ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : หลวงพ่อดี วัดสุวรรณ



(N)


ธนาคารกสิกรไทย
ชื่อบัญชี นายปริญญา
สาขาย่อยอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เลขที่ 744 - 2 - 55321 - 6
พระอยู่ในสภาพเดิมๆ สนใจติดต่อ 084-6935029
ท่านใดสนใจพระรายการใด กรุณาโทรสอบถามก่อน ว่ารายการนั้นยังอยู่หรือเปล่า
รับประกันพระแท้ ( ทุกรายการ ) ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับพระแล้ว
พระปลอมยินดีคืนเงินเต็มจำนวน ( ไม่มีการหัก )
แต่พระที่คืนมานั้นต้องอยู่ในสภาพเดิมๆ
ท่านใดที่โอนเงินแล้ว ช่วยโทรแจ้งด้วยนะครับ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
ในการจัดส่งพระไปให้ท่านครับ

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [ศ. 10 มิ.ย. 2554 - 15:37 น.]



โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [ศ. 10 มิ.ย. 2554 - 15:49 น.] #1693823 (1/3)


(N)


2

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [ศ. 10 มิ.ย. 2554 - 16:07 น.] #1693843 (2/3)
หลวงพ่อดี สุวัณโณ หรือ พระครูวิชัยวุฒิคุณ (หลวงปู่ดี แห่งวัดสุวรรณาราม) อำเภอ พุทธมณฑล
จังหวัด นครปฐม ท่านเป็นเกจิผู้เรืองวิชา หรือแทบจะเป็นองค์สุดท้ายก็ว่าได้ ที่ทันและได้เป็นหนึ่งในศิษย์
หลวงปู่บุญก็ว่าได้ แต่ตอนนั้นท่านยังเป็นสามเณรอยู่ และได้เรียนโรงเรียนปริยัญติธรรมของหลวงปู่บุญในครั้งนั้น
ซึ่งเป็นโรงเรียนแห่งแรกในจังหวัดนครปฐม โดยได้ศึกษาเล่าเรียน วิชา สนธิมูลกัจจายน์ กับพระอาจารย์เนียม ซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ใน
วัดกลางบางแก้ว โดยหลวงปู่บุญ หรือ พระพุทธวิถีนายก เป็นผู้ควบคุมดูแล
หลวงปู่ดี ท่านเป็นชาวตำบล มหาสวัสดิ์ อำเภอ นครชัยศรี (ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็น กิ่งอำเภอ
พุทธมณฑลแล้ว) จังหวัด นครปฐม โดยกำเนิด ท่านเกิด วันอังคาร ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 8 ปีมะโรง ตรงกับ พ.ศ.2446
ในตระกูลชาวสวน ชาวนา ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ท่านได้ร่ำเรียน และศึกษาอักขระขอม กับ
พระอาจารย์แสง อาจารย์ในสำนัก วัดกลางบางแก้ว จนมีความรู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างดี กาลลุถึงปี พ.ศ.2466
มีอายุล่วงเข้า 20 ปี และด้วยความซาบซึ้งต่อพุทธศาสนา พร้อมที่จะละทางโลก ท่านจึงละสมบัติทางโลกซึ่งบิดามารดาของท่านได้จัด
การแบ่งปันเอาไว้ให้ และเพียงคอยลูกแก้วออกจากเพศบรรพชิตเท่านั้น แต่ท่านก็มิได้สนใจ จึงขอบิดามารดาท่านบวชต่อ และได้
อุปสมบทยังวัดที่ใกล้บ้านท่าน ก็คือ วัดงิ้วราย โดยมีพระปลัดบุญ วัดแค เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระครูปัจฉิมทิศบริหาร (เกิด)
วัดงิ้วราย (อาจารย์ชื่อดังในสมัยนั้น)
เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “สุวณโณ” หลังจากบวชแล้วท่านก็ปรนนิบัติรับใช้อุปัชฌาย์เป็นเวลานานพอสมควร จึงได้มา
จำพรรษากับหลวงพ่อเนียม แห่งวัดสุวรรณาราม ซึ่งพระอาจารย์เนียมนี้เคยเป็นอาจารย์ของท่านตั้งแต่สมัยท่านยังเป็นเณร ซึ่ง
ภายหลังหลวงปู่บุญได้ให้ท่านมาปกครองวัดสุวรรณารามนี้ แต่ระหว่างนั้นท่านก็ได้ออกจารึกแสวงบุญไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อหา
ความวิเวก และเจริญวิปัสสนาอยู่เสมอ และบางพรรษา
เมื่อกล่าวถึง"วัดสุวรรณาราม" หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักแต่หากเป็นคนศาลายา จ.นครปฐม แล้วล่ะก้อ ทุกคนก้อต้องร้องอ๋อ
วัดสุวรรณารามนี้ เป็นวัดเก่าแก่ ตั้งแต่เริ่มมีการขุดคลองมหาสวัสดิ์ โดย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
ทรงโปรดให้ขุดคลองมหาสวัสดิ์ เชื่อมต่อคลองบางกอกน้อยกับแม่น้ำนครชัยศรี ในปีพ.ศ.2403 เพื่อใช้เป็นเส้นทาง เสด็จไป
นมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ และจากบันทึกของผู้สร้าง วัดสุวรรณารามนี้ได้แต่งตั้งเป็นวัดในปี พ.ศ.2424 ตรงกับสมัย
พระบามสมเด็จพระจุลจอลเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรือง ของเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ หรือเป็นยุคสมัยที่มีเกจิอาจารย์ชื่อ
ดังมากที่สุดก็ว่าได้ อดีตวัดสุวรรณารามแห่งนี้ มีเจ้าอาวาสมาแล้ว รวม 117 รูป และหนึ่งในนั้นก้อคือ "หลวงปู่ดี สุวัณโณ"
หรือนามเดิมของท่านคือ "นายดี พุทธสัยยาสน์" หลวงปู่ดี ท่านเป็นพระที่รักสงบวิเวก และชอบธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆและชอบศึก
ษาเล่าเรียนวิชา อักขระสนธิมูลกัจจาย ตามแบบฉบับพระอริยสงฆ์ผู้เจริญหลวงปู่ท่านเป็นคนนครชัยศรีโดยกำเนิด ท่านเกิด ญ.
ตำบลศาลายา ครั้งอดีต เส้นทางการเดินทางลำบาก โยมบิดา มารดา จึงนิมนต์ท่าน มาจำพรรษาที่วัดสุวรรณารามซึ่งเป็นวัดละแวก
บ้านเกิดท่าน และด้วยอุปนิสัยท่าน ซึ่งเป็นพระที่ใจดี มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ ไม่ว่าคนนั้นจะยากดีมีจน ท่านก้อเมตตา ต่อทุกคนที่มา
หาท่านโดยเท่าเทียมกันจึงทำให้ผู้คน หลั่งไหลมาทั่วทุกสารทิศ และต่อมาชาวบ้าน จึงรวมตัวกัน นิมนต์ท่านครองเจ้าอาวาส
ซึ่งท่านก้อได้ปฏิบัติศาสนกิจ ดูแลภิกษุสามเณรในวัดด้วยความยุติธรรมเรียบร้อยมาตลอด แต่ด้วยการที่ท่าน สนใจด้านวิปัสนากรรม
ฐานและด้วยเหตุผลประการใดไม่ทราบท่านจึงลาออกจากการเป็น เจ้าอาวาสวัดสุวรรณรามในสมัยนั้น และได้ออกจาริกแสวงบุญ
ไปในสถานที่ต่างๆ จนเวลาล่วงผ่านไป ทางวัดสุวรรณารามก้อขาดเจ้าอาวาส และด้วยจริยวัตรของท่าน ลูกศิษย์ลูกหา ต่างพากันพูด
ถึงในความดีงาม จึงรวมตัวกันนิมนต์หลวงปู่ ขอบารมีท่านกลับมาปกครองดูแล วัดสุวรรณราม เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งขณะนั้น ทางวัด
ได้ทรุดโทรมลงไปมาก ท่านจึงกลับมายังวัดสุวรรณาราม และครองตำแหน่งดังเดิม หลังจากนั้น ท่านได้เริ่มทะนุบำรุงวัดและ
พระอุโบสถซึ่งมีพระพุทธสุวรรณ บวรรังสี ซึ่งเป็นพระพุทธรูป ที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก และหนึ่งในการสร้างครั้งนั้น ก้อได้บารมีของ
หลวงพ่อสด แห่งวัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งเมตตาร่วมเป็นประธานด้วย จึงสำเร็จลุล่วงโบสถ์แห่งนี้ชาวบ้านว่า หากไม่มีผู้บารมีมาสร้าง
ก้อไม่เสร็จสมบูรณ์อย่างนี้ และท่านยังได้สนับสนุน การก่อสร้างโรงเรียน ให้แก่กุลบุตรกุลธิดา ได้เข้าศึกษาเล่าเรียนด้วย ซึ่งนี่ก้อเป็นเ
พียวส่วนหนึ่ง ของคุณงามความดีของท่าน ความศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านละแวกนั้นได้ประสบพบเห็น มามากต่อมากแล้ว และสิ่งที่ทำให้
คนในละแวกนั้น เชื่อว่าท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆก้อคงไม่พ้นวัตถุมงคลของท่าน ซึ่งชาวบ้านแถบนั้นใส่ติดตัวกัน ตั้งแต่รุ่นพ่อสู่รุ่นลูก
และก้อพุดเป็นเสียงเดียวกันว่า"มีหลวงพ่อมิตายโหง" ก้อน่าจะจริงเพราะเหตุการณ์แต่ละครั้ง ที่เป็นข่าวเช่น โรงงานตุ๊กตาเคเดอร์
ที่ไฟไหม้จนมีคนตายมาก แต่มีบางคนห้อยแหรียญหลวงปู่ดี กระโดจากตึกสูง 4 ชั้นลงมาก้อไม่เป็นอารัย และอีกหลายครั้ง ที่รถไฟ
ชนจนรถพังยับ แต่คนในรถ กลับบาดเจ็บไม่เท่าไหร่ หรือบางคนโดนทำร้าย ก้อรอดได้อย่างปาฏิหาร์ย์ นี่คงเป็นเพียงประสบการณ์ที่
ได้รับรู้มาบ้างเท่านั้น และทุกเรื่องล้วนแล้วแต่เป็รเรื่องจริง และคนที่ประสบอุบัติเหตุก้อมีตัวตนจริงๆ มิได้โกหกกัน ชาวบ้านศาลายา
ต่างรู้ดีถึงพุทธคุณ แห่งวัตถุมงคลของท่าน

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [พฤ. 17 ม.ค. 2556 - 20:22 น.] #2644187 (3/3)
rg591395131th
ปิดกระทู้

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1