ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : หลวงปู่จันทร์ วัดมฤคทยาวัน



(N)


ชื่อบัญชี นายปริญญา
สาขาย่อยอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เลขที่ 744 - 2 - 55321 - 6
พระอยู่ในสภาพเดิมๆ สนใจติดต่อ 084-6935029
ท่านใดสนใจพระรายการใด กรุณาโทรสอบถามก่อน ว่ารายการนั้นยังอยู่หรือเปล่า
รับประกันพระแท้ ( ทุกรายการ ) ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับพระแล้ว
พระปลอมยินดีคืนเงินเต็มจำนวน ( ไม่มีการหัก )
แต่พระที่คืนมานั้นต้องอยู่ในสภาพเดิมๆ
ท่านใดที่โอนเงินแล้ว ช่วยโทรแจ้งด้วยนะครับ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
ในการจัดส่งพระไปให้ท่านครับ

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [อา. 06 ม.ค. 2556 - 19:57 น.]



โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [อา. 06 ม.ค. 2556 - 19:59 น.] #2628883 (1/3)
หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน
การศึกษา***...หลวงพ่อจันทร์ สมัยศึกษาวิชาต่างๆ ณ สำนักวัดโตนดหลวง...

...นับถอยหลังไป 50 กว่าปี การศึกษาสมัยนั้น ไมีมีโรงเรียนประชาบาล ใครๆที่อยากให้ลูกหลานของตนฉลาด ก็นำเอาลูกหลานไปฝากวัด กับพระที่ตนเคารพนับถือ หรือฝากใว้ที่วัดใก้บ้าน เพื่อให้พระท่านสอน หวังเพียงให้อ่านออกเขียนได้เท่านั้นเป็นพอ การเรียนหนังสือที่วัด ต้องเรียน เขียน อ่าน ไปพร้อมๆกัน ทุกตัวอักษรคือเริ่มตั้งแต่ ก ข ค อ่านว่า กอ ขอ คอ มิใช่อ่านว่า ก.ไก่ ข.ไข่ ตามลำดับจนถึง ฮ. สระ ก็เริ่มแด่ ะ า ไปตามลำดับเช่นกัน เมื่อเขียนได้ อ่านได้ทั้งพยัญชนะ และสระแล้ว ก็เรียนผสม ก กา กิ กี ฯลฯ ข ขา ขิ ขี จนถึง ฮฮา ฮิ ฮี แล้วเรียนต่อ แม่ กน กง กด กบ กม และเกย จบเกยแล้วเรียนขอมต่อ หรืออ่านหนังสือพระมาลัย เรียนอานพระมาลัยไม่ต้องเรียนเขียน ถือว่าเรียนจยแล้ว และเรียนวิชาป้องกันตัว ซึ่งแยกออกเป็น 2 ประเภท...

...มวย(ต่อย) กระบี่(ฟัน) กระบอง(ตี) และวิชาคาถาอาคม บางคนไม่เรียนวิชาคาถาอคม แต่ก็หาทางป้องกันตัวด้วยทางอื่นคือจำพวกว่าน เครื่องรางของขลังต่างๆการเรียญในยุกนั้น แบ่งออกเป็นภาคต่างๆคือ หลังอาหารเช้า เรียนหนังสือไทยไปจนเพล ภาคเชัาอาจารย์เข้มงวดมาก ภาคบ่ายหลังเพลเรียนต่อ คือเรียนแบบทบทวน ภาคนี้อาจารย์ไม่เข้มงวดนัก ภาคเย็นฟังพระสวดมนต์ แล้วต่อหนังสือค่ำ หนังสือค่ำนั้นคือสวดมนต์นั่นเอง วิธีต่อปากเปล่าไม่มีตำรา เริ่มตั้งแต่ ปะฏิสังขาโย อิติปิโส สวากขาโต สุปฏิปันโน ต่อพาหุง มหากา สัพพะพุทธา เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน ต่อพระสูตรต่างๆ จนถึงสมัยสูตร จบแล้วจึงเรียนพระปฏิโมกข์ เด็กที่มีความจำได้ไว ใช้เวลประมาณา 3-5 ปี คืนเดือนหงายเรียนวิชาป้องกันตัว วิชานี้ไม่บังคับ อาจารย์ที่สอนวิชานี้ ก็คือพระภิกษุที่เป็นอาจารย์นั่นเองที่สอน ท่ารุก ท่ารับ ก็จะรำไม้นำ ปากก็สอนไปด้วย ศิษย์ก็รำไม้ตาม สอนเป็นหมู่ๆจนเป็นที่พอใจของอาจารย์ หลังจากนั่นก็ทำเป็นนิสัย ตอนนี้อาจารย์จะสอนคาถาอาคมให้ และเป็นการดูนิสัยศิษย์ไปในตัว ว่าศิษย์คนไหน มีนิสัยอย่างไร ควรสอนหนักไปให้ตรงกับนิสัย ภาคดึกประมาณ 5 ทุ่ม เรียนกรรมฐาน อาจารย์จะสอนกรรมฐานเฉพาะศิษย์ที่มีอุปนิสัยเท่านั่น...

...หลวงพ่อจันทร์ ท่านเรียฯทุกอย่าง ภาษาไทย เรียน ก ข ถึงเกย เรียนบาลี วิชาป้องกันตัวก็เรียนทั้งมวย กระบี่ กระปอง วิชาป้องกันตัว ท่านเรียนพอรู้เท่านั่น แต่ท่านสนใจและเก่งมากในทางด้านวิชาคาถาอาคมและกรรมมัฏฐาน และเมื่อท่านอุปสมบทแล้ว ก็ช่วยพัฒนาวัดโตนดหลวง สร้างกุฏิ และศาสนสถานต่างๆ การช่วยสร้างวัด เป็นการเรียนวิชาช่างไปในตัว ปรากฏว่าหลวงพ่อมีความรู้ทางช่างหลายอย่างเป็นช่างไม้ ทำกุฏิโดยไม่ต้องจ้างช่างทำ ท่านชวนทำกันเอง และฝีมือชนิดเรียกนายช่างได้สบาย การตัดจั่วทำปั้นลม ช่อฟ้าใบระกา ทำรักลงมุกปิดทองได้เรียบร้อย ทั้งเขียนลายไทย แกะสลัก และแทงหยวก นับว่ามีความรู้ความชำนาญมาก...
การช่าง***...หลวงพ่อจันทร์...

...เมื่อปี 2473 หลวงพ่อทองศุข ได้ส่งหลวงพ่อจันทร์ ไปยังหมู่บ้านช้างแทงกระจาด ตำบลห้วยทราบเหนือ เพื่อทำการสร้างวัดและเป้นเจ้าอาวาส หมู่บ้านช้างแทงกระจาดเมื่อครั้งกระโน้นทุรกันดาน อยู่ในป่า ในป่านั้นมีสัตว์นาๆชนิด ทั้งเสือ ช้าง กระทิง ได้รับความลำบากมาก จะไปไหนมาไหนก็เดินเท้าเปล่าทั้งต้องคอยระวังอยู่เสมอ ตอนนั้นหลวงพ่อจันทร์ จึงใช้เวลาหนังไปทางด้าน สมถะและวิปัสสะนากรรมฐาน ออกพรรษาแล้วนิยมเดินธุดงค์เสมอ แด่การสร้างวัดก็เป็นไปได้ง่ายกว่าสมัยนี้มาก เพราะไม้ซึ่งมีอยู่มากชนิดเลือกไหนลือกได้ การตัด ชัก ลาก แปรรูปปรุงกุฎีศาลาไม่ต้องใช้เงินเลย จะใช้ก็เพียงเครื่องมุงเท่านั้น การสร้างวัดจึงไม่มีอุปสรรคใดๆ

...ในปี พ.ศ. 2499 ทางรัฐบาลสมัยนั้นมีการประกาศเฉลิมฉลอง 25 พุทธศัตวรรษ ในปี พ.ศ. 2550 หลวงพ่อจันทร์ เกิดความศรัทรา จะทำกุศลให้เป็นอนุสรณ์ 25 พุทธศตวรรษ จึงได้มาสร้างวัดใหม่ขึ้น เพื่อเป็นการฉลอง 25 พุทธศตวรรษเป็นพุทธบูชา คือวัดมฤคมายวัน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมีญาติโยมที่นับถึอศรัทราหลวงพ่อ ร่วมบริจากเป็นปัจจัย เป็นวัสดุก่อสร้างต่างๆ ประชาชนที่ขัดสนทุนทรัพย์ แต่มากด้วยศรัทธาก็จะพากันร่วมแรง ร่วมสร้างแบบง่ายๆ จนเสร็จสมบูรณ์ใน ปี 2500 หลวงพ่อท่านสร้างวัดด้วยความศรัทรา และบุญบารมีโดยแท้จริง...
การผจญภัย***...หลวงพ่อจันทร์...

...อีกอย่างหนึ่งที่หลวงพ่อจันทร์ ชอบทำและสรรเสริญผู้ที่กระทำ นั่นคือธุดงค์วัตร ธุดงค์วัติ มี 13 ข้อ การถือธุดงค์เรียกว่าสมาทาน ท่านที่ถือธุดงค์จะสมาทานพร้อมทั้ง 13 ข้อหาได้ไม่ เพราะเป็นปฏิบัติ ที่พระพุทธเจ้าทรงแยกไว้รับศรัทธา มีความเพียร และสะดวกในทางปฏิบัติ เช่นบางข้อสมทานอยู่ป่า หรือโคนไม้ แต่บางข้ออยู่กลางแจ้งเป็นต้น การเดินทางด้วยแล้วต้องเลือกสมทาน ได้บางข้อที่สะดวกแก่การปฏิบัติ เช่น...
...ถือผ้า 3 ผืน คือสบง จีวร สังฆาฏิ แต่ต้องสมาทานถือผ้าบังสกุลกันไว้ เผื่อผ้าผืนหนึ่งผืนไดเลื่อยขาด ก็ถือผ้าบังสกุล ประการที่ 3 ถือบิณฑบาต4 ฉันมือเดียวลุกจากที่นั่งแล้วไม่ฉันอีก 5ฉันอาหารที่ตกอยู่ในบาต นอกบาตไม่ฉัน 6 สมทานอยู่ป่า หมายความว่า เมื่อถึงเวลาพักประจำวัน คือปักกรด จะพักในระแวกบ้านไม่ได้ ต้องห่างจากหมู่บ้าน 25 เส้น ซึ่งเรียกว่าป่า และอยู่โคนไม้ ข้อนี้ต่างจากอยู่ป่า คำว่าป่านั่นหมายถึงที่แจ้งด้วย การถือธุดงค์นั่นต้องศึกษาให้เข้าใจในภาคปฏิบัติก่อน เมื่อเข้าใจหลักปฏิบัติแล้ว ก็เข้าหาอาจารย์ (ขึ้นครู ส่งกรด) จะถือธุดงค์ข้อไหนบาง ต้องสมทานต่อหน้าอาจารย์ อาจารย์จะบอกเคล็ดลับให้บ้าง การขึ้นธุดงค์ มีความหมายระหว่างศิษย์กับอาจารย์มาก คือศิษย์จะเกิดกำลังใจที่เข้มแข็ง กลางวันไม่กลัวแดง กลวงคืนไม่กล้วน้ำค้าง เข้าป่าไม่กลัวสัตว์ร้ายมี เสือ หมี ช้าง งู เป็นต้น โดยเชื่อมั่นว่าอาจารย์ต้องคุ้มกันให้ อาจารย์ผู้ส่งกรดให้ พระภิกษุต้องมีคุณธรรมสูง เช่นหูทิพย์ ตาทิพย์ เป็นต้น สมทานแล้วต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัด ไม่รับปัจจัยไม่ย่อย่น หรือไม่ปฏิบัดิตามสมทานไว้ ถือว่าธุดงค์ขาด เป็นการเสียสัจจะ จะถูกธรรมชาติลงโทษอย่างแรง เช่นฝนตกตลอดรุ่งไม่ต้องหลับต้องนอน บางทีฝนตกหนักจนน้ำท่วมครึ่งแข้งบ้าง หรือโดนมดขี้เป็นหมื่นเป็นแสนตัวเข้าชุมนุมในกรดบ้าง เรื่องนี้ท่านที่เคยธุดงค์ย่อมตระหนักดี หลวงพ่อนิยมเดินธุดงค์ ทั้งเป็นศิษย์เป็นอาจารย์ให้ท่านผู้อื่น ธุดงค์บางท่านเรียกว่ารุกขมูล เมื่อสมัย 40ปีก่อนโน้น ชาวชะอำเห็นพระเดินธุดงค์ผ่านมาจะเรียกว่า พระรุกขมูลทุกคน...
...ภาคปฏิบัติของพระธุดงค์ กิจประจำวันตื่นนอนแต่เช้า สวดมนต์ถวายพรพระ ออดบิณทบาต กลับจากบิณบาตก่อนฉัน ต้องถวายพรพระอีกครั้งแล้วจึงฉัน หลังฉันเช้าแล้วทำวัครเช้าแล้วเก็บกรด เพื่อเดินทางต่อ ระหว่างทางต้องภาวนา(เดินภาวนา) ปกคิสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย 108 เมื่อครบ 108 แล้ว จะขึ้นต้นใหม่อีกหรือเดินดูธรรมชาติ บ้านเมืองก็ได้ ถึงเที่ยงพักเที่ยง บ่ายเดินทางต่อก็ภาวนา คือคุณพระรัตนตรัย 108 เช่นเคย เย็นกำหนดที่พัก สรงน้ำ(อาบน้ำ) หลังจากนั้น ก็ทำวัตรสวดมนต์ จบแล้วพิจารณาปัจเจกขณะ 108 จบ กิจวัตรประจำวันสุดท้ายคือ นั่งภาวนา (กรรมฐาน) ผู้ใดเรียนทางสมถะ ก็เจริญสมถะกรรมฐาน ผู้ใดเรียนวิปัสสนา โดยกำหนดชั่วธูปหนึ่งดอก ประมาณ 45 นาทีแล้วจึงจำวัตร (นอน) เป็นอันเสร็จกิจประจำวัน วันต่อไปก็ทำเช่นนี้ ทุกๆวัน...

...ครั้งหนึ่งหลวงพ่อจันทร์ ท่านได้เดินธุดงค์เข้าไปในป่าลึกของจังหวัดกาญจนบุรี ถึงป่ากะเหรี่ยงเวลาตอนเย็นท่านได้นั่งพักเหนื่อยอยู่ มีกะเหรี่ยงหนุ่มคนหนึ่งมาพบเข้า แสดงปฏิกริยาแปลกใจที่พบพระภิกษุห่มจีวรเศร้าหมอง ลักษระผิวพรรณ น่าเกรงขามได้นั่งดูหลวงพ่ออยู่นาน ส่วนหลวงพ่อเห็นกิริยาของกะเหรี่ยง ท่าทางไม่น่าไว้วางใจจึงไม่ประมาท หลวงพ่อก็นั่งดูเหมือนกัน ต่างคนต่างจ้องหน้ากันชนิดไม่ไว้ใจกันและกัน ในที่สุดกะเหรี่ยงหนุ่มก็เข้าไปกราบหลวงพ่อ ได้ไต่ถามความของกันและกันจนเข้าใจดี แล้วกะเหรี่ยงหนุ่มสารภาพว่าปกติจะไม่กราบใครๆ แต่ที่กราบหลวงพ่อครั้งนี้ก็กราบตามพ่อสั่งว่า ถ้าพบใครไม่มีรู(ทวาร)จงกราบผู้นั่น หลวงพ่อไม่มีรู(ทวาร)จึงขอกราบหลวงพ่อ กะเหรี่ยงหนุ่มผู้นั่น ได้อาราธนาให้หลวงพ่อพักที่นั่น และเขาได้ไปตามพวกกะเหรี่ยงทั้งหลายให้มาหาหลวงพ่อ และยอมหลวงพ่อทุกอย่างแล้วแต่หลวงพ่อต้องการอะไรก็ยอมให้ใช้ทุกคน...
...จนหลวงพ่อจันทร์ได้รับการขนานนามว่า เทพเจ้าแห่งดินแดนกระเหรี่ยงตะวันตก...
งานคณะสงฆ์***...หลวงพ่อจันทร์...

...ปี พ.ศ. 2473 เป็นเจ้าอาวาสวัดช้างแทงกระจาด
...ปี พ.ศ. 2500 เป็นเจ้าอาวาสวัดมฤคทายวัน
...ปี พ.ศ. 2500 เป็นเจ้าคณะตำบลเขต 2
...ปี พ.ศ. 2500 เป็นพระอุปัชฌาย์
...ปี พ.ศ. 2500 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอ
........................................................................

***สมณศักดิ์***

ปี พ.ศ. 2480 เป็นพระครูประทวน
ปี พ.ศ. 2505 เป็นพระครูสัญญบัตร
ปี พ.ศ. 2506 เลื่อนเป็นพระครูสัญญบัตร ชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนา

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [อา. 06 ม.ค. 2556 - 20:01 น.] #2628887 (2/3)
ของดีของหลวงพ่อ***...หลวงพ่อจันทร์...

...หลวงพ่อจันทร์ท่านมีของดีหลายอย่าง เช่น การสักยันต์ด้วยน้ำหมึกหรือน้ำมันงา ผงอิทิเจ ผงพุทธคุณ ผงแร่เหล็กน้ำพี้ สีผึ้ง ผ้ายันต์ แหวนนะปัดตลอด ลูกอม ตะกรุดทองแดง ตะกรุดไม้รวก พระสมเด็จมฤคทายวัน หลังยันต์ตรีนิสิงเห เป็นต้น...
...สมเด็จมฤคทายวัน หลังยันต์ตรีนิสิงเห พิมพ์ต่างๆ เป็นวิชาโบราณที่หลวงพ่อจันทร์ สืบทอดมาจากหลวงปู่นาควัดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้เป็นพระอาจารย์ที่ถ่ายทอดสรรพวิชาต่างๆให้ของหลวงพ่อจันทร์อีกองค์หนึ่ง ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 6 ทรงมีพระดำริให้จัดสร้าง พระผงสมเด็จมฤคทายวัน เพื่อแจกแก่ทหาร ตำรวจ ข้าราชบริพารในพระองค์ และแจกให้แก่ประชาชน เพื่อร่วมสมทบทุนสร้างวัดมฤคทายวันในกาลต่อมา...
...ตะกรุดไม้รวก กรรมวิธีคือ ต้องหาไม้รวกกลางกอ และไม้รวกนั้นต้องเป็นไม้รวกที่สมบูรณ์ ลำปล้องต้องสวยสะอาด... หลวงพ่อจะทำตะกรุดไม้รวกและปลุกเสกด้วยตัวท่านเอง...หลวงพ่อท่านจะลงจารอักขระยันต์ ด้วยพระคาถาอิติปิโส สร้อยสน ดอกหนึ่งๆใช้เวลา เรียกสูตร ลงจารพระคาถาใช้เวลานานหลายชั่วโมง วันหนึ่งบางทีทำได้เพียงดอกเดียว และปลุกเสกไปเรื่อยๆ เมื่อเรียบร้อยแล้วท่านจะใช้เวลาปลุกเสกนานอีก 1 พรรษาจึงจะแล้วเสร็จ ปีหนึ่งๆท่านทำได้เพียงไม่กี่ดอก หลวงพ่อท่านทำครั้งสุดท้ายปี พ.ศ. 2515 แจกลูกศิษย์ในงานฉลองพระอุโบสถ ใครได้เป็นเจ้าของตะกรุดของหลวงพ่อ รักษาติดตัวใว้ ซึ่งมีพุทธานุภาพ เสริมสง่าราศี เสริมอำนาจบารมี ป้องกันผองภัย แคล้วคลาดศาสตราอาวุธป้องกันภูติพราย ภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงไม่มาแผ้วพาน ใช้ได้สารพัดตามแต่จะอธิฐาน...
...วัตถุมงคลของหลวงพ่อจันทร์ ล้วนแล้วแต่มีพุทธคุณยอดเยี่ยมเป็นเลิศทุกอย่าง เป็นของที่ควรเก็บรักษาไว้บูชา ซึ่งได้มีประสพการณ์ต่างๆมากมาย ซึ่งปัจจุบันวัตถุมงคลบางอย่างก็หาได้ยากมาก เพระเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ลูกหาของท่านเป็นอย่างมากในปัจจุบัน...

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [อา. 06 ม.ค. 2556 - 20:01 น.] #2628890 (3/3)
บุคคลิกพิเศษ***...หลวงพ่อจันทร์...

...ผู้ที่ได้พบเห็นหลวงพ่อ ณ ที่ใดย่อมจะมีความเลื่ยมใสในบุคคลิกลักษณะของท่านเป็นพิเศษ ครั้งหนึ่งหลวงพ่อไปเยี่ยมศิษย์ที่คณะ น.18 วัดพระเชตุพน พอดีโอกาศนั่นเป็นโอกาศที่พระบวชใหม่ และบวชชั่วคราวที่อยู่ ณ กุฏินั้นจะลาสิกขา จึงได้กราบอาราธนาให้หลวงพ่อทำพิธีให้ เมื่อโยมชายหญิงของพระบวชใหม่มาเห็นนั้น จึงเกิดความเลื่ยมใสศรัทธาจนน้ำตาไหล...
...หลายบ้านที่เจ้าของบ้านอยู่ไม่เป็นสุข เป็นเพราะเจ้าที่แรง ผีบ้านผีเรือนดุ เมื่อหลวงพ่อไปประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ให้แล้ว เป็นอันว่าทุกอย่างเรียบร้อย เจ้าของบ้านก็อยู่อย่างเป็นสุข ตั้งแต่นั่นเป็นต้นไป...

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1