 (D)

รุ่น ถุงเงิน ถุงทอง
พิธีการและสถานที่ปลุกเสก
วัตถุมงคล ท้าวจตุคามรามเทพ
รุ่น ถุงเงิน ถุงทอง มหาเศรษฐี
สถานที่ใช้ในการประกอบพิธีมงคลมหามงคลพุทธาพิเษก องค์ท้าวจตุตามรามเทพ
รุ่น ถุงเงิน - ถุงทอง มหาเศรษฐี มีด้วยกัน 6 ที่ คือ
1.พิธีมหามงคล ณ วัดโคกธาตุ
2.พิธีัมหามงคล ณ สะดือทะเล
3.พิธีมหามงคล ณ ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราชุ
4.พิธีัมหามงคล ณ เขามหาชัย ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
5.พิธีัมหามงคล และพิธีมหาเทวาพิเษก ณ มณฑลพิธีศาลหลักเมือง จ.นครศรีธรรมราช
6.พิธีมหามงคล และพิธีมหาเทวาพิเษก ณ วิหารหลวงวัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
ประธานฝ่ายสงฆ์
พระราชธรรมสุธี
เจ้าคณะจังหวัดและเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
ประธานฝ่ายฆราวาส
ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์
อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
พระเกจิอาจารย์
1.พ่อท่านเือื้อม กตปุญโญ (เจ้าอาวาสวัดบางเนียน) อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
2.อาจารย์เนียม (เจ้าอาวาสวัดบางไทร) อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
3.พระเกจิอาจาย์สายเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง
วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง ดังนี้
1. เพื่อจัดสร้างซุ้มประตูวัดโคกธาตุ
2. ทาสีและปูกระเบื้องภายในวัดอุโบสถ
3. จัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมให้กับวัดโคกธาตุ
4. ต่อเติมเมรุให้แล้วเสร็จ
มวลสารที่ใช้ในการประกอบพิธีพุทธาพิเสก
องค์ท้าวจตุคามรามเทพ รุ่น ถุงเงิน - ถุงทอง มหาเศรษฐี
เนื้อดินผงพระธาตุ
น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ 5 แหล่ง
เหรียญสตางค์โบราณ
ลูกปัดและเปลือกหอยโบราณ
ดอกไม้บูชาวัดพระมหาธาตุ
แก่นไม้เมื่อย
เศษกระเบื้องเก่าวัดพระมหาธาตุ
อิฐจากวัดพระมหาธาตุ
เนื้อไม้ต่าง ๆ เนื้อดินกากยายักษ์
และเนื้อว่านสบู่ดำ
ว่านพระเจ้า 5 พระองค์
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากลูกศิษย์ ใกล้ชิดของพ่อท่านเอื้อม กตปุญฺโญ ถึงประวัติเกจิดังว่าพ่อท่านเอื้อมก่อนออกบวชได้ฝากตัวเป็นศิษย์สำนักวัดเขาอ้อ จ.พัทลุง เป็นศิษย์ผู้น้องร่วมสำนักเดียวกับ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธร เขต 8 นครศรีธรรมราช หลังเชี่ยวชาญเรื่องวิชาอยู่ยงคงกระพันแล้ว พ่อท่านเอื้อม หรือนายเอื้อมในขณะนั้นได้นำวิชาไปใช้ ในทางที่ผิด นำสมุนออกปล้นฆ่าจนกลายเป็นขุนโจรชื่อดังในจังหวัดภาคใต้ รู้จักกันในนาม เสือเอื้อม ทางการได้ส่งขุนพันธ์ ศิษย์ผู้พี่ลงไปปราบปราม แต่ไม่สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ กล่าวกันว่า ขณะขุนพันธ์วิ่งไล่จับเสือเอื้อม ปรากฏว่าเสือเอื้อมหายตัวไปต่อหน้าต่อตา จนสุดท้ายขุนพันธ์ประกาศว่าหากเสือเอื้อมไม่อยากถูกจับตายก็ให้ไปบวชเป็นพระเสีย เสือเอื้อมเกรงบารมีของขุนพันธ์ประกอบกับสำนึกผิดในกรรมที่ก่อไว้จึงได้ออกบวชนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ขณะอายุ 65 ปี โดยไม่ยอมสึก ใช้ชีวิตสมถะ จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของ พุทธศาสนิกชน และก่อนที่ขุนพันธ์จะเสียชีวิตเคยปรารภกับคนใกล้ชิดว่าคนที่จะรับช่วงปลุกเสกวัตถุมงคลจตุคามรามเทพคนต่อไปได้คือพ่อท่านเอื้อม เท่านั้น |