ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : อยากให้กำจัดพวกประมูลได้แล้วไม่ติดต่อ ไม่เอา

(D)
มันเป็นการเสียหายอย่างยิ่งสำหรับ ผู้ตั้งประมูล ไหนจะค่าโทรติดต่อ ไหนจะค่าบรรจุห่อหีบ ไหนจะเสียเวาแทนที่จะได้เงินไวๆ ไหนจะค่าถ่ายรูปแต่สำหรับพวกมันก็แค่มีคำติ ไม่เห็นจะเป็นไร มีโอกาสอีกตั้ง 2ครั้ง ทั้งๆที่ค่าธรรมเนียมเราก็เป็นผู้เสียแต่เพียงผู้เดียว อยากให้webmasterทบทวนกฏ ใหม่ ควรหาบทลงโทษที่ดีกว่านี้ เพราะความเสียหายเกิดโดยตรงต่อผู้ตั้งประมูลควรเห็นใจพวกเรามากกาว่านี้ จะได้ไม่เสียชื่อการประมูล ที่คนกำลังให้ความสนใจหรื้อกำลังนิยมเวปแห่งนี้ 7วันสำหรับความเสียหายที่ตามมามันมากน่ะค่ะต้องรอถึงอีก 7วันกว่าจะลงประมูลได้อีก

โดยคุณ เบนจี้ (474)  [อ. 19 มิ.ย. 2550 - 15:07 น.]



โดยคุณ ขาจรประจำ (622)(1)   [อ. 19 มิ.ย. 2550 - 18:05 น.] #110965 (1/7)
ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันครับ

มันคล้ายๆ กับที่ลูกค้าเลือกดูสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ (ต้องเข้าใจใหม่ด้วยว่า เดี๋ยวนี้ พระเครื่อง ถูกลดคุณค่าลงให้มีสถานะเป็นเพียงสินค้าอย่างหนึ่งเท่านั้น เพราะมีการซื้อขายกัน - ขอโทษที่พูดตรงเกินไป) ทีนี้ เมื่อลูกค้าเลือกแล้ว จะเอาอันนั้น จะเอาอันนี้ สุดท้ายแล้วไม่เอา คนขายก็น่าจะอารมณ์เสียเหมือนกันนะครับ (ผมเข้าใจดี) แต่ทำอย่างไร ในฐานะเรา (ซึ่งเป็นพ่อค้า แม่ค้า เจ้าของร้าน) จะอดทน และทำให้ลูกค้ามีความสนใจในสินค้าของเรา (ทั้งๆ ที่สินค้าเราก็ดีอยู่แล้ว แต่ลูกค้าบางคนไม่สบอารมณ์หรือไม่ถูกใจกับคำพูดคำจาของเจ้าของร้าน ก็เลยไม่อยากซื้อ)

ก็ลองๆ หาทางออกที่ดีดูนะครับ

ขอบคุณ
จากคนที่โดนติเหมือนกัน


โดยคุณ ekkaluk (209)  [พ. 20 มิ.ย. 2550 - 00:55 น.] #111104 (2/7)
ผมว่ามันคนละอย่างกันน่ะครับคุณขาจร ต้องเข้าใจด้วยว่าการประมูลแต่ล่ะครั้งหรือการเคาะแต่ละครั้งผู้ประมูลต้องพอใจในสิ่งที่เห็นในเวปแล้วจึงค่อยเคาะและเมือ่เคาะได้แล้วก็ต้องโอนเงินภายในกำหนด แต่สำหรับเมื่อเห็นองค์จริงแล้วไม่พอใจ ก็ส่งคืนได้นั้นคือความพอใจครับ ต้องทำความเข้าใจใหม่แล้วสำหรับคำว่าประมูล คุณ ขาจร ถ้าลูกค้าคนไหนไม่อยากซื้อก็อย่ามาเคาะสิ นั้นแหละที่ต้องทำความเข้าใจใหม่คุณขาจร

โดยคุณ เบนจี้ (474)  [พ. 20 มิ.ย. 2550 - 01:37 น.] #111111 (3/7)
ใช่ค่ะ การประมูลก็คือการที่คุณพอใจในสินค้าแล้วถึงเสนอราคา ถ้าราคาถึงที่กำหนดไว้คุณก็คือผู้ชนะ ต้องโอนเงินภายในกำหนด ไม่ใช่การเลือกซื้อสินค้าที่จะเลือกจนพอใจถ้าไม่พอใจหรือไม่ชอบในตัวผู้ค้าก็เปลี่ยนร้านไม่ต้องเสนอราคา โปรดเข้าใจสะใหม่ เพื่อนจำชื่อมัน ไวให้ดีน่ะค่ะ username siam-pra ประมูลได้แต่ไม่มีปํญญาหาเงินมาจ่ายแถมไม่รับโทรศัพท์อีก ถ้าปล่อยให้อยู่ในg-praต่อไปเสื่อมเสียชื่อเวปแน่ ๆ ค่ะ

โดยคุณ kittiw (236)  [พฤ. 21 มิ.ย. 2550 - 08:35 น.] #111523 (4/7)
ในกรณีไม่พอใจพระอย่างที่คุณขาจรบอก สามารถทำได้ถ้าเป็นที่เวปอื่นซึ่งเป็นแบบซื้อขายกัน แต่ที่เวปจีพระเราใช้ระบบการประมูลเป็นหลัก เพราะฉะนั้นถ้าตัดสินใจเคาะประมูลแล้ว แสดงว่าเราพอใจในราคาพระและพระตามรูปแล้วในระดับหนึ่ง ส่วนถ้าเห็นพระองค์จริงแล้วไม่ชอบไม่พอใจก็สามารถส่งพระคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดครับ

โดยคุณ rawatn (905)  [พฤ. 21 มิ.ย. 2550 - 21:56 น.] #111944 (5/7)
ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ
สำหรับผมเอง เป็นทั้งผู้ตั้งและผู้ประมูล (มีคำติติดอยู่ 1 คำติเหมือนกัน ส่งใบจองให้ผู้ประมูลช้า)
ต้องบอกว่า กติกาเดิมที่ทางเว็บตั้งผมว่าโอเคแล้วนะครับ ถ้าบอกว่า 1 คำติแล้วตัดออกเลย
ตัดออกจากสมาชิก ไม่ให้มีการตั้งหรือประมูลตลอดไป ผมว่าแรงไปนะครับ จะเป็นธุรกิจเกินไป สำหรับผู้ที่นิยมพระเครื่องเว็บนี้ก็เป็นแหล่งหาความรู้ และแหล่งค้นหาพระเครื่องที่ชอบเหมือนกัน ผมเองเข้ามาเว็บนี้ช่วงแรก ๆ ก็เพราะชอบในพระเครื่องเหมือนกัน
ต้องลองมองกันดูครับ สมมุติว่ามีสมาชิก 1 ท่าน ประวัติดีตลอด มีคำชมตลอด ไม่ว่าจะตั้งประมูลหรือประมูล บางท่านเกือบพัน บางท่านเป็นพัน แล้วเกิดวันใดเขาเกิดพลาดขึ้นมา หมายถึงเกิดปัญหาส่วนตัวไม่สามารถส่งหรือไม่สามารถโอนเงินได้ ทุกคนมีโอกาสพลาดได้ครับ
ไม่มีใคร 100% แล้วคำชมที่ผ่านมาตั้งเยอะแยอะ(เป็นร้อยหรือเป็นพัน) ไม่มีความหมายเลยครับ ผมว่าน่าจะเป็นช่วงหลัง ๆ มากกว่าที่ทุกท่านพบกัน ผมว่าน่าจะหาทางแก้ไขส่วนนี้มากกว่าครับ เพราะถ้าบอกว่า 1 คำติให้ตัดออกจากสมาชิกเลย มีผลกระทบกับบางท่านที่ทำดีมาตลอดนะครับ
โดยส่วนตัวผมเอง ก็เคยเหมือนกัน อยู่ดี ๆ โทรมาแจ้งไม่เอาก็ไม่ได้ว่าอย่างไร ไม่เอาก็ไม่เอา บางท่านโอนช้าเลยกำหนด 7 วัน ก็ไม่ได้ว่าอะไรสมาชิกด้วยกันครับ บางท่านโทรมาขอต่อรองก็มี หลายแบบครับ ปิดแล้วหายไปเลยก็มี ส่งของช้าก็มี
ในส่วนของท่านที่ประมูลได้แล้วแจ้งว่าไม่เอา ก็ยังดีนะครับ ดีกว่าไม่แจ้งอะไรเลย หายไปเฉย ๆ บางท่านก็น่าเห็นใจ ประมูลและปิดเยอะหลายกระทู้จนลืม สำหรับท่านที่มี Feedback เยอะ ๆ ผมว่าน่าจะเจอแบบผมบ้าง

เป็นแค่ความคิดเห็นของสมาชิกท่านนึงครับ เคารพในความคิดเห็นของทุกท่านเสมอ

สวัสดี โชคดีครับ
User : rawatn

โดยคุณ rawatn (905)  [พฤ. 21 มิ.ย. 2550 - 22:12 น.] #111948 (6/7)
เรื่องดีๆ ที่อยากให้คนใจร้อนอ่าน...
อย่าถือสาอะไรนะครับ แค่เรื่องเล่าเรื่องนึงแค่นั้น....

บางครั้งการกระทำที่ออกมาเหมือนกัน แต่เกิดจากความคิดและเหตุผลที่แตกต่างกัน นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการมองลบ ลบ ที่ลืมพยายามที่จะเข้าใจ ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต


> จะบีบแตรไล่ทำไมนักหนาวะ กับอีแค่ผมจอดทับเส้นกากบาทเหลือง
>
> จริงๆ แล้วผมไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่ไม่นึกว่ารถข้างหน้าจะขยับไปได้แค่นั้น
> คุณก็รีบ ผมก็รีบ ใครๆ ก็รีบกันทั้งนั้น เอ้า เอาเข้าไป บีบเข้าไป
> มันยังบีบแตรอีกนับสิบครั้ง ผมหันไปมอง ช่างเถอะ! มันก็แค่ไอ้แท็กซี่คันหนึ่ง
> ท่าทางคนขับคงจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
> ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ตอนหลังก็ดูจะโวยวายโหวกเหวกไม่แพ้กัน
> จะรีบไปไหนนักหนาวะ แต่โดนเข้าไปหลายครั้งก็อายเหมือนกันแฮะ
> เสียงแตรที่ดังสนั่นทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว
> แล้วจะให้ทำไงล่ะ ผมมองซ้ายมองขวา รถติดออกอย่างนี้จะถอยหลังก็ไม่ได้
> รถคันหลังก็จ่อมาซะติด จะขยับไปข้างหน้าก็อย่าหวัง ช่างมันเถอะ ทนอายเอาหน่อย
> พอเถอะวะ จะบีบไปทำไม ออกจากซอยได้ก็ต้องมาติดไฟแดงด้วยกันอยู่ดี
> ทั้งคนขับและผู้โดยสารชี้โบ้ชี้เบ้มาที่ผม จะว่าอะไรผมก็ไม่เข้าใจหรอก
> ตาของผมกับตาของคนขับแท็กซี่ประสานกันเข้าอย่างจัง ทำไงดีล่ะ
> เห็นทีงานนี้ต้องกวนตีนกันแล้ว
> ผมยกนิ้วกลางให้พร้อมกับเหยียบคันเร่งกระชากรถออกจากสี่แยก
> ขยับไปได้นิดเดียว แท็กซี่คันนั้นก็ปาดแทรกรถคันที่ตามหลังผมทันที เอาวะ
> งานนี้เป็นไงเป็นกัน ผมคิด
>
> แท็กซี่คันนั้นยังบีบแตรและเปิดไฟสูงต่ำไล่ผมมาตลอด มันแน่งานนี้
> ถนนช่วงนี้ถึงแม้การจราจรจะค่อนข้างคับคั่ง
> แต่จริงก็ไม่เหลือวิสัยหากผมจะหลีกทางให้มันแซงขึ้นไปข้างหน้า
> แต่ถ้าลองเล่นกันถึงขั้นนี้แล้ว ก็เห็นที่จะต้องตามกวนตีนกันไปให้ถึงที่สุด
> ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดีว่าผมขับรถเร็วขนาดไหน
> รู้แต่ว่าผมทำทุกวิถีทางที่ไม่ให้มันแซงหน้าไปได้
> ถ้าเผลอปล่อยให้แซงหน้าได้เมื่อไหร่ ผมจะเร่งแซงกลับไปดักหน้าไว้ทุกครั้ง
> ต้องให้บทเรียนไอ้คนพวกนี้บ้าง
> ผมเบื่อเต็มทนกับพวกแท็กซี่ที่จอดรับส่งผู้โดยสารไม่เลือกที่
> คิดอยากจะจอดตรงไหนก็จอด
> ที่รถรามันติดกันยาวเหยียดอยู่ทุกวันนี้ ก็ไอ้พวกนี้แหละเป็นส่วนหนึ่ง
> ต้องเล่นซะบ้างจะได้เข็ด
> แท็กซี่คันนั้นยังใช้ความเร็วอยู่เหมือนเดิม
> แซงซ้ายแซงขวาปาดหน้าปาดหลังเค้าไปทั่ว
> ผมหลับตานึกถึงผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในนั้น ป่านนี้คงหายใจไม่ทั่วท้องแน่ๆ
> ทำไมถึงได้รีบขนาดนี้วะ
> ผมเหยียบคันเร่งจนมิดแซงรถคันโน้นคันนี้แล้วก็ไปปาดหน้ามันอีกครั้ง
> แล้วก็ชลอความเร็วกันท่าไม่ให้มันแซงผม ก็ได้ผล
> มันทั้งบีบแตรทั้งเปิดไฟไล่ใส่ผม ช่าง บีบแตรไล่กูนัก กูจะกันท่า
> ไปตลอดอย่างนี้แหละ อีกแค่สองแยกก็จะถึงที่หมายของผมแล้ว
>
> วันนี้ผมลางานครึ่งวันเพื่อมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งนี้ จริงๆ
> แล้วผมก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรหรอก เวลาของผมยังมีเหลือเฟือ
> กวนตีนกันอีกซักพักเวลาก็ยังเหลือแหล่
> ไอ้การตรวจร่างกายสมัยนี้ก็ไม่ได้เสียเวลาอะไรนักหนา
> เถลไถลไปโน่นไปนี่ก็ยังกลับไปทำงานช่วงบ่ายได้ทัน รถติดไฟแดงอีกแล้ว
> ท่าทางจะติดยาวเสียด้วย แท็กซี่ที่ตามหลังผมมาติดๆ ปาดเข้าเลนซ้าย
> ก่อนจะแซงหน้าผมไป คนขับหันมามองผมแล้วก็ส่ายหน้าเหมือนกับรำคาญผมเต็มประดา
> ผมหักพวงมาลัยตาม จากนั้นรถก็ค่อยๆ เขยิบทีละนิดไปตามจังหวะสัญญาณไฟ
> มันพยายามแทรกรถคันอื่นๆ เพื่อที่จะไปอยู่แถวหน้าสุด ผมปาดรถเข้าช่องว่างตามไป
> จังหวะนั้นเลนขวาว่าง
> ผมเหยียบคันเร่งปาดเข้าขวาแล้วปาดเข้าซ้ายตัดหน้ารถแท็กซี่ไปนิดเดียว
> เสียงเบรกของมันดังสนั่น แต่นาทีนี้ผมไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
> งานนี้มันต้องทำให้รู้สึกกันบ้าง เหลืออีกนิดเดียวผมก็จะถึงที่หมายแล้ว
> หลังจากนั้นเอ็งจะไปไหนก็ไปเหอะ หลุดจากไฟแดง
> รถของเราทั้งสองคันก็ปราดออกจากสี่แยกพร้อมๆ กัน
> ยังไงซะผมก็ไม่ยอมให้มันขึ้นหน้าหรอก
> เสียงแตรของแท็กซี่ดังไล่หลังมาไม่ขาดระยะ
>
> ถึงซะที คราวนี้ จะไปไหนก็ไปเถอะ ผมเลี้ยวซ้ายเข้าโรงพยาบาล
> รับบัตรจอดรถจากยามแล้วแล่นเข้าสู่ลานจอด มันยังตามมาติดๆ ยังไม่เลิกเหรอวะ
> ผมคิด เอาก็เอา ที่ล็อคเกียร วางอยู่บนเบาะหลัง ผิดนักก็คงได้ฟาดกันมั่งหรอก
> ผมขับรถเข้าที่จอด เปิดและปิดประตูรถอย่างแรงเหมือนไม่กลัวว่ามันจะพัง
> แท็กซี่ที่ตามมาก็จอดพร้อมๆ กันกับผม
>
> ประตูแท็กซี่ทั้งสี่ด้านเปิดผลัวะออกมาทั้งๆ ที่รถยังจอดไม่สนิทด้วยซ้ำ
> ในทันใดนั้น ผมได้แต่ยืนตะลึง แขนซึ่งถือที่ล็อกเกียร
> เตรียมจะประจันบานตกลงมาข้างตัวเหมือนจะหมดแรง ไม่น่าเชื่อ
> ทุกสิ่งทุกอย่างในรถคันนั้นเต็มไปด้วยเลือด ทั้งบนเบาะ ที่บานประตูด้านใน
> ไม่เว้นกระทั่งบนเสื้อของคนขับแท็กซี่
> ผู้ชายสูงอายุแต่งตัวมอมแมมคนนึงถูกอุ้มอย่างทุลักทุเลลงมาจากรถ
> เลือดเปรอะอยู่ทั้งบนลำตัวและใบหน้าของเขาและบนเนื้อตัวของหญิงสาวทั้งสองคนที่คอยประคองอยู่
> เธอทั้งคู่ร้องไห้เสียงดัง
> โชเฟอร์เท็กซี่ที่ผมคาดว่าคงจะเปิดประตูเข้ามาลุยกับผมรีบวิ่งเข้าไปช่วยประคองชายสูงอายุ
> ผมยืนมองจนบุรุษพยาบาลวิ่งเข้ามาและนำชายคนนั้นขึ้นรถเข็นพร้อมทั้งปั้มหัวใจกันพัลวัน
> ตลอดเวลานั้น ผู้หญิงทั้งสองคนเกาะราวรถเข็นไม่ยอมห่าง
> ผมได้แต่ยืนงงทำอะไรไม่ถูก
>
> คนแก่คนนั้นเขาจะโดนอะไรมาก็เถอะ ถูกยิง ตกตึก หรือรถชน แกคงจะมีโอกาสรอดแน่ๆ
> ถ้ามาถึงโรงพยาบาลได้เร็วกว่านี้ นี่ถ้าผมไม่แกล้งเขา ลุงแกอาจจะรอด
> เขาอาจจะมาถึงที่นี่ซักสิบนาทีก่อนหน้านี้ นั่นก็ยังดี ลุงอาจจะรอด ผมคิด
> ลุงคงจะรอด
> ทำไม ไม่เปิดกระจกมาบอกกรูซักคำวะ ผมแช่งชักหักกระดูกคนขับแท็กซี่
> ในขณะนั้นผมไม่ได้คิดถึงความเลวของตัวเองซักนิด นาทีนั้นผมสับสนอยากอ้วก
> ไม่มีแรงจะพยุงตัวเองไว้ได้ ผมเปิดประตูกลับเข้าไปในรถ
> แว่บนั้นผมเห็นคนขับแท็กซี่เดินเข้ามาหา ช่าง อยากจะทำอะไรกรูก็ทำ
> กรูไม่มีกะจิตกะใจจะสู้อีกแล้ว ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวาย
> ผมได้ยินเสียงคนขับแท็กซี่ดังแว่วเข้ามา
> มันทำให้ผมรู้สึกเย็นเยือกไปถึงขั้วหัวใจว่า
>

>" พี่รู้ไหม ลุงแกตายแล้ว เพราะพี่นั่นแหละ"
>
> นั่นเป็นเสียงสุดท้าย ก่อนที่ผมจะซบหน้าลงกับพวงมาลัยและร้องไห้

โดยคุณ toong (4.5K)  [อา. 23 ก.ย. 2550 - 04:45 น.] #154577 (7/7)
ขอบคุณครับสำหรับพี่ rawatn

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1