 (N)

การศึกษาพุทธาคม หลวงพ่อสง่าเริ่มศึกษาอักขระ เลขยันต์ คาถาอาคมตั้งแต่ตอนเป็นหนุ่มสมัยยังอยู่วัดบ้านหม้อ ทั้งวิชาสักยันต์ตามความเชื่อของคนหนุ่มในสมัยนั้น ครั้นมาอุปสมบทแล้วก็ให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ท่านเล่าว่า แม้จะไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่เป็นความนิยมของคนสมัยนั้น เพื่อให้เกิดศรัทธายึดเหนี่ยวทางจิตใจ หลวงพ่อเป็นอาจารย์สักอยู่หลายปี ทั้งนี้เพื่อให้ชาวบ้านได้ใกล้ชิดวัดใกล้ชิดพระที่จะมุ่งเข้าสู่อุบายธรรมอบรมสั่งสอนได้ง่ายขึ้น คนที่สักยันต์จากท่านแล้วเป็นคนดีก็มาก เป็นนักเลงก็มี แต่หลังจากนั้นท่านก็เลิกพิธีกรรมทั้งหมด เพราะเห็นว่าไม่เกิดแก่นสารที่แท้จริง สำหรับการศึกษานั้น ท่านเล่าว่า อาจารย์แต่ก่อนเขาให้เราศึกษาวิธีก่อน วิชาหาง่ายแต่วิธีหายากวิชาเขียนอยู่ในตำรับ แต่วิธีต้องปฏิบัติจริงใช้เป็น ครูบาอาจารย์จึงสอนให้รู้จักใช้วิธีกันก่อน
เมื่อมีเวลาว่าง ได้ไปขอต่อวิชาจากหลวงปู่ดี วัดบ้านยาง อ. บ้านโป่ง จ. ราชบุรี ซึ่งเก่งในการสร้างพระปิดตามหาอุตม์ คงกระพันชาตรี หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ. กาญจนบุรี ศิษย์หลวงปู่ยิ้ม สอนวิชาเขียนลบผงอิทธิเจ ปถมัง ตรีนิสิงเห พุทธคุณยันต์ 108 นะ 108 ฯลฯ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ. นครปฐม ถ่ายทอดสุดยอดวิชาหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ. นครปฐม ครอบครูนะเมตตา สอนการเจริญวิปัสสนา สมาธิ และสุภาษิตบันลือโลก รู้จักพอ ก่อสุข ทุกสถาน หลวงพ่อสง่ามีความจำเป็นเลิศ สามารถนำสรรพเวทย์สรรพวิชาต่างๆ มาประยุกต์ใช้แล้วแต่โอกาส
ปฏิปทากิตติคุณ คุณธรรมของหลวงพ่อสง่าท่านเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูง พัฒนาวัดพัฒนาคนให้รู้จักหลักการดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข ให้รู้จักอดทน เพียรพยายามพึ่งตนเองชนะใจตนเอง เน้นวิถีชีวิตอย่างชาวบ้าน ดังคำสอนที่ท่านเน้นเสมอว่า คนเราถ้าไม่รวยก็อย่าจน หาได้ใช้เป็นก็จะไม่จน ผู้คนมากมายจากทุกสารทิศต่างหลั่งไหลไปกราบนมัสการและขอของดีจากท่านอยู่ประจำ ศิษย์ของท่านในกรุงเทพฯ มีหลายแห่งด้วยกันที่ศรัทธาเลี่ยมใสนิมนต์ท่านเพื่อไปเป็นประธานงานบำเพ็ญกุศล ทำบุญบ้านที่เป็นใหญ่ เป็นโตมีชื่อเสียงก็มีมาก แต่หลวงพ่อไม่เคยคุยอวดให้ใครรู้ว่าศิษย์ของท่านใหญ่ระดับไหน เมื่อใครอยากไปหาท่าน ท่านก็ต้อนรับเหมือนกันไม่มีพิธีรีตองอะไรนัก คือว่าคนเราทำงานก็ต้องมียศศักดิ์สูงต่ำ แล้วแต่ความสามารถของแต่ละบุคคล
ข้าราชการหลายท่านที่เดินทางไปกราบนมัสการขอให้ท่านรดน้ำมนต์ และทำพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา เมื่อสมัยที่ยังอยู่จำพรรษาที่วัดหนองม่วง เมื่อท่านทำให้ใครแล้วเรื้องร้ายๆ จะกลายเป็นดีไป บางคนค้าขายไม่ดีไปหาท่าน ท่านก็เมตตาให้ศีลให้พร ก็ค้าขายดีขึ้น หลวงพ่อสง่ามีความเชี่ยวชาญในเรื้องฤกษ์ยาม มีเรื้องเล่ากันว่าที่ฝั่งธนบุรีและแถวบ่อนไก่ เมื่อหลายปีก่อนมีค่ายมวยชื่อดังค่ายหนึ่งซึ่งแรกก็ไม่รู้จักหลวงพ่อสง่า มีเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มาฝึกหัดมวยคนหนึ่ง วันหนึ่งไปเที่ยวงานวัดใกล้ค่ายมวย ถูกเด็กเจ้าถิ่นแทงด้วยมีดพกและถูกรุมทำร้าย หัวหน้าคณะและเพื่อนนักมวยรู้ข่าวก็ไปช่วยดูแล เมื่อรู้ว่าไม่เป็นอะไรมากจึงสอบถามว่ามีอะไรดี? เขาบอกว่าไปลงกระหม่อมมา และมีตะกรุดหลวงพ่อสง่าติดตัวอยู่เพียงดอกเดียว ต่อมาคณะนักมวยก็เดินทางไปกราบนมัสกานท่านถึงวัดเพื่อขอของดี นักมวยคนที่เคยถูกทำร้ายนั้น ทุกครั้งที่จะขึ้นชกต้องไปให้หลวงพ่อเป่ากระหม่อมให้ก่อนเสมอ ชกทีไรไม่เคยแพ้ถึงแพ้บ้างก็เพียงคะแนนเท่านั้น ตอนหลังๆ ค่ายมวยแห่งนี้ขอให้ท่านลงมงคลสวมหัวนักมวย ซึ่งต้องใช้ฤกษ์ยามเวลาเริ่มต้น และค่ายมวยนี้ยังนิมนต์ท่านไปเจิมป้ายเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย |