ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : หลวงปู่พุธ



(N)
นาคารกสิกรไทย
ชื่อบัญชี นายปริญญา
สาขาย่อยอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เลขที่ 744 - 2 - 55321 - 6
พระอยู่ในสภาพเดิมๆ สนใจติดต่อ 084-6935029
ท่านใดสนใจพระรายการใด กรุณาโทรสอบถามก่อน ว่ารายการนั้นยังอยู่หรือเปล่า
รับประกันพระแท้ ( ทุกรายการ ) ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับพระแล้ว
พระปลอมยินดีคืนเงินเต็มจำนวน ( ไม่มีการหัก )
แต่พระที่คืนมานั้นต้องอยู่ในสภาพเดิมๆ
ท่านใดที่โอนเงินแล้ว ช่วยโทรแจ้งด้วยนะครับ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
ในการจัดส่งพระไปให้ท่านครับ

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [ส. 25 มิ.ย. 2554 - 12:52 น.]



โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [ส. 25 มิ.ย. 2554 - 13:07 น.] #1714680 (1/6)


(N)


เหรียญลงยา

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [ส. 25 มิ.ย. 2554 - 13:10 น.] #1714683 (2/6)


(N)


บิดา-มารดาของท่าน มีอาชีพทำไร่ทำนา และค้าขาย เมื่อท่านอายุได้ ๔ ขวบ บิดา-มารดาได้ถึงแก่กรรม ญาติที่อยู่ ณ หมู่บ้านโคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร จึงมารับท่านไป อุปการะ

เมื่อมีอายุได้ ๑๔ ปี ในสมัยนั้น ถ้าย้อนหลังไป ๖๐-๗๐ ปี การได้เรียนจนจบชั้นประถมปีที่ ๖ ได้ ต้องถือว่าเป็นการเรียน ที่สูงพอสมควรแล้ว เมื่อเรียนจบแล้วครูบาอาจารย์ได้สนใจที่จะบวชมากกว่า

หลวงพ่อพุธ ท่านเล่าว่า ขณะที่ท่านป่วยเป็นวัณโรคนั้น ท่านต้องรักษา พยาบาลตัวเอง ตั้งหน้าตั้งตามุ่งมั่นปฏิบัติธรรม เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา โดยมุ่งที่จะพิจารณาดูความตายเท่านั้น โดยคิดว่า "ก่อนที่เราจะตายนั้น ควรจะได้รู้ว่า ความตายคืออะไร" จึงได้ตั้งอกตั้งใจพิจารณาดูความตาย อยู่เป็นเวลาหลายวัน ในวันสุดท้ายได้ค้นคว้าพิจารณาดูความตายอยู่ถึง ๗ ชั่วโมง
ในตอน

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [ส. 25 มิ.ย. 2554 - 13:17 น.] #1714689 (3/6)
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพุธ ฐานิโย พระอริยเจ้าศิษย์องค์สุดท้ายของหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ท่านกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ ๔ ขวบ เมื่ออายุ ๑๑ ขวบ ท่านเคยกราบท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ในวัยเด็กเมื่อป่วยไข้ไม่สบาย จิตจะเกิดแสงสว่าง นิมิตเห็นก้อนศิลากลิ้งมาจากทิศทั้ง ๔ บดขยี้ร่างกาย เป็นมรณสติกระตุ้นเตือนปัญญาและจิตวิญญาณอยู่เสมอ ท่านจึงมีมโนปณิธานตั้งแต่วัยเด็กว่า “จะบวชตลอดชีวิต” ท่านเป็นผู้มีปฏิปทางดงาม หนักแน่นในความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ มีปัญญาดี สามารถท่องพระปาฏิโมกข์ได้ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ท่านเป็นผู้ชำนาญทั้งปริยัติและปฏิบัติ เป็นที่ยอมรับทั้งฝ่ายคามวาสีและอรัญญวาสี เทศนาธรรมของท่านประกอบไปด้วยโวหารที่ฟังเข้าใจง่ายเป็นที่ซาบซึ้งถึงใจแก่ผู้ที่ได้ฟัง ได้รับการยกย่องจากพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริว่า “เป็นผู้สามารถเทศน์เรียงลำดับสมาธิได้ละเอียดลออดี” พระอาจารย์เจี๊ยะ จุนฺโท ออกปากชมท่านว่า “ท่านเจ้าคุณพุธมีความอ่อนน้อมถ่อมตัวมาก เขียนหนังสือด้านการปฏิบัติได้ดี ถูกต้องทุกขั้นตอน เก่งกว่าพระที่มียศตำแหน่งเป็นสมเด็จเสียอีก เราชอบอ่านหนังสือที่ท่านเจ้าคุณพุธเขียน”

ท่านเป็นพระเถระที่อ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอในโอกาสอันควรท่านมักเที่ยวไปคารวะและสนทนาธรรมกับพระมหาเถระผู้ทรงธรรมเป็นปราชญ์ทางศาสนา เช่น ท่านพ่อลี ธมฺมธโร หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ หลวงปู่เทสก์ เทสฺรงฺสี หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท เป็นต้น ท่านเคยดำรงตำแหน่งทางคณะสงฆ์หลายตำแหน่ง เช่น เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เป็นต้น ท่านเป็นผู้มิเคยหยุดบำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติ พระศาสนาและสังคมท่านมีสหธรรมิกคือพระอาจารย์วัน อุตฺตโม พระอาจารย์มานิตย์ สุรปญฺโญ ท่านรับเป็นองค์บรรยายธรรมและอบรมสมาธิภาวนาให้แก่ศาสนิกชนอย่างสม่ำเสมอ นับเป็นผู้สร้างคุณประโยชน์แก่พระศาสนาและประชาชนอย่างยิ่ง เป็นผู้ยินดีเอาใจใส่ในการอบรมสั่งสอนธรรมแก่พระภิกษุ สามเณร ตลอดถึงสาธุชนผู้มาถึงสำนักด้วยความเมตตา เป็นผู้ชี้นำในธรรมปฏิบัติ ทั้งเป็นผู้ปฏิบัติสำรวมตนในพระธรรมวินัยซึ่งเป็นแบบอย่างอันดีแก่ศิษย์มาโดยตลอด ควรแก่การเคารพเทิดทูนยิ่ง

ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๖๔ ที่บ้านหนองโดน อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี หลวงพ่อพุธท่านเล่าประวัติว่า “ท่านเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุ ๔ ขวบ ท่านเคยทำกรรมพรากชีวิตสัตว์ไว้ จึงต้องเป็นกำพร้าตั้งแต่เด็ก”

ปีพุทธศักราช ๒๔๗๙ เมื่ออายุ ๑๕ ปี ได้บรรพชา เป็นสามเณร ที่วัดอินทสุวรรณ อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร โดยมี พระครูพิบูลย์ธรรมขันธ์ เป็นพระปัพพชาจารย์ หลังบรรพชาแล้วได้ติดตาม พระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสฺโส) ธุดงค์ไปยังจังหวัดอุบลฯ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์พร สุมโน พระอาจารย์พรได้นำท่านไปฝากเป็นศิษย์ของหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ที่วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ ได้บรรพชาเป็นสามเณรฝ่ายธรรมยุต ที่วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พระศาสนาดิลก (เสน ชิตเสโน) เป็นพระปัพพชาจารย์

ในปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ ท่านพระอาจารย์เสาร์ ได้พาไปฝากเรียนพระปริยัติธรรมกับท่านเจ้าคุณพระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ) ณ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร ท่านเรียนจบนักธรรมเอก และเปรียญธรรม ๔ ประโยค ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๘๕ ณ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร โดยมี พระปัญญาพิศาลเถร (หนู) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมปาโมกข์ (บุญมั่น มนฺตาสโย) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ปีพุทธศักราช ๒๔๘๗ – ๒๔๘๙ ท่านกลับมาจำพรรษาที่วัดบูรพา อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้ป่วยเป็นวัณโรคอย่างหนัก นอนไม่ได้ถึง ๗ วัน ๗ คืน ใกล้จะตาย หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้สอนให้ท่านพิจารณาอริยสัจว่า “ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ทุกข์มันปรากฏแก่เธอทุกลมหายใจ ให้กำหนดสติรู้สิ่งที่มันอยู่ในกายใจ เวลานี้ปอดของเธอเป็นวัณโรค มันเป็นจุดเกิดของทุกข์ จิตของเธอไปยึดติดอยู่ที่ปอดเพราะเธอป่วยที่ปอด แต่ความทุกข์มันเกิดที่จิต ความเจ็บปวดเกิดที่กาย ฉะนั้นให้กูสิ่งที่มันมีอยู่ในปัจจุบัน อย่าไปไขว่คว้าอะไร” ท่านปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้ปีเศษ จิตเกิดมรณนิมิตเห็นตัวเองนอนตายแล้วแสดงอาการต่างๆ มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วดับไป เป็นต้น กายหายเหลือแต่จิตเพียงดวงเดียวสว่างไสวอยู่เป็นที่อัศจรรย์ จากนั้นมาวัณโรคที่ว่าร้ายไม่มียารักษาได้ในสมัยนั้นได้หายเป็นปลิดทิ้ง

ปีพุทธศักราช ๒๕๑๓ ท่านได้รับนิมนต์ให้มาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา และอยู่จำพรรษาเรื่อยมาจนถึงวาระสุดท้าย

ปีพุทธศักราช ๒๕๒๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ นิมนต์ท่านไปที่พระราชวังไกลกังวล ทั้งสองพระองค์ได้สนทนาธรรมกับหลวงพ่อพุธเป็นเวลานาน

ท่านมรณภาพเข้าสู่แดนธรรมอันสงบ ณ โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ เวลา ๐๗.๑๕ น. สิริอายุได้ ๗๘ ปี ๓ เดือน ๗ วัน ๕๗ พรรษา

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [ส. 25 มิ.ย. 2554 - 13:38 น.] #1714710 (4/6)
เคยได้ยินคนเก่าๆสมัยนั้นบอกว่า ตอนหลวงพ่อแจกแรกๆมี ชาย2คน เป็นเพื่อนกันไปรับมาพร้อมกัน

เสร็จแล้วได้ออกมาทานบะหมี่(ต้มยำน้ำใส ไม่ใส่น้ำ ^^) ได้เจอคู่อริมามากกว่า 10 ต่อ 2

ซัดกันไม่มีใครยอมฝ่ายคู่อริ ชักปืนมายิงไปที่เพื่อนอีกคน ปรากฎว่าไม่เข้า เพื่อนอีกคนเลยพูดออกมา

"ยิงหา ..อ มึงเหรอ " อีกฝ่ายได้ยินจึงยิงมาอีกนัด คราวนี้เลือดนอง เพื่อนเลยรีบพามาหาหลวงพ่อ

คนถูกยิงถามหลวงพ่อว่าเหรียญรุ่นเดียวกันรับมาพร้อมกันทำไม อีกคนยิงเข้า อีกคนยิงไม่เข้า

หลวงพ่อนั่งสมาธิเพ่งจิตสักครู่ จึงบอกไปว่า เพราะเอ็งไปด่า พ่อ แม่ บุพการีเค้า

นี่คือสิ่งที่หลวงพ่อห้ามไว้ครับ อีกประสบการณ์ครับที่ได้ยินมา แฝงคติธรรมของหลวงพ่อครับ

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [พ. 06 ก.ค. 2554 - 20:13 น.] #1730388 (5/6)
ปิดเหรียญลงยา

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [พ. 20 พ.ย. 2562 - 17:30 น.] #3920127 (6/6)


(N)


พระชัยรุ่นขุมทรัพย์

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1