม่ดี ลืมง่าย เนื้อเยื่อร่างกายทรุดโทรม เนื่องจากขาดน้ำตาล
..... เที่ยง กินอาหารจานเดียว แต่ก็ยังให้พลังงานกับร่างกายไม่เพียงพอ เนื่องจากตอนเช้ากินน้อย
..... เย็น เราจะหิวมาก เนื่องจากกินอาหารทั้งวันไม่พอ เราก็เลยกินเป็นมื้อหลัก ปริมาณมากกว่า 50% ของทั้งวัน เมื่อเรานอน อาหารจะเหลือมาก สะสมเป็นไขมัน ทำให้เราอ้วน ตอนเช้าตื่นมาก็ไม่หิว เนื่องจากอาหารและน้ำตาล ยังเหลือมาจากเมื่อวานเย็น โดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวาน จะมีปัญหาในการกินยาเบาหวานมากขึ้น
ดังนั้น ไม่ว่าจะมีโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน หรือ ไม่มีโรคใดๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ถูกวิธีก่อนนะครับ เพราะเรื่องนี้สำคัญมาก เพราะการกินที่ผิดวิธีสามารถทำให้ร่างกายที่เป็นปกติ กลับกลายเป็นโรคได้โดยไม่ต้องมีสาเหตุอื่นๆใดๆกระตุ้นครับ
เป็นยังไงบ้างครับ ดูแล้วไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ท่องอีกนิดครับ ** หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น เว้นดึก ** ผลที่ท่านจะได้รับก็คือ น้ำหนักจะลดลงหรือเข้าสู่สมดุลย์ใหม่ที่แข็งแรง พร้อมที่จะมีอายุยืนยาวเกิน 90 ปีแล้วครับ แล้วพบกันใหม่ในตอนที่ 2 ของโครงการ 90 ปีแข็งแรง ในครั้งต่อไปนะครับ |
|