(D)
องค์แรกเลย
รุ่นนี้เป็นรุ่นจะว่าไป เรียกลองพิมพ์ก็ได้นะครับ เป็นช่วงที่ลองเปลี่ยนสูตรผสมพระนะครับ โดยใช้น้ำตาลเชื่อม แต่ยื่นยันว่าฉลองมณทป ไม่มีเนื้อชานหมากนะครับ
รุ่นนี้กดพิมพ์ประมาณปลายเดือนมกราคม 2514 ถ้าตามหนังสือจะบอกแค่ว่า ทำไม่ถึง 200 องค์ แต่ผมสอบถามกรรมการยุดนั้น ได้ข้อมูลมาว่า ทำทั้งหมดสี่ พิมพ์ คือ พิมพ์ซุ้มกว้าง ระฆังใหญ่ ระฆังเล็ก และ สมเด็จฐานสามชั้นแซม จำนวนนั้น แต่ละรุ่นประมาณ 2-3 โหล ครับ เท่ากับว่ามีประมาณ ไม่ถึง 150 องค์
ส่วนเนื้อมวลสารเท่าที่จำได้ มีผงแก้ว 3 ดวง ขี้เถ้าธูปในกระถางธูปหน้าโต๊ะบูชา ในกุฏิหลวงพ่อ น้ำมนต์ ทรายเสก ปูนขาวจากเปลือกหอย กล้วยน้ำหว้า ว่าน108 ใช้น้ำตาลทรายเป็นตัวประสาน ตรงนี้จะแตกต่างกับรุ่น ฉลองมณทป อื่นๆๆ ทั้งเนื้อไฟเบอร์ (กดพิมพ์ที่วัดเดือนกุมภา) และเนื้อขาว (กดพิมพ์ที่บ้านหมอสมสุขเดือนมีนา)รุ่นนี้จะแจก กรรมการวัด ตอนแรก จะทิ้งเนื่องจากเปลี่ยนสูตรใช้น้ำตาลทรายแทน พระออกมาไม่สวย ร่าน ร้าว เยอะ และเป็นขุ่ย ลองพิจารณาเนื้อเอานะครับ จะไม่เหมือนเนื้อฉลองมณทป ที่พบเห็นทั่วไป แต่หลวงพ่อท่านเป็นคนมัธยัส เห็นดังนั้นก็เลย "ว่าไม่ต้อง เดี่ยวจะทำให้อย่างดี เอาไว้บูชากันเองละกัน" รุ่นจึงได้ทำแจกกรรมการวัด สังเกตไหมครับ ทำไมรุ่นที่แจกกรรมการวัด ส่วนใหญ่จะต้องสวยต้องพิเศษกว่าที่ให้คนทั่วไปบูชา ทำไมรุ่นนี้ถึง ไม่สวย ร่าน ร้าว ชำรุดได้ง่าย แต่ดันมาแจกกรรมการวัด
ปัจจุบัน รุ่นนี้จะหาสภาพสวยค่อนข้างยาก และทำจำนวนน้อยตั้งแต่ต้น ยิ่งมาถึงปัจจุบันด้วยจำนวนก็น้อยลงตามลำดับ ปีที่แล้วผมเจอ สดฐานสามชั้นแซม แทบมองไม่ออกเป็นสมเด็จแล้ว ศึกษาเนื้อหา ให้ดีนะครับ ถ้าเพื่อนเจอ อย่าเผลอตีเก้นะครับ
รุ่นลองพิมพ์ ปี 14 (ผมเรียกเองนะ ให้คล้ายกับลองพิมพ์ของลป.ทิมนะครับ)นี้ แต่คนส่วนใหญ่ รวมทั้งในหนังสือ จะเรียกว่า รุ่นฉลองมณทป เนื้อน้ำตาลทราย รุ่นนี้ก็อธิฐานจิต สามครั้ง คือ เดือนมกรา (หลังจากทำเสร็จ) เดือนกุมภา และ พร้อมกับรุ่นฉลองมณทปอีก ที่เป็นอย่างนี้เพราะหลวงพ่อ เมื่อทำเสร็จ หลวงพ่อให้เขาเอาไปเก็บที่กุฏิที่ป่าช้า และเมื่อก่อนงานฉลองมณทป อธิฐานจิตตอนเช้า พร้อมฉลองมณทป ก็ให้กรรมการวัด เอาไป | 
[พ. 02 พ.ค. 2550 - 09:03 น.]