(D)
 ==================================    
       ผมมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟัง อยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริง เหตุการณ์เกิดที่จังหวัดตาก  เมื่อพระเทพทรงเสด็จไป เยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆ  ได้ ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนใน  ตลาดสด   และถามความเป็น อยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา ซึ่งพระองค์ทรง ตรัสถามว่า "ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ" แม่ค้าตอบว่า "ที่ สวรรคตแล้ว กิโลละ  40 บาท  และที่เสด็จไปเสด็จมา กิโลละ  80 บาทจ๊ะ"      เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพาลที่ ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน  
--------------------------------------------------------- -  
     เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ  7 โมงเช้า นางสนองพระโอษฐ์    
ของฟ้าหญิงองค์ เล็ก  ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับ ฟ้าหญิง   ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสาย ด้วย     ก็มี เสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์ นางสนองพระโอฐก็ งง...งง   ว่าคนที่แบงค์ ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า  
แต่ พอฟ้าหญิงรับ โทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ    ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่ เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์ แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ... ขนลุก เลย   ( ทรงตัสกับในหลวงท่านอยู่นั่น เอง)  
---------- --------------------------- ----------------------- 
     อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสานเมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้าน ของราษฎรผู้หนึ่ง  ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการ กราบบังคมทูล  ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่า ฉงน    
เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชา ศัพท์ได้ดีนี้      จึงมีคำกราบทูลว่า  "  ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผ ลิเกเก่า    บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระ พุทธเจ้าข้า.."   มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ ที่ชานเรือน   ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ ตัว.  พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า    " มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป     ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย  และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้ เดียว"  เรื่องนี้ ดร.สุเมธ  
เล่าว่าเป ็นที่ต้องสะกด กลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง    ------------------------------------------------------- ---  
 เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ  72 พรรษา    มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลาย รุ่น เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่น เรื่องขออนุญาต นำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ   ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า    "  ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่ มิกกี้เมาส์"    
---------- --------------------------------------------------  
 เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับ ในหลวง    ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้ง แผ่นดิน และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ได้เข้าเฝ้า   ทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน  ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน มีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงาน    ว่า "ขอเดชะ ฝ่าละอองธ ุลีพระบาท ปก เกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลย เดช  ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต    
กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลย เดช   ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต  กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"   เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้ม พระสรวล    
อย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า  " เออ ดี เราชื่อเดียว กัน..."    
ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้า ต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย  
เพราะผู้รายงาน ตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้    
 ---------------------------------------------------------    
มีอยู่ครั้ง หนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตร    
ให้กับนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  
ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวน พระโอสถ    
แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้ ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูล ว่า      " ถวายพระเพลิงพระเจ้า ข้า"   ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับ อธิการบดีว่า    " เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้ หรอก"  |