ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้



(N)


ชื่อบัญชี นายปริญญา
สาขาย่อยอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เลขที่ 744 - 2 - 55321 - 6
พระอยู่ในสภาพเดิมๆ สนใจติดต่อ 084-6935029
ท่านใดสนใจพระรายการใด กรุณาโทรสอบถามก่อน ว่ารายการนั้นยังอยู่หรือเปล่า
รับประกันพระแท้ ( ทุกรายการ ) ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับพระแล้ว
พระปลอมยินดีคืนเงินเต็มจำนวน ( ไม่มีการหัก )
แต่พระที่คืนมานั้นต้องอยู่ในสภาพเดิมๆ
ท่านใดที่โอนเงินแล้ว ช่วยโทรแจ้งด้วยนะครับ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
ในการจัดส่งพระไปให้ท่านครับ

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [อ. 14 พ.ค. 2556 - 20:38 น.]



โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [อ. 14 พ.ค. 2556 - 20:48 น.] #2823366 (1/2)
“หลวงพ่อฮวด” เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2447 ปีมะโรง ที่ ต.ดอนหวาย อ.ทับทัน จ.อุทัยธานี เดิมมีชื่อว่า “ฮวด” นามสกุล “พงษ์ทอง” บิดาชื่อ “นายสา” มารดาชื่อ “นางมี” มีอาชีพทำนาและพี่น้อง 4 คน “หลวงพ่อ” อุปสมบทที่ วัดพนมรอก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เมื่อปี พ.ศ.2466ได้รับฉายาว่า “กณฑโว” โดยมี “เจ้าคุณนิพัทธรรมจารย์ วัดพนมรอก” เป็นพระอุปัชฌาย์หลังอุปสมบทแล้วได้จำพรรษาและปรนนิบัติรับใช้พร้อมทั้งเล่าเรียนพระธรรมวินัยพระปริยัติธรรมและวิทยาคมจาก “พระอุปัชฌาย์” แล้วจึงย้ายไปจำพรรษาที่ “วัดหัวถนนใต้” ตลอดมานอกจากนี้ยังได้เดินทางไปศึกษาวิทยาคมจาก “หลวงพ่อสุข วัดสระโบสถ์” ต.ดอนคำ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ และยังได้รับตำราใบลานของ “หลวงพ่อเฒ่า แห่งวัดหนองโพ” ซึ่งเป็นอาจารย์ของ “หลวงพ่อเดิม” โดยได้รับคำชี้แนะอย่างใกล้ชิดจาก “หลวงพ่อเดิม” อีกด้วย

โดยในสมัยนั้น “หลวงพ่อเดิม” ได้รับกิจนิมนต์ไปยังที่ใดก็มักจะชวน “หลวงพ่อฮวด” ร่วมเดินทางไปด้วยเสมอจึงนับได้ว่า “หลวงพ่อฮวด” เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกับ “หลวงพ่อเดิม” และยังได้ศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมจากหลวงพ่อเดิมอีกด้วยถึงกระนั้นก็มิได้หยุดการเสาะแสวงหาอาจารย์เพื่อขอถ่ายทอดคาถาอาคม จึงไปทำการศึกษาวิชาเพิ่มเติมจาก “หลวงพ่อพุฒ” จังหวัดอ่างทอง “หลวงพ่อนอ” จังหวัดอยุธยาทั้งนี้เพราะหลวงพ่อแต่ละรูปก็เก่งกันไปคนละด้านนั่นเอง ต่อมาเมื่อปีพ.ศ.2474ได้รับแต่งตั้งเป็น “เจ้าอาวาสวัดหัวถนนใต้” และ “เจ้าคณะตำบลหัวถนน” ด้วยคุณงามความดีของหลวงพ่อจึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท “พระครูนิยุตธรรมประวิตร” เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2531 “หลวงพ่อฮวด” ถึงแก่มรณกาลเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2535 อายุได้ 89 ปี พรรษาที่ 68 คณะศิษย์จึงจัดพิธีสรงน้ำศพขึ้นที่วัดเวลาประมาณ 16.30 น.ขณะเริ่มสรงน้ำศพก็ปรากฏฝนได้โปรยปรายลงมาทั้งๆที่ยังมีแดด ยังความอัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็นเป็นยิ่งนัก จากนั้นคณะศิษย์ได้บรรจุร่างของท่านลงในโลงแก้ว เพื่อให้สาธุชนได้กราบไหว้บูชาและจัดสวดพระอภิธรรมถวายท่านใน100วันแรก ซึ่งระหว่างนี้ปรากฏว่าผู้คนที่แวะไปกราบไหว้ ต่างก็มีโชคมีลาภจากเลขอายุและเลขพรรษาอย่างทั่วหน้า ยิ่งกว่านั้นสภาพสังขารของท่านดุจดั่งคนนอนหลับธรรมดาไม่มีการเน่าเปื่อย ทั้งๆที่มิได้ฉีดยาหรือปิดฝาโลงด้วยสุญญากาศแต่อย่างใด แถมเส้นเกศายังค่อยๆงอกยาวขึ้นอีกด้วย คณะศิษย์จึงมีมติให้จัดสร้างพระวิหารถวายท่าน เพื่อเป็นที่ตั้งศพและที่สิงสถิตดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมเครื่องอัฐบริขารของท่านไว้ให้สาธุชนทั่วไปสักการะกราบไหว้บูชาสืบไป

จากนั้นผ่านไปอีก 4 ปี หนังสือพิมพ์รายวัน “เดลินิวส์” ที่ท่านอ่านอยู่นี้ฉบับวันที่ 8 เมษายน 2539 ได้เสนอข่าวพาดหัวว่า “เผยปาฏิหาริย์ปู่ฮวด” โดยเนื้อข่าวสรุปว่าทางวัดหัวถนนใต้และคณะศิษย์ได้เปิดโลงแก้ว เพื่อชำระทำความสะอาดร่างหลวงพ่อฮวดเพื่อทำบุญวันสงกรานต์ หลังจากหลวงพ่อฮวดได้มรณภาพมา 4 ปีแล้ว ปรากฏว่าร่างของท่านไม่เน่าเปื่อย แต่กลับกลายเป็นหินแข็งมีสีเป็นทองอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง ดังนั้นหากท่านผู้อ่านมีโอ กาสก็ไปกราบขอพรจากท่านได้ ณ วัดหัวถนนใต้ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [อ. 19 พ.ย. 2556 - 19:27 น.] #3089956 (2/2)
มีคนนิมนต์แล้วครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1