 (D)

ว่าเป็นบรมครูในการสร้างกระลาตาเดียวของทางเหนือเลยครับ เป็นเกจิยุคเก่า ครูบานันตา ตามประวัติท่านเป็นพระธุดงค์มาจากลาว ครับ หลวงพ่อน้อยท่านก็ได้ขึ้นมาเรียนวิชาทำกะลาเพิ่มเติมจากท่านครับกะลาของท่านมีทั้งที่แกะแบบวิจิตรพิสดารและแบบฝีมือชาวบ้าน กะลาของท่านถือได้ว่าเป็นที่แสวงหาและปารถนาเป็นกะลายอดนิยมอันดับหนึ่งของทางเหนือ มีทั้งแบบคู่และแบบเดี่ยว แบบคู่จะนิยมมากกว่าคือ มีทั้งสุริยประภา และจันทรปะภา อุปเท่ห์การใช้เช่น กลางวันแขวนด้านสุริยออก กลางคืนแขวนด้านจันทร ออก คุ้มครองและเสริมดวงทั้งกลางวันและกลางคืน ท่านว่า.....ยันต์จันทรประภา.....ยันต์สุริยประภา....นั้นครบเครื่อง.....มีคุณเอกอนันต์.....เอายันต์ทั้งสองประกบชื่อเขา.......เป็นเมตตา.....คงกระพันนั้น......มีคุณอยู่ ในตัวแล้ว...................เป็นกำบังนั้น.....กลางวันเอาสุริยประภาบังกลางคืนนั้นเอาจันทรประภาบัง.................................หากอดอยาก................ก็อธิฐานเอา เถิดคนไม่เอามาให้เทวดาก็เอามาให้..................ต้องการทรัพย์สินเงินทอง..........เอาพระยันต์ทั้งสอง.....ใส่พานแล้วบูชาด้วยเครื่องเงินทองไหล มาดั่งวาริน.........หากคิดว่าเงินทองอยู่ที่ใด....เอาพระยันต์ควำหน้าแล้วอธิษฐานหากมีทรัพย์พระยันต์จะกลับตัว.........หากออกรบ..........เอาพระยันต์ทั้ง สองจุนเจิมด้วยน้ำหอมมาทาตัวศาสตราไม่ระคายผิวเลย.....หนุนดวง..พระอังคารเข้าพระเสาร์แทรกหรือราศีทับลักขณา.........หมั่นบูชาหนุนดวงดีนัแล......จงหมั่น บูชาเถิดพระยันต์ทั้งสองเป็นพระยันต์อันศักดิ์สิทธ์อันหาค่ามิได้ |