วิแคะ ในแนวทางของ Table
เหมือนหนังสือกีฬา สังเกตุดูได้ พาดหัวข่าวบอกว่าเจ็บครึ่งที่ แต่แต้มต่อยัง 1.75/2
ก็พากันรองโดนน้ำ-10 Table อยู่ฝั่งต่อ
พอลงสนาม ที่บอกว่าเจ็บครึ่งทีม ลงได้ครบเชียว ผลออกมา4-0 พูลสวัสดิ์
บางคู่ต้องสวนทาง แต่ เกมพันธุ์แท้การันตีพระ ผมมั่วๆเอาแบบสนุกๆ 55555
ไม่เข็ด...จัดไป
เวสต์แฮม V แมนซิ
ขุนค้อน" เวสต์แฮม หลังจากออกสตาร์ทซีซั่นด้วยการพ่ายแพ้ไปก่อนใน 2 เกมแรก พวกเขาก็กลับมาคว้าชัยชนะได้ 2 เกมติดต่อกัน ก่อนที่เกมนัดล่าสุดจะสร้างปาฏิหาริย์ ด้วยการบุกไปไล่ตามตีเสมอ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-3 ในช่วงวินาทีสุดท้ายของเกม ทั้งที่โดนนำไปก่อนถึง 3 ประตู ทำให้ตอนนี้มี 7 แต้ม รั้งอยู่ในอันดับ 10 ของตาราง
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ กุนซือขุนค้อน จะต้องรอทดสอบความฟิตของ มิคาอิล อันโตนิโอ และ เซบาสเตียง อาลแลร์ ส่วนแข้งตัวหลักที่เหลือ ต่างฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนาม นำทัพโดย ไรอัน เครสเวลล์, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, โทมัส ซูเช็ค, เดแคลน ไรซ์ และ ปาโบล ฟอร์นัลส์
ส่วนผู้มาเยือนอย่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 11 ของตาราง แม้ฟอร์มการเล่นในช่วงแรกจะยังไม่ค่อยดีนัก หลัง ชนะ, แพ้ และ เสมอ มาในเกม 3 นัดแรก ทว่าล่าสุด พวกเขาก็ยังไว้ลายรองแชมป์เก่า เมื่อเปิดบ้านเฉือนชนะ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล "ตั้ง" 1-0 โกพัท อุตส่าห์ รองปืน ทำให้มี 7 แต้มในลีก ก่อนที่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเปิดบ้านอัด ปอร์โต้ 3-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ทัพเรือใบ ยังคงมีปัญหาในการจัดทัพ เมื่อจะหมดสิทธิ์ใช้งาน แข้งตัวหลักหลายราย ไม่ว่าจะเป็น แฟร์นันดินโญ่, เควิน เดอ บรอยน์, เบนฌาแม็ง เมนดี้, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ และ กาเบรียล เชซุส ที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บทั้งหมด ส่วนรายของ นาธาน อาเก้ จะต้องรอเช็กสภาพความฟิตก่อนเกม ว่าจะพร้อมลงสนามหรือไม่ ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ ยังฟิตพร้อมลงทำศึกในเกมนี้
โกพัทมองเกมนี้ว่าจะเป็นการดวลกันของ 2 ทีม ที่เริ่มกลับมาทำผลงานได้ดี ฝั่งของเจ้าบ้าน แม้ว่าเกมล่าสุด จะไม่สามารถคว้าชัยชนะได้ แต่พวกเขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงความใจสู้ ไม่ยอมแพ้ แม้จะโดนนำไปก่อนถึง 3 ประตู จนในที่สุดก็สามารถไล่ตามตีเสมอ เก็บ 1 แต้มอันล้ำค่าได้สำเร็จ ทำให้เกมนี้ ขุนค้อนจะเปิดรังเหย้าด้วยความมั่นใจเต็มที่ ขณะที่ ผู้มาเยือนอย่าง เรือใบสีฟ้า ก็ยังคงอยู่ในฟอร์มที่ดีเช่นกัน หลังไม่แพ้ใครมา 4 นัดรวมทุกรายการ
ฟันธง
หากมองจากชื่อชั้น และขนาดทีมแล้ว ต้องยอมรับว่า ทีมเยือนนั้น ดูเป็นต่ออยู่พอสมควร ทว่าเกมนี้ พวกเขาจะยังคงขาดผู้เล่นตัวหลักอยู่หลายคนด้วยกัน รวมถึง สภาพความฟิต ที่อาจจะเป็นรอง เนื่องจากได้พักมาน้อยกว่า และเมื่อมาประกอบกับ ความฮึกเหิม และกำลังใจของเจ้าถิ่น ที่น่าจะ "มาเต็ม" ทำให้คาดว่า เกมนี้จะไม่ใช่งานง่ายของ ซิตี้ อย่างแน่นอน ทั้ง 2 ทีม น่าจะสู้กันได้อย่างสนุกสูสี และสุดท้ายมีโอกาสที่ฝั่งของเจ้าบ้านจะยันเสมอ และแบ่งแต้มจากเรือใบสีฟ้าได้
เวสต์แฮม 1-1/2-2 แมนซิ
.........
ฟูแล่ม V พาเลซ
เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม ทีมบ๊วยของตาราง ออกสตาร์ทซีซั่นได้อย่างย่ำแย่ เมื่อแพ้รวดใน 4 นัดแรก ก่อนที่เกมล่าสุดจะบุกไปเจ๊ากับ "ดาบคู่" เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมรองบ๊วย 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ทำให้เก็บแต้มแรกในซีซั่นนี้ได้สำเร็จ
สำหรับผู้มาเยือนอย่าง "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ ออกสตาร์ทซีซั่นใหม่ได้อย่างน่าประทับใจ หลังคว้าชัยชนะใน 2 นัดแรก เหนือ เซาธ์แฮมป์ตัน และ แมนฯยู ทว่า หลังจากนั้น พาเลซ ก็พ่ายให้กับ เอฟเวอร์ตัน และ เชลซี ใน 2 นัดถัดมา ก่อนที่เกมล่าสุดจะเปิดบ้านเจ๊ากับ ไบรท์ตัน 1-1 ทำให้ตอนนี้มี 7 แต้ม จาก 5 นัด รั้งอันดับ 14
ผ่านมาแล้ว 5 นัด ฝั่งของเจ้าถิ่น ยังสะกดคำว่า "ชนะ" ไม่เป็นเลย ในเวทีพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ทำให้พวกเขากลายเป็น ทีมเต็ง ที่จะตกชั้นกลับสู่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อีกครั้ง อย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม จากผลเสมอในเกมล่าสุด ก็น่าจะทำให้ เจ้าสัวน้อย มีความมั่นใจมากขึ้นมาบ้าง ไม่มากก็น้อย
ส่วนของฝั่งของทีมเยือน แม้จะมีสะดุดไปบ้าง แต่ฟอร์มการเล่นก็ยังอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ไม่ได้ถึงกับน่าเกลียดจนเกินไป การได้เจอกับทีมน้องใหม่อย่าง ฟูแล่ม ที่ยังดูเป็นรองกว่าพอสมควร น่าจะเป็นเกมที่พวกเขาสามารถคาดหวังถึงชัยชนะได้
ฟันธง
โกพัทเชื่อว่าเกมนี้ พาเลซ ที่เหนือกว่าในทุกด้าน ทั้งเรื่องของ ศักยภาพของนักเตะ, ระบบวิธีการเล่น, ประสบการณ์ในเวทีลีกสูงสุด จะอาศัยความได้เปรียบที่มี เบียดเอาชนะ และเก็บ 3 แต้มกลับออกไปได้สำเร็จ
ฟูแล่ม 0-2 พาเลซ
...........
แมนฯยู V เชลซี
แมนฯ ยู ดูเหมือนจะตั้งหลักได้จากการโดน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถล่ม 6-1 เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาได้แล้ว หลังเอาชนะใน 2 เกมหลังสุดทั้งในฟุตบอลลีกเหนือ นิวคาสเซิ่ล และ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เหนือ ปารีส และเกมนี้พวกเขาต้องถูกทดสอบอีกครั้งโดย เชลซี
อย่างไรก็ตาม ความพร้อมของ "ปีศาจแดง" ในเกมนี้จะไม่มากเท่าในฟุตบอลสโมสรยุโรป เพราะ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ยังติดโทษแบนอยู่ ทำให้ต้องมีการปรับแดนหน้าอีกครั้ง ส่วน อีริค ไบยี่ ก็ยังลงไม่ได้แน่นอน และ แฮร์รี่ แมคไกวร์ ก็ยังไม่น่าจะพร้อมลงเล่นในเกมนี้ด้วย
เอดินสัน คาวานี่ อาจจะเป็นตัวเลือกทดแทนการขาดหายไปของ มาร์กซิยาล ที่น่าสนใจ แต่เจ้าตัวยังมีเครื่องหมายคำถามว่าพร้อมเล่นหรือยัง ถ้ายังตำแหน่งในแดนหน้าอาจจะต้องเป็นหน้าที่ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และอาจจะมีชื่อของ เมสัน กรีนวูด ทำหน้าที่ร่วมด้วยอีกคนก็ได้
เชลซีเป็นทีมที่ฟอร์มดีก่อนพักเบรกทีมชาติ แต่เมื่อพ้นเบรกทีมชาติกลับมาพวกเขาสะดุดเสมอ 2 นัดติด ทั้งการเสมอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในช่วงท้ายเกม และ การเสมอไร้สกอร์กับ เซบีญา ในฟุตบอลสโมสรยุโรป ทำให้เกมนี้พวกเขาอาจจะโหยหาชัยชนะเป็นพิเศษก็ได้
อย่างไรก็ตามพวกเขายังมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด ตรงที่ "สิงห์บลูส์" มีนักเตะลงสนามไม่ได้แค่ 2 คน คือ บิลลี่ กิลมอร์ ที่เจ็บยาวตั้งแต่ฤดูกาลก่อน และ เกปาร์ อาร์ริซาบาลาก้า ทำให้เราอาจจะเห็น เอดัวร์ แมนดี้ ลงทำหน้าที่เฝ้าเสาในเกมนี้ก็ได้
โกพัท มองว่านี่เป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของ แฟรงก์ แลมพาร์ด เนื่องจากเป็นเกมใหญ่ และต้องมาเยือนคู่แข่งที่เขาค่อนข้างแพ้ทางถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่เชลซีในปีนี้ถือว่ามีขุมกำลังที่ยอดเยี่ยม อยู่ที่ว่าเกมนี้ พวกเขาจะมาในร่างไหนเท่านั้น และถ้ามาดีงานนี้น่าจะมีลุ้นถึง 3 แต้มกลับบ้านได้เลย
แต่แนวรับเป็นปัญหาของทั้ง 2 ทีมมาในระยะหลัง และทั้งคู่ก็มีจุดเด่นอีกอย่างคล้าย ๆ กัน คือเกมบุกที่ดุดันและร้อนแรง
ฟันธง
เกมนี้อาจจะเป็นเกมที่เราได้ดูบอลสนุก เพราะทั้งคู่อาจจะบุกแลกกันและทำประตูใส่กันเยอะก็เป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม เกมนี้ เชลซี ถือว่ามาในโฉมใหม่ และเกมรุกกำลังจัดจ้าน ซึ่งสวนทางกับเกมรับของ ยูไนเต็ด ที่กำลังมีปัญหาพอดี ดังนั้นเชื่อว่าเกมนี้ เชลซี ไม่น่าแพ้ และอาจจะได้ลุ้นถึง 3 คะแนนจาก "โรงละครแห่งความฝัน" ในนัดนี้เลยด้วย!
แมนฯ ยู 2-2 เชลซี
............
ลิเวอร์พูล V เชฟฯยู
ชัยชนะเหนือ อาแย็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ถือเป็นชัยชนะนัดแรกของ "หงส์แดง" นับตั้งแต่พ่ายต่อ แอสตัน วิลล่า แบบยับเยินเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นั่นอาจจะสร้างความมั่นใจให้พวกเขาได้ไม่มากก็น้อย ในการกลับมาเล่นเกมลีกอีกครั้งและเจอคู่แข่งที่พวกเขาฟอร์มเหนือกว่ามากอย่าง เชฟฯ ยู
เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ปิดเทอมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเอ็นเข่าฉีก ขณะที่ อเล็กซ์ อ็อคเลด เชมเบอร์เลน ก็ยังไม่หายดีและลงเล่นไม่ได้แน่นอนในเกมนี้ อย่างไรก็ตามรายงานระบุว่านักเตะหลักของพวกเขาหลายรายทะยอยกลับมาซ้อมได้แล้ว
การขาด ฟาน ไดจ์ค ยังเป็นประเด็นสำคัญที่ "หงส์แดง" ต้องหาทางแก้ไข โดยทางเลือกแรกคือการหุบ ฟาบินโญ่ ลงไปเล่นในตำแหน่งเช็นเตอร์ฮาล์ฟ ซึ่งเขาทำได้ดีในเกมกับอาแย็กซ์ และเราอาจจะได้เห็น เจอร์เก้น คล็อปป์ ใช้สูตรนี้อีกครั้ง ส่วนแนวบุกก็ยังจะเป็น 3 ประสานชุดเดิมแน่นอน
เชฟฯยูเป็นทีมที่โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังที่สุดทีมหนึ่งในฤดูกาลนี้ โดยเมื่อผ่านไปแล้ว 5 นัด พวกเขามีเพียงแค่ 1 คะแนนจากการเสมอ 1 แพ้ 4 เท่านั้น แถมเกมนี้ต้องมาเจองานหินจัด ๆ อย่างการไปเยือน แอนฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล ด้วย ต้องยอมรับว่า "เหนื่อยแน่"
เกมนี้ ลีส์ มูเซ่ต์, แจ็ค โอคอนเนลล์, จอห์น เฟล็ก และ แม็กซ์ โลวี ลงสนามไม่ได้ทั้งหมดเพราะอาการบาดเจ็บรบกวนยังไม่หายดี ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมผลงานแย่
เกมนี้ไม่ต้องสงสัยว่า ไวลเดอร์ จะต้องมาตั้งรับลึกแบบที่เขาถนัดอย่างแน่นอน แต่การขาดตัวรับสำคัญ ๆ อย่าง โอคอนเนลล์ ทำให้ประสิทธิภาพแนวรับที่ควรจะดีของพวกเขาไม่ดีเท่าที่ควร และนั่นนำมาสู่ความพ่ายแพ้มากมายในช่วงที่ผ่านมา ต้องมาดูว่าพวกเขาจะแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่ในเกมนี้
นอกจากจะเสียประตูมากขึ้นกว่าฤดูกาลก่อนแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นกับ เชฟฯ ยูในฤดูกาลนี้ก็คือ การที่พวกเขายิงระตูไม่ได้เท่าที่ควร โดย 5 นัดที่ผ่านมาทีม "ดาบคู่" เพิ่งยิงไปเพียง 2 ประตูเท่านั้น นั่นกลายเป็นปัญหาสำคัญที่พวกเขาต้องรีบแก้ไข ไม่เช่นนั้นอาจจะชนะใครยาก
ตรงกันข้าม ลิเวอร์พูล นอกจากจะได้เล่นในบ้าน
โกพัทมองว่สเกมนี้ อาจจะเป็นเกมที่ไม่ยากนักของเจ้าบ้านในการเก็บ 3 คะแนนเต็ม เพื่อทำคะแนนขึ้นไปทาบเอฟเวอร์ตัน ก่อนที่พวกเขาจะแข่งขันในวันอาทิตย์ และชัยชนะของ "หงส์แดง"
ฟันธง
ตามรูปเกม น่าจะเป็นชัยชนะที่ขาดพอสมควรแต่เมื่อมีผลประโยชน์เรื่องธุระกิจ ของบ่อน เข้ามาเกี่ยวข้อง ใครๆก็เทมาฝั่ง เจ้าบ้าน ส่วนTable อยู่ ทีมเยือนแล้วท้ายสุด รถผ้าป่า อาจจะคว่ำ เหมือน วิลล่าแถวๆ โซน เอเชี่ยน เพราะเปิดต่อลูก 1.75
ตอนแรก อาจจะนำขาด
แต่ท้ายเกม อาจเซอร์ไพ้ร์...
ลิเวอร์พูล /3-1 เชฟฯยู |
|